6 มีนาคม 2557

The Punisher #1 (2014)

นานนับปีที่ เดอะ พันนิชเชอร์ ต่อสู้กับเหล่าอาชญากรในนิวยอร์ค
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ลอสแองเจลลิสแล้ว
เรื่องราวบทใหม่ของบุรุษผู้เปิดสงครามกับเหล่าอาชญากรด้วยตัวคนเดียวเริ่มแล้ว



The Punisher #1 (2014)
Memento Mori
เรื่องโดย : Nathan Edmondson | ภาพโดย : Mitch Gerads
วางจำหน่าย : 5 กุมภาพันธ์ 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

เริ่มเรื่องมาที่ สาธารณรัฐโตโก ใกล้กับชายแดนกาน่า
ชายคนนึงถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้และกำลังจะโดนปาดคอ แต่ทันใดก็มีระเบิดแสงปาทะลุหน้าต่างเข้ามา
และมีทีมช่วยเหลือบุกเข้ามาช่วยเขาออกไปได้

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



ซึ่งหลังจากเสร็จภารกิจช่วยตัวประกันแล้ว
พวกเขาก็คุยกันว่าหลังจากนี้จะไปพักผ่อนอะไรดี
แต่ก็มีข้อความเข้ามาซะก่อนว่าให้พวกเค้าไปรวมพลโดยด่วน




ตัดมาที่แม่น้ำ La Tovara ประเทศเม็กซิโก
Punisher พระเอก (?) ของเราก็กำลังดำน้ำเล่นอยู่
เอ๊ย! กำลังดำน้ำเพื่อไปโผล่ดักซุ่มกับเหล่าร้ายที่กำลังนัดพบกันเพื่อซื้อขายยาเสพติด



นาย A : เฮ้! โทษทีที่มาช้านะ เรามัวแต่หลบยามชายฝั่งอยู่น่ะ
งั้นเรามาเริ่มทำการซื้้อขายกันตามแผนกำหนดการเลยดีกว่า
แต่ทันใดนั้นเจ้าสองตัวที่อยู่ข้างหลังนาย A ก็โดนเป่ากบาลร่วงไปดื้อๆ
แถมเรือคู่ค้าอีกลำที่ขนเงินมาซื้อยาก็โดนบึ้มทิ้งไปซะงั้น



นาย A : เหี้ยอะไรเนี่ย?! เงิน! เงิน!

(What The Hell เป็นคำอุทานหยาบคาย
มีอีกคำนึงที่ความหมายเดียวกัน แต่หยาบคายน้อยลงมาหน่อยคือ What The Heck
ซึ่งเป็นการตั้งใจเพี้ยนเสียงของคำว่า Hell ถ้าแปลเป็นไทยคงคล้ายๆกับคำว่า เชี่ยอะไรเนี่ย?!)
แล้วก็มีชายคนนึงโผล่มายืนอยู่ข้างหลังพร้อมเอาปืนจ่อหัวนาย A เอาไว้
บุรุษลึกลับ : เงินแกมันไปแล้ว
นาย A : โอ้! พระเจ้าช่วย แก.. แก..
บุรุษลึกลับ : แกขนยาไปให้ใคร
นาย A : ชั้นไม่รู้ พวกเราแค่เอามันมาหย่อนไว้ใต้น้ำ
บุรุษลึกลับ : แกขนยาไปให้ใคร



แต่นาย A เจ้ากรรมดันทะลึ่งไปเอามือจับกระบอกปืนของบุรุษลึกลับเข้า
พี่แกก็เลยยิงบรึ้มมือนาย A เข้าให้ (โหดจริ๊งงงงงง!!)

บุรุษลึกลับ : ยาพวกนี้จะถูกส่งไปที่ลอสแองเจลิส บอกชั้นมาว่าแกจะส่งมันไปให้ใคร
"ชื่อ" หรือไม่งั้นแกอาจจะลองไปทดสอบโชคของแกกับจระเข้พวกนี้ดู
แล้วก็มีจระเข้ว่ายน้ำป๋อมแป๋มน่ารักน่าชังผ่านเข้ามาในฉาก
นาย A : เฮคเตอร์.. เฮคเตอร์ ซัวเรซ (Hector Suarez) เขาเป็นพ่อค้าคนกลาง
เราเอายาพวกนี้ไปให้เขาที่แอลเอ
นาย A : โอเคมั๊ย ? โอเครึยัง ชั้นบอกแกแล้ว เพราะงั้นปล่อย.. ปล่อยชั้นไปได้รึยัง..
บุรุษลึกลับ : แกบอกชั้นแล้วก็จริง แต่มันแบบว่า..
ยาของแกมันทำร้ายผู้คนไปเยอะมาก
บุรุษลึกลับ : แล้วชั้นก็ว่ายน้ำมาโคตรไกล แค่เพื่อเล่นงานแกนี่แหละ
ว่าแล้วป๋าแฟรงค์ก็ถีบนาย A โครมให้ลงไปว่ายน้ำเล่นกับจรเข้ซะเลย



แล้วกล้องก็ซูมมาให้เห็นหน้าบุรุษลึกลับกันชัดๆ ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ต้องเดาก็รู้แหละว่าใคร
ก็มันจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ป๋าแฟรงค์ แคสเซิล หรือ Punisher พระเอก (?) ของเรานี่เอง



วันถัดมาที่ย่านดาวน์ทาวน์ของลอสแองเจลลิส
ป๋าแฟรงค์ก็นั่งจิบกาแฟแล้วนั่งมองแหวนวงนึงอยู่
ตำรวจหญิงทีนั่งข้างๆก็ถามว่าไปได้มันมาจากไหน แล้วรู้มั๊ยว่ามันคืออะไร
ซึ่งป๋าแฟรงค์ก็บอกว่าเก็บได้จากในน้ำ และคิดว่ามันเป็นแหวนประดับธรรมดา
แต่ตำรวจหญิงบอกว่ามันคือ Memento Mori ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกเสมอว่าวันนึงคนเราต้องตาย



ป๋าแฟรงค์ก็เลยโยนแหวนให้ตำรวจหญิงคนนั้นเก็บไว้แล้วบอกว่า
"ไม่จำเป็นต้องให้อะไรมาเตือนหรอกว่าความตายกำลังจะมาหาผมหนะ"



ต่อมาป๋าแฟรงค์ไปเอาของที่สั่งไว้จากเพื่อนทหารคนนึงที่ยัคกาแวลเลย์ (Yucca Valley)
เพื่อนทหารก็บอกว่าจะไม่ถามแล้วกันนะว่าเอาไปทำอะไร ยังไงก็คงได้เห็นในข่าวแน่ๆ



หลังจากนั้นป๋าแฟรงค์ก็มาซุ่มรอจัดการกับเป้าหมาย
โดยขับรถไล่ตามรถของเฮคเตอร์มาเรื่อยๆ กะว่าจะไปหาที่เชือดเงียบๆ
"Death is Immediate but Killing Takes Patience"
ความตายเป็นเรื่องกะทันหัน แต่การฆ่าต้องใช้ความอดทน



แต่เนื่องจากรถติดมาก ทำให้ป๋าแฟรงค์นั่งเบื่ออยู่ในรถมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
(โถๆๆ นี่ถ้ามาอยู่กรุงเทพ รถติด 30 นาทีนี่จิ๊บๆ)
ป๋าแฟรงค์เลยไม่อยากจะอยู่ในโหมด (ซะงั้น)
เลยลงไปซัลโวพวกลูกน้องของเฮคเตอร์ซะเรียบกลางถนนเลย



แล้วก็จับตัวเฮคเตอร์ขึ้นรถมาบังคับให้บอกว่าเอายาไปส่งที่ไหน
ไอ้คุณเฮคเตอร์ก็บ่นว่ารถนี่มันห่วยชะมัด และบอกว่าถึงบอกไปยังไงแฟรงค์ก็คงจะฆ่ามันทิ้งอยู่ดี
ป๋าโหดเลยเอาที่จุดบุหรี่ในรถทิ่มหน้ามันเข้าให้แล้วบอกว่านี่มันคำถามง่ายๆ
เพราะฉะนั้นให้คำตอบง่ายๆกับชั้นมาดีกว่า! ที่ไหน ?



เฮคเตอร์เลยจำใจต้องพาป๋ามาที่ตึกแห่งหนึ่ง
จากนั้นก็โม้สารพัดว่านี่คือตีกของดอส โซเลส (Dos Soles) แกไม่มีทางเข้าไปได้หรอก
ข้างในติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทั่ว หรือต่อให้แกผ่านเข้าไปได้ทางลิฟต์หรือบันไดก็ตาม
มือปืนทุกคนในนั้นก็พร้อมเล่นงานแกอยู่แล้ว ชั้นรู้ว่าแกเจ๋งนะ แต่เจ๋งแค่นั้นยังไม่พอหรอก
พวกเค้ากำลังจะครองเมืองนี้อยู่แล้ว
แกมันประสาทหรืออาจจะบ้าด้วย คนบ้าโดนเชือดเสมอแหละ
เกือบทั้งเมืองนี้อาจจะกลัวแก แต่ไม่ใช่กับคนพวกนี้หรอกน่า
อย่างน้อยก็ปลดกุญแจมือชั้นซะก่อน เพราะถ้าแกเข้าไปแล้วแกคงไม่ได้กลับมาปลดมันแน่ๆ
ชั้นไม่อยากจะติดแหง่กอยู่ในรถบุโรทั่งของแกหรอกนะ



ดูถูกกันขนาดนี้ป๋าแฟรงค์ก็เลยเดินไปเปิดกระโปรงท้ายรถ
พร้อมหยิบของที่ไปเอามาจากเพื่อนทหารมา ซึ่งมันก็คือ "บาซูก้า"!!?
"ชั้นก็ไม่เคยวางแผนว่าจะเข้าไปข้างในนั้นอยู่แล้ว"
แล้วก็ยิงบาซูก้าใส่ม่า-งซะเลย



แล้วก็เดินจากไปปล่อยให้เฮคเตอร์บ่นว่า "เฮ้ย! พวกอย่าทิ้งชั้นไว้ตรงนี้รอไอ้พวกตำรวจนะโว้ย"

"Hey, Man! Don't Leave Me Here For The Pigs"
Man แปลว่าผู้ชาย แต่ในทีนี้จะเป็นคำสรรพนามภาษาพูดเอาไว้ใช้เรียกผู้ชายอีกคนนึง
อย่างที่เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆ เช่น Yo! What's Up, Man ? โย่! ว่าไงพวก ?
Pig แปลว่าหมูและเป็นแสลงไว้สำหรับใช้ดูถูกใครด้วย เช่นที่เราเคยได้ยินกันว่าไอ้พวกหมูสกปรก
แต่ในกรณีนี้เฮคเตอร์น่าจะใช้เรียกตำรวจ ที่เดี๋ยวก็คงแห่กันมามากกว่า



วันต่อมาป๋าแฟรงค์ก็ไปนั่งกินกาแฟอยู่ร้านเดิม
เจ้าของร้านที่ชื่อลู (Lou) บอกว่าเมื่อคืนนายทำงานได้ดีมากนี่นา
(อืม.. แปลว่าลูรู้ว่าตัวจริงของป๋าแฟรงค์คือ Punisher สินะ)
ลู : เจ้าหน้าที่แซม (คนที่ป๋าแฟรงค์ให้แหวนไป) มาที่นี่เมื่อกี้นี่เองแล้วก็ถามหานายนะ
Punisher : ถามว่าอะไร ?
ลู : ไม่มีอะไรพิเศษหรอก เธอชอบพวกหมาจรจัดละมั๊ง คิดว่านะ
Punisher : ชั้นเป็นแบ่บว่าพวกหมาไคโยตีมากกว่า

(Coyote อ่านว่า ไคโยตี หรือ ไคโยต ตามสำเนียงอเมริกัน
แต่คนไทยนิยมเรียกว่า โคโยตี้ ตามสำเนียงอังกฤษ เป็นชื่อของสุนัขป่าชนิดหนึ่ง
แต่คนไทยเอามาใช้ในความหมายของสาวๆแดนเซอร์นุ่งน้อยหุ่มน้อย
จากหนังเรื่อง Cotoye Ugly ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับบาร์เหล้าที่สาวๆ เจ้าของร้านจะมาเต้นโชว์แขกนั่นเอง
อนึ่งคำว่า Coyote Ugly เป็นสแลงหมายถึง คนที่น่าเกลียดมาก
ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้ชายหรือผู้หญิงตื่นขึ้นมาจากการร่วมหลับนอนกับคนที่เพิ่งพบกัน
และสังเกตเห็นว่าคู่นอนหน้าตาน่าเกลียดมาก ไม่เหมือนกับตอนก่อนหลับนอนกัน
และพยายามที่จะหนีแม้ว่าจะต้องตัดแขนตัวเองให้ขาด
เปรียบเทียบกับโคโยตี้เมื่อเวลาติดกับดักจะพยายามดึงขาตัวเองให้หลุดออกจากกับดัก
แม้ว่าขาจะขาดก็ตาม

ลู : ได้ข่าว่าคืนนี้ Punisher จะออกมาอีก ใครๆก็ต้องเตรียมโหลดกระสุนปืนทั้งนั้น
ไม่ว่าจะคนดีหรือคนร้าย เพราะงั้นคืนนี้แซมเลยไม่ว่าง
Punisher : พวกอาชญากรคงต้องเตรียมกระสุนเป็นสองเท่าของตำรวจละน่ะ
ลู : นั่นแหละคือทำไมเราถึงต้องการ Punisher แถวๆนี้มากกว่าที่เราต้องการ Avengers ซะอีก
Punisher : ทำไมยังงั้นล่ะ ?



เพราะไม่มีใครกลัว Avengers นะสิ
(แต่กลัว Punisher เพราะ Avengers ไม่ฆ่าอาชญากร แต่ป๋าแฟรงค์ยิงไม่เลี้ยง)

ในขณะที่แซมกำลังตรวจจุดเกิดเหตุที่ป๋าแฟรงค์เอาบาซูก้ายิงถล่มตึกอยู่
ก็มีกลุ่มคนมองดูอยู่ไกลๆ
"พวกตำรวจหาเขาไม่เจอหรอก"



แต่พวกเราหาเจอแน่
ใช่! พวกเราจะเป็นคนแรกที่จะฉีกโลกของมันให้เป็นชิ้นๆ
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ เพราะมันเองก็มือโปร
แต่ไม่มีใครเรียกใช้ฮาวลิ่งคอมมานโด (Howling Commando) สำหรับงานง่ายๆอยู่แล้ว
พวกเขาก็คือทีมปฏิบัติการที่ออกมาตอนต้นเรื่องนี่เอง

Howling Commando เป็นชื่อทีมในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ของนิค ฟิวรี่ (Nick Fury) อดีต ผบ. หน่วยชีลด์
แต่ในซีรีย์นี้ดูเหมือนจะมีการตั้งทีมนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นคนละทีมกันกับทีมเดิมนะครับ



ความตายของหมอนั่นเป็นเรื่องแน่นอน
เราจะทำให้มั่นใจว่ามันจริง



***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          เล่มนี้ถือเป็นคอมมิคเรื่อแรกที่ผมหัดสปอยล์เลยครับ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผมเองก็เพิ่งหัดอ่านคอมมิคได้แค่ 4-5 เดือนเท่านั้นเอง แต่อ่านแล้วเกิดอินมากถึงมากที่สุดกับโลกอันยิ่งใหญ่ของคอมมิคอเมริกา ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เกิดมา 30 กว่าปีผมไม่เคยอ่านคอมมิคเลย จนถึงเมื่อปลายปีที่แล้ว (อุ๊บส์! เผลอบอกใบ้อายุไปซะแล้ว) ถามว่าทำไมผมถึงเลือก The Punisher ขึ้นมาสปอยล์ก่อน ผมชอบฮีโร่ตัวนี้ที่สุดหรือ ? เปล่าเลย แต่ที่เลือกป๋าแฟรงค์มาก่อน เพราะเนื้อเรื่องพี่แกน่าจะสปอยล์ง่ายที่สุด ไม่ค่อยไปเกี่ยวข้องกับฮีโร่ตัวอื่นๆเท่าไหร่ และนี่ก็เป็นคอมมิคเล่มแรกของป๋าแฟรงค์ที่ผมเคยอ่านด้วยเหมือนกัน คือแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับป๋าเท่าไหร่เลย เคยดูตอนสร้างเป็นหนังแค่ภาคแรกเองด้วยซ้ำ (ซึ่งขอบอกแม่งไม่สนุกเลย) แต่ถึงป๋าจะไม่ใช่ฮีโร่ที่ผมชอบที่สุด แต่ก็ชอบเป็นลำดับต้นๆ ผมอ่านคอมมิคเจอป๋าแฟรงค์ครั้งแรกตอนที่อ่านอีเวนต์ Civil War ซึ่งเป็อีเวนต์ที่ 2 ที่ผมอ่านคอมมิค (อีเวนต์แรกคือ Avenger vs. X-Men) ซึ่งตอนนั้นผมประทับใจในความดิบเถื่อนของป๋ามาก พอเห็นป๋ามีซีรีย์ของตัวเองออกมา แล้วไม่ค่อยเห็นคนสปอยล์คอมมิคของป๋าเลย ผมก็เลยถือโอกาสนี้เอามาสปอยล์ให้อ่านกันครับ

          อีกเรื่องคือ ความพยายามในการสอดแทรกภาษาอังกฤษเข้าไปในการสปอบล์ของผม เนื่องจากสมัยเด็กๆ ผมเองก็เป็นคนโง่ภาษาอังกฤษมาก ที่ไม่เคยอ่านคอมมิคเลยเพราะมันไม่มีแปลไทย และก็ไม่คิดจะหัดภาษาอังกฤษด้วย จนโตมาชอบเพลงฮิพฮอพเข้าเส้นเลือด เลยอยากจะรู้ว่าเนื้อเพลงมันร้องว่าอะไร หลังจากนั้นในยุคที่ Myspace.com บูม (เป็น Social Network ที่โด่งดังมาก่อน hi5 และ facebook นะ ใครเกิดทันเล่นบ้าง ?) ตอนนั้นพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้นะ ต้องภาษาอังกฤษอย่างเดียว ซึ่งตอนนั้นสาวไทยที่เล่นเวบนี้จะเป็นสาวระดับเรียนอินเตอร์หรือเด็กนอกซะส่วนมาก ด้วยความที่หน้าม่ออยากจะจีบสาว ตอนนั้นเลยหัดภาษาอังกฤษจริงจัง ถึงขั้นเข้าไปนั่งอ่านหนังสือภาษาอังกฤษใน B2S ฟรีแทบทุกวัน วันละเป็นชั่วโมง เพื่อจะได้ไปคอมเมนท์จีบสาวในเวบได้ จนหลังๆพบว่าภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเรามีเอามันมารวมเข้ากับสิ่งที่เราสนใจ (กรณีผมคือเพลงกับความหน้าม่อ) เพราะงั้นถ้าคนชอบอ่านคอมมิค ก็น่าจะฝึกภาษาอังกฤษจากคอมมิคได้ไม่ยาก (ซึ่งบอกเลยนี่ถ้าผมอ่านคอมมิคตั้งแต่ ป.4 ป่านนี้ผมคงเก่งอังกฤษโคตรๆ มีเมียฝรั่งไปแล้วมั๊ง) ผมจึงอยากพยายามสอดแทรกเกร็ดภาษาอังกฤษเล็กๆน้อยๆเข้าไปในงานสปอยล์ของผม เพราะเห็นว่าเรากำลังจะเข้าสู่ยุคเสรีอาเซียนกันแล้ว แต่เด็กไทยเรายังอ่อนภาษาอังกฤษกันอยู่มาก แถมด้วยข้ออ้างสุดคลาสสิคเช่น "สนใจทำไมภาษาอังกฤษ ประเทศเรามีภาษาของตัวเอง เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร" หรือ "สนใจไปก็เท่านั้น ไม่ได้จะไปทำงานต่างประเทศซักหน่อย สุดท้ายก็เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาแค่นั้นแหละ" ซึ่งจากประสบการณ์ใช้ชีวิตมา 3 ทศวรรษของผม ขอบอกเลยว่านั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะทำงานที่ไหน ยังไง การรู้ภาษาอังกฤษจะทำให้เราได้เปรียบในหลายๆด้าน แม้จะตำแหน่งงานเดียวกัน คนที่รู้ภาษาอังกฤษก็อาจจะได้เงินเดือนมากกว่าคนไม่รู้หลายพันบาททีเดียว หรืออย่างน้อยๆ ที่สุด ถ้าคุณรู้ภาษาอังกฤษ.. คุณก็อ่านคอมมิคเองได้แล้ว ไม่ต้องรอใครมาสปอยล์ให้อ่าน ฮ่าๆๆ

     เอาละ.. บ่นน้ำไหลไฟดับกันมามากแล้ว ก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามกัน ขอคอมเมนท์เล็กๆน้อยๆเป็นกำลังแนะนำติชม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคอมมิคที่ผมอาจจะไม่รู้เพิ่มเติมได้ตลอดนะครับ.. ขอบคุณครับ

10 ความคิดเห็น:

  1. ป๋านี่โหดตลอดเบย สะใจๆ เสมอต้นเสมอปลาย

    ตอบลบ
  2. เห็นคอมเมนท์แค่นี้ คนสปอยล์ก็มีกำลังใจทำต่อแล้วครับ.. ดีใจที่ชอบกัน ^^

    ตอบลบ
  3. ฉากที่แฟรงค์บังคับเฮคเตอร์ให้บอกสถานที่ที่ไปส่ง แฟรงค์ไม่ได้ใช้กุญแจรถทิ่มหน้าครับ ใช้ที่จุดบุหรี่ในจี้หน้าตะหาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอ้อ! อันนี้เพื่อนผมก็บอกมาแล้วเหมือนกัน ผมลืมแก้ครับ ฮ่าๆๆ.. ยังงี้แหละครับ คนไม่มีรถขับ ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกับสิ่งของในรถ แหะๆ ^^

      ลบ
  4. เข้ามาติดตามเพราะมีสปอยล์ Punisher นี่แหละ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณครับบบบบบ

    ตอบลบ
  6. ป๋าแกไม่คิดจะเข้าไปตั้งแต่ที่แรกแล้วสินะ

    ตอบลบ
  7. นาย A นี่หน้าเหมือน Machete เป๊ะเลย

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณครับ สนุกมาก

    ตอบลบ