เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ สิ่งประดิษฐ์โบราณซึ่งแฝงไว้ด้วยพลังมหาศาล
ที่สามารถจะเปลี่ยนจักรวาลนี้หรือทำลายทั้งจักรวาลลงไปก็ได้
เหล่าการ์เดี้ยนและเอ็กซ์เม็นจึงต้องรวมตัวกันเพื่อหาทางจัดการกับมัน!!
Guardians of the Galaxy & X-Men: The Black Vortex Alpha #1 (2015)
The Black Vortex Chapter 1
เรื่องโดย : Sam Humphries
ภาพโดย : Ed McGuinness, Kris Anka
วางจำหน่าย : 4 กุมภาพันธ์ 2558
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
ที่สามารถจะเปลี่ยนจักรวาลนี้หรือทำลายทั้งจักรวาลลงไปก็ได้
เหล่าการ์เดี้ยนและเอ็กซ์เม็นจึงต้องรวมตัวกันเพื่อหาทางจัดการกับมัน!!
Guardians of the Galaxy & X-Men: The Black Vortex Alpha #1 (2015)
The Black Vortex Chapter 1
เรื่องโดย : Sam Humphries
ภาพโดย : Ed McGuinness, Kris Anka
วางจำหน่าย : 4 กุมภาพันธ์ 2558
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
เปิดฉากมาที่สตาร์ลอร์ด (Star-Lord) กับเหล่าเอ็กซ์เม็น (X-Men) รวมทั้งคิตตี้ (Kitty Pryde), การ์เดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่ (Guardians of the Galaxy) และกัปตันมาร์เวล (Captain Marvel) กำลังยืนจ้องวัตถุอันหนึ่งอยู่
Star-Lord : งั้น ? ใครจะเป็นคนแรกที่จะลองมันล่ะ ?
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
การ์เดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่ และ เอ็กซ์เม็น
เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์
เมื่อมีการตั้งค่าหัวปีเตอร์ ควิลล์ขึ้นมา ปีเตอร์พบว่าตัวเขาถูกตามล่าโดยกลุ่มนักสู้ที่เรียกว่าเดอะสลอทเธอร์สควอด ซึ่งเป็นลูกสมนุนของมิสเตอร์ไนฟ์ผู้ลึกลับ ในขณะที่ถูกพวกมันจับตัวไว้ ปีเตอร์ได้เผชิญหน้ากับไนฟ์ผู้ซึ่งเขาค้นพบว่าที่จริงแล้วคือพ่อของเขาเอง เจสัน จักรพรรดิ์ผู้ถูกขับไล่แห่งสปาร์แท็กซ์ แม้ว่าคิตตี้ ไพรด์ แฟนใหม่ของปีเตอร์จะมาช่วยปีเตอร์ได้ทันเวลาจากการถูกล้างสมองโดยพ่อของตัวเองแต่พวกเขาทั้งคู่ก็ยังคงไม่รู้ถึงแผนที่แท้จริงของไนฟ์
นั่นคือการครอบครองวัตถุซึ่งมีพลังคอสมิคอันเกินจินตนาการที่รู้จักในชื่อแบล็คเวอร์เท็กซ์และการดึงตัวเทน บุตรแห่งทานอส มาร่วมมือสู่ความมุ่งหมายของเขา มันดูเหมือนว่าภารกิจที่จะทวงสิทธิ์การควบคุมกาแล็คซี่อีกครั้งของมิสเตอร์ไนฟ์จะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงกว่าที่พวกเขารู้ยิ่งนัก
สิบสองพันล้านปีก่อน
ดาวเคราะห์วิสคาร์ดิ
"เราบินขึ้นไปแล้ว!"
ยานอวกาศลำหนึ่งถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าในฐานยิงจรวดที่มีผู้คนมาเฝ้าดูเหตุการณ์กันอย่างล้นหลาม และใครอีกคนที่เฝ้ามองจากหน้าผาที่อยู่ห่างไกลออกไป รวมทั้งหุ่นขนาดยักษ์สีดำทะมึนยืนตระหง่าน ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในเผ่าเซเลสเที่ยล (Celestials) เทพเจ้าแห่งจักรวาลนั่นเอง
"ความหวังและคำวิงวอนของเราไปพร้อมกับพวกคุณ
เหล่าลูกเสือดวงดาราผู้กล้าหาญ"
เหล่าลูกเสือดวงดาราผู้กล้าหาญ"
ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มาคอยให้กำลังใจ นี่คงจะเป็นการปล่อยยานอวกาศขึ้นสู่ฟากฟ้าเป็นครั้งแรกของชาวดาววิสคาร์ดิ
A : พวกเขาบอกว่าครั้งนี้ต้องผ่านไปได้แน่นอน...
B : มันเกือบจะผ่านก็อดเฮด (Godhead)* ไปแล้ว!
C : นั่นไง!
*จริงๆคำว่า Godhead แปลว่า พระเจ้า ได้เช่นเดียวกับ God แต่ขออนุญาติใช้ทับศัพท์ เพราะคิดว่าทางคนเขียนคงไม่ได้ต้องการให้แปลว่าพระเจ้าเช่นกัน แต่คงอยากให้เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกหุ่นยักษ์ตัวนี้ของชาวดาววิสคาร์ดิมากกว่า
แต่ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด ก็เกิดขึ้นมา
ตูมมมมมม
ยานอวกาศเกิดระเบิดขึ้นเมื่อมันบินขึ้นไปถึงระดับความสูงเพียงระดับสายตาของหุ่นยักษ์สีดำทะมึนนั้น
"เหตุร้าย!"
"ขอย้ำ-- เหตุร้าย!"
??? : บ้าเอ๊ย
??? : จรวดลำที่เก้า ความล้มเหลวครั้งที่เก้า
แปลว่านี่ไม่ใช่การปล่อยยานอวกาศครั้งแรกของชาวดาววิสคาร์ดิ
??? : พวกเราพัฒนาจากถ้ำสู่ฟากฟ้าในสี่ชั่วอายุคน--แล้วก็แค่นี้นะเหรอ ?
เป็นดาวที่มีการพัฒนารวดเร็วจริงๆครับ กว่ามนุษย์จะคืบคลานออกจากถ้ำแล้วพัฒนามาเป็นโลกศิวิไลซ์อยู่ทุกวันนี้ไม่รู้ผ่านไปกี่ร้อยชั่วอายุคน (แต่บางทีชั่วอายุคนของชาวดาวนี้ อาจจะชั่วอายุละพันปีอะไรงี้ก็ได้นะ ฮ่าๆๆ)
??? : พวกเราไปถึงเพดานของจักรวาลแล้วงั้นเหรอ ?
??? : เป็นไปไม่ได้
??? : เรารู้ว่ามีใครอยู่ข้างนอกนั่นอีกไม่ใช่แค่พวกเรา เรารู้ว่ามีอะไรในจักรวาลนี้อีกไม่ใช่แค่วิสคาร์ดิ
??? : เรารู้ก็เพราะว่าท่านไง ท่านเจ้าของเรา ก็อดเฮด
??? : ท่านยืนตระหง่านอยู่เหนือเราแต่ไม่เคยกล่าวอะไรเลย! ไม่เคยยอมรับในการมีตัวตนของพวกเรา!
??? : ความกล้าหาญของพวกเราไม่ทำให้ท่านเคลื่อนไหวได้เลยใช่มั๊ย ? ความฝันไฝ่ของพวกเราไม่จุดประกายใดๆให้ท่านเลยใช่มั๊ย ?
Gara : ข้าคือการ่า! (Gara) ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเหล่าดวงดารา! ท่านไม่ได้ยินข้ารึไง?!
Gara : ท่านไม่เคยรู้สึกปราถนาสิ่งใดเช่นเดียวกับที่พวกข้าปราถนาบ้างรึ ? ท่านไม่เคยฝันให้สูงกว่าความเข้าใจของตัวเองบ้างรึไง ?
Gara : ท่านไม่รักพวกเราหรือ ? เราเพียงปราถนาที่จะเข้าใกล้ท่าน... ที่จะรู้จักจักรวาล
ครืนนนนน
ทันใดนั้นหุ่นยักษ์สีดำทะมึนก็มีการเคลื่อนไหว
Gara : ท่านเคลื่อนไหวได้-- ท่านเห็นข้า!
ซู่มมม
ก่อนที่จะใช้พลังส่งสิ่งของบางอย่างมายังหน้าผ้าที่น้องกะลา เอ๊ย การ่ายืนอยู่
Gara : ท่านก็อดเฮด สิ่งนี้คืออะไร ? หรือมันจะเป็น... ?
Gara : หรือมันจะเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ ?
สิ่งนั้นคือกระจกบานใหญ่ที่เมื่อการ่าจ้องมองเข้าไป เธอก็เห็นเงาของตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทรงพลังกว่าตัวตนที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้
Gara : คำตอบแด่คำวิงวอนของพวกเรางั้นหรือ ?
Gara : ศักยภาพของพวกเรา... ได้ถูกตระหนักแล้วงั้นหรือ ?
"นายไปไกลเกินแล้วนะ--"
โรงเรียนจีนเกรย์สำหรับการเรียนรู้ขั้นสูง
โลกมนุษย์
สตอร์ม (Storm) และบีสต์ (Beast) กำลังเถียงกันเรื่องที่บีสต์พาตัวพวกเอ็กซ์เม็นรุ่นแรกในวัยเด็กข้ามเวลามาอยู่ในยุคปัจจุบัน
Storm : --และนายก็รู้ดี แฮงค์ ถ้านายทำมันพัง นายก็ต้องซ่อมมันซะ
Beast : ชั้นไม่ได้ทำอะไรพังซักหน่อย สตอร์ม
Storm : พวกเอ็กซ์เม็นรุ่นแรกมาอยู่ผิดที่ในกระแสเวลานะ
Beast : พวกเขาไม่ได้อยู่ผิดที่ ชั้นพาพวกเขามาที่นี่ต่างหาก
Storm : ชั้นรู้ดีพอเรื่องกาลและอวกาศที่จะรู้ว่านี่แหละปัญหาล่ะ
Beast : ไม่มีพวกเราคนไหนที่จะรู้ดีพอว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นหรอกน่า
Storm : ก็นั่นแหละปัญหา!
Beast : ชั้นยอมรับ.... ว่าชั้นไม่เข้าใจผลลัพธ์ทั้งหมดของการเคลื่อนย้ายแทนที่ ความต่อเนื่องของกาล-อวกาศมันซับซ้อนเกินไป
Beast : ถ้าชั้นสามารถมองเห็นทั้งหมดพร้อมกันได้ละก็--
Storm : แฮงค์ ดูนั่น!
เหล่าอันแคนนี่เอ็กซ์เม็น (Uncanny X-Men) ซึ่งเป็นทีมที่แยกตัวไปของไซคลอปส์ ได้ปรากฎตัวขึ้นโดยมีเมจิค (Magik) เป็นผู้เทเลพอร์ตพาพวกเขามา และคนอื่นๆ ก็คือ เอ็กซ์-23 (X-23) หญิงสาวผู้เป็นร่างโคลนของวูลฟ์เวอรีนและพวกเอ็กซ์เม็นรุ่นแรก จีน เกรย์ ในวัยเด็ก (Jean Grey), ไอซ์แมน ในวัยเด็ก (Iceman), แองเจิ้ล ในวัยเด็ก (Angel) รวมถึง บีสต์ ในวัยเด็ก (Beast) เองด้วย
Magik : นายถูกเรียกตัว ดอกเตอร์แมคคอย
Magik : ออกภารกิจภาคสนามสู่อวกาศเพื่อโปรเฟสเซอร์ เค
ส่วนไอซ์แมนวัยหนุ่มผู้ร่าเริงก็ยังคงทักทายทั้งคู่ราวกับพวกเขาไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
Iceman : ไฮย่า สตอร์ม! ไฮย่า บีสต์!
Magik : เราคุยกันว่าไงเรื่องทัศนคติของนายน่ะ ไอซ์แมน ?
Iceman : "จงเป็นความหวาดกลัวที่นายปราถนาจะเห็นในโลกนี้ซะ"
ทำเอาไอซ์แมนผู้ร่าเริงถึงกับก้มหน้าจ๋อยไปเลย
Storm : อิลยาน่า เธอเป็นอาชญากรจริงๆไปแล้วตอนนี้ เธอจะอยู่ดีๆมาปรากฎตัวในโรงเรียนไม่ได้--
Beast : คิตตี้อยู่ในอวกาศงั้นเหรอ ? เรื่องบ้าอะไรในโลกที่ทำให้เธอ--
Magik : รักแท้ไงล่ะ แมคคอย มันน่ายี้สุดๆ ไม่มีเวลาจะคุยให้มากความแล้ว--
Magik : --นายรอให้คิตตี้อธิบายเองแล้วกัน
"ชั้นจะไม่อธิบายอีกแล้วนะ!"
ยานของเหล่าการ์เดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่
พวกการ์เดี้ยนซึ่งประกอบไปด้วยร็อคเก็ตแรคคูน (Rocket Raccoon), กรู้ท (Groot), แดร็กซ์ (Drax The Destroyer), กาโมร่า (Gamora), แฟลช ทอมป์สัน หรือ เอเจนท์วีน่อม (Flash Thompson) และแครอล แดนเวอร์ หรือ กัปตันมาร์เวล (Captain Marvel) กำลังเล่นเกมกระดานกันอยู่ ซึ่งเห็นแล้วเงิบมาก เทคโนโลยีในอวกาศพัฒนากันไปถึงไหนต่อไหน พวกเอ็งยังไปเอาเกมกระดานที่ต้องใช้ดินสอกับกระดาษแล้วก็ลูกเต๋าในการเล่นเกมจากที่ไหนมาเล่นกันฟ่ะ!!
Rocket Raccoon : --ถ้าชั้นบอกว่าพวกครีมันสามารถหายใจเป็นไฟได้แล้วยังไงรู้มั๊ย ?
Rocket Raccoon : ไอ้พวกบ้านั่นก็เรอออกมาเป็นเครื่องพ่นไฟได้เลยไงล่ะ!
Groot : ไอ แอม กรู้ท ?
Rocket Raccoon : เพราะว่าชั้นคือปรมาจารย์แห่งเกมไง นั่นแหละเหตุผล!
Drax : ตาชั้นเดิน ชั้นฆ่าปรมาจารย์แห่งเกมแน่
Gamora : ตาชั้นเดิน ชั้นชิงตำแหน่งปรมาจารย์แห่งเกมแน่
Flash : ชั้นเปื่อยสุดๆกับการที่ตัวเล่นของชั้นติดอยู่กับพวกสครัลงี่เง่านี่
Captain Marvel : โอเค โอเค ร็อคเก็ต! ในความเป็นจริงที่เป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่าเป็นไปไม่ได้ พวกครีหายใจเป็นไฟได้ก็ได้
Captain Marvel : เราจะกลับไปเล่นเกมกันต่อได้รึยัง
Rocket Raccoon : โอเค โอเค ฟังนะ!
Rocket Raccoon : "ออกจากจักรวาลอันมืดมิด ภัยคุกคามใหม่ปรากฎขึ้น! มันทำให้พวกนายขวัญผวา ทำให้พวกนายกลัวหัวหด--"
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงเรียกเข้าจากเครื่องสื่อสารดังขึ้นมา
Rocket Raccoon : โอ้ ไม่เอานะเว้ย
นั่นก็คือการติดต่อเข้ามาจากปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์ลอร์ด สมาชิกอีกคนของทีมนั่นเอง
Star-Lord : เฮ้ พรรคพวก นี่ชั้นเอง! เพื่อนรักที่แสนดีสุดๆของพวกนาย ปีเตอร์ ควิลล์!
Rocket Raccoon : พวก ชั้นกำลังมันๆเลยนะ!
Groot : ไอ แอม กรู้ททททททท!
Drax : ตาชั้นเดิน ชั้นฆ่าปีเตอร์แน่
Gamora : นายรบกวนคืนแห่งเกมนะ!
Captain Marvel : สายพิเรนท์ วางหูไปเลย
Star-Lord : พรรคพวก! พรรคพวก! พวกนายก็รู้ว่าชั้นเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของคืนแห่งเกมน่า--
Flash : ก็ไม่มากพอที่จะมาเข้าร่วมด้วยนะ
Star-Lord : ชั้นจะไม่รวบกวนมันหรอกนอกซะจากว่ามันมีเรื่องฉุกเฉิน!
Star-Lord : ชั้นกำลังมีปัญหาใหญ่แล้ว แบบว่า จริงๆนะ
"มันเริ่มจากตอนที่คิตตี้กับชั้น แอบเข้าไปในป้อมปราการเหิรฟ้าของมิสเตอร์ไนฟ์..."
"...อย่าถามชั้นว่ายังไงแล้วกัน"
Kitty : เซอไพรส์ นายห่วย! แก้ผ้าเดี๋ยวนี้
"มันเป็นวิธีปล้นแบบโบราณนั่นแหละ"
เพราะว่าทั้งคู่แอบเข้าไปในรถเข็นเสื้อผ้าที่เพิ่งส่งซักของป้อมไวเดอร์ดูม (Viderdoom) ห๊ะ! เทคโนโลยีก้าวหน้าขนาดนั้น พวกเอ็งยังต้องเอาเสื้อผ้าใส่แล้วมากองรวมๆกัน แล้วส่งซักทีเดียวกันอยู่อีกหรอเนี่ย มันไม่มีวิธีอะไรที่ดีกว่านั้นในการซักผ้าแล้วเร๊อะ ?
"เราอยากจะถุยน้ำลายใส่หน้าของมิสเตอร์ไนฟ์ หรืออีกชื่อนึงก็คือ พ่อเวรตะไลของชั้น..."
"...ที่กล้าเรียกคิตตี้ว่ายายปากมาก"
Star-Lord : คิตตี้ นี่ถ้าผมเดินทะลุกำแพงได้อย่างคุณละก็ ผมคงไม่มีวันหยุดขโมยของได้แน่ๆ
Star-Lord : คุณมีความสุขมั๊ย ?
แล้วคิตตี้ก็จับสตาร์ลอร์ดด๊วบปากแทนคำตอบ
Kitty : นั่นคือ ใช่
Kitty : ถ้าแผนผังนี้ถูกต้องละก็ ห้องค้นคว้าของไนฟ์ก็อยู่ใต้เท้าเราแล้ว
Kitty : ตอนนี้ก็มาหวังให้หมอนั่นอยู่คนเดียวแล้วกัน--
Star-Lord : อุ๊ปส์
"แต่อะไรที่เราค้นพบนั้น..."
"...เป็นสิ่งที่เกินกว่าที่พวกเราคาดหวังไว้"
J'son : จงดู... ประตูสู่พลังที่ไร้ขีดจำกัด
แบล็คเวอร์เท็กซ์
Thane : ไนฟ์ นายหวังจริงๆว่าข้าจะประทับใจ--
Thane : --ด้วยเจ้าขยะโบราณชิ้นนี้นะหรือ ?
J'son : จงดูอีกครั้ง เทน (Thane)
J'son : ภราดรโลหิต (Blood Brothers) คนสุดท้าย ครั้งนึงเขากับพี่น้องของเขาแบ่งปันการเชื่อมต่อ พลังของพวกเขาหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกัน
J'son : แต่เมื่อพี่น้องฝาแฝดของเขาตายไป... เขาก็อยู่ในสภาพอดอยากจากพลังงานนั้น จิตวิญาณนักรบที่มีก็เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์
J'son : แต่มันมีวิธีแก้ไขอยู่!
เจสันหรือมิสเตอร์ไนฟ์พาบลัดบราเธอร์คนนั้นมายืนอยู่หน้ากระจกบานหนึ่ง
Blood Brothers : ข้า... ข้า... ข้ายอมสวามิภักดิ์ต่อเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์
ซึ่งกระจกบานนั้นก็คือเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ สิ่งประดิษฐ์โบราณแห่งจักรวาลนั่นเอง
Blood Brothers : อ๊าาาากกก--!
J'son : ภราครคนเดิมได้จากไปแล้ว ขอให้ข้านำเสนอแก่ท่าน--
Blood Brothers : ฮั่ก ฮั่ก ฮั่ก
ฮะว๊าาาาาากกก!
J'son : --โลหิตภราดร! (Brother Blood)
ห๊ะ! เอ็งแค่กลับชื่อจากหน้าไปหลังเนี่ยนะ ทำไมมันดูงี่เง่าง้องแง้งจังฟ่ะ >_<"
J'son : สมาชิกคนล่าสุดของทีมใหม่ที่ถูกขนานนามว่า--
--เจ้าสังหาร
(Slaughter Lords)
เหล่ากลุ่มสังหารที่ประกอบไปด้วย ฟาเธอร์เดียโบล (Father Diablo), เดลฟิเนีย (Delphinia), ซีซาร์ ดูน (Czar Doon), มิซา นักล่า (Misa The Hunter) ซึ่งได้รับพลังจากเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันทรงพลัง
Star-Lord : โอ้ ซวยล่ะ
Kitty : พวกนั้นใช่พวกที่ลักพาตัวคุณไปหรอนั่น!
Star-Lord : ใช่แหละ แต่พวกมันไม่ดูเหมือนตอนนั้นเลย
Star-Lord : เราต้องรีบออกไปจากที่บ้าๆนี่แล้ว
Kitty : คุณไม่เห็นรึไงว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้น ?
Star-Lord : ไม่ใช่ปัญหาของเราซักหน่อย!
Kitty : กระจกนั่น-- จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันสามารถเปลี่ยนแปลงใครก็ได้ ? คุณเห็นพวกสลอทเธอร์สควอดแล้วนี่--
Kitty : -- ถ้าป๊ะป๋าคุณใช้มันกับทุกคนในกองกำลังนี้ล่ะ ?
Kitty : หรือกับตัวเขาเอง?!
Star-Lord : โอ้ว พ่อหนุ่ม... คุณอยากจะให้มันกลายเป็นปัญหาของเราแล้วใช่มั๊ยเนี่ย?!
J'son : จำที่ชั้นสัญญากับนายได้มั๊ย เทน ? ความปลอดภัย ความคุ้มครอง สำหรับนายและพวกพ้องแห่งความศรัทธาของนายในที่ๆนายเรียกว่าบ้าน
J'son : พลังที่จะกำชัยเหนือทุกผู้คนที่อยากจะให้นายตาย... รวมทั้งทานอส
J'son : พลังที่ไม่มีขีดจำกัด ค่าตอบแทนที่นายจะได้รับสำหรับงานงานเดียวที่นายต้องทำให้ชั้น แค่งานเดียว
Thane : ยังไง... ?!
J'son : ทั้งหมดที่นายต้องทำคือสวามิภักดิ์
J'son : ยอมสวามิภักดิ์ต่อจักรวาล
J'son : ยอมสวามิภักดิ์ต่อศักยภาพที่แท้จริงของเจ้า
Thane : ได้...
Thane : ...ข้า ยอมสวามิภักดิ์...
แค่พลังในตอนนี้ของเทนก็นับว่าร้ายกาจยากเกินกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆในจักรวาลนี้จะต่อกรกับเขาได้แล้ว ถ้าหากเขาได้รับพลังจากแบล็คเวอร์เท็กซ์เพิ่มไปอีก ก็ยากที่จะคาดคำนวนความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว
แต่ยังไม่ทันที่เทนจะกล่าวจบคำ
Star-Lord : ยี๊ฮ่าาวว!
สตาร์ลอร์ดกับคิตตี้ก็กระโดดลงมาขัดจังหวะได้ก่อน
Kitty : นี่สำหรับที่หาว่าชั้น "ปากมาก" ?
คิตตี้ใช้ปืนที่ไปเอามาจากไหนก็ไม่รู้ยิงใส่มิสเตอร์ไนฟ์หรือตัวตนที่แท้จริงคือเจสัน พ่อผู้แสนบัดซบของสตาร์ลอร์ด
J'son : อ๊าาากก!
และใช้พลังของเธอพาเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ทะลุพื้นออกไปด้วย
Thane : ไม่นะ
Delphinia : เจ้านาย! ท่านโอเครึเปล่า ?
J'son : หยุดดดดดดพวกมันเดี๋ยวนี้!
J'son : เจ้าพวกโง่! หยุดพวกมันให้ได้!
J'son : ตามพวกมันไป ก่อนที่พวกมันจะ--
Misa : ใจเย็นๆ มิซา นักล่าผู้นี้รู้ว่าเจ้านกน้อยสองตัวทำรังรักกันอยู่ที่ไหน
"พวกเราหนีไปได้ก่อนที่พวกนั้นจะทันรู้ตัวก็จริง"
"แต่นั่นเป็นแค่ส่วนที่ง่าย ตอนนี้พวกเราอยู่ในเส้นทางที่ยากเกินกว่าเราจะเข้าใจแล้ว*--"
*Over One's Head เป็นสำนวนที่หมายถึงสิ่งที่ซับซ้อนหรือสับสนเกินกว่าที่คนๆนั้นจะเข้าใจครับ
Star-Lord : --นั่นคือเหตุผลที่พวกเราเรียกพวกคุณทุกคนมาที่นี่วันนี้... เอ่อ
สตาร์ลอร์ดกำลังพยายามอธิบายเหตุผลที่เขาเรียกตัวเหล่าเอ็กซ์เม็นและการ์เดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่ทั้งหมดมา
Star-Lord : เราต้องการความช่วยเหลือเพื่อที่จะ... เอ่อ พวกนาย ?
ดาวเคราะห์สปาร์แท็กซ์
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจฟังที่สตาร์ลอร์ดพูดเลย เพราะต่างฝ่ายต่างมัวแต่ทักทายถามไถ่สารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกันเพราะไม่ได้เจอกันมานาน
Star-Lord : ฮัลโหล ? ชั้นอยู่ตรงนี้! พวกนายเคยสนใจชั้นมั่งมั๊ยเนี่ย?!
Beast : คุณควิลล์ ? ถ้าชั้นจะขอดูซักหน่อย ?
Star-Lord : ทำไมจะไม่ได้ล่ะ บีสต์-- สบาย สบายยยย!
Beast : แบล็คเวอร์เท็กซ์ สมมติฐานที่หนึ่ง--
Beast : --การแก้ไขควอนตัม (Quantum Interpolation) ผ่านอนุภาคแวน สโตเลน (Van Stolen Particle)
Beast : สมมติฐานที่สอง--
Ma Savage : ปีเตอร์ ควิลล์ เอาเจ้าฮูลิแกนพวกนี้ออกไปจากสนามหน้าบ้านชั้นนะ
Star-Lord : อู้ มา! อย่าทำให้ผมขายหนาต่อหน้าเพื่อนๆของผมสิ!
Kitty : ทุกคน นี่คือ มา ซาเวจ (Ma Savage) เธอเป็นเหมือนกับแม่คนที่สองของปีเตอร์ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเธอรับเด็กจากทั่วกาแล็คซี่เลย (มา นี่ไม่ใช่ว่าทุกคนบนโลกจะเป็นแบบนี้กันหมดหรอกนะ)
Ma Savage : นั่นก็ถูก ปีเตอร์โตขึ้นมาจริงๆในบ้านหลังนี้
Star-Lord : ผมอายุยี่สิบแล้วนะตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก
Ma Savage : อย่างที่ชั้นพูดนั่นแหละ เธอมีอะไรที่ต้องโตอีกมาก
เด็กน้อย : ปีเตอร์ เมื่อไหร่พวกคนเลวจะไปซักทีล่ะฮับ ?
Star-Lord : คนเลว?!
Star-Lord : พวกนี้คือคนดีที่ดีที่สุดในจักรวาลเลยนะ! พวกเขาจะช่วยปกป้องสปาร์แท็กซ์!
แต่สิ่งที่สายตาของเด็กน้อยต่างดาวมองเห็นจากพวกบีสต์ แองเจิล และ กาโมร่า กลับเป็นภาพของคนที่ดูชั่วร้ายน่ากลัว
เด็กน้อย : คุณแน่ใจหรอฮับ... ?
Kitty : แฮงค์!
Kitty : คิดว่าไงมั่งล่ะ ดอกเตอร์แมคคอย ?
Beast : ก็นะ ผู้บัญชาการอวกาศ คิตตี้--- จากที่เธอเล่ามา เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์อาจจะเป็นเรื่องหลอกลวง หรือไม่มันก็สามารถทำลายกาแล็คซี่ได้เลย เราจำเป็นต้องซ่อนมันไว้จนกว่า--
Rocket Raccoon : บลา บลา บลา หลบไปข้างๆเลย ร้อยโทบลูเบอร์รี่ ชั้นอยากจะเห็นว่าชั้นจะดูเป็นยังไงถ้ามีกล้ามใหญ่ๆขึ้นมา
Beast : นายไม่มีโร้ดรันเนอร์ให้ไปไล่จับรึไง
Rocket Raccoon : ชั้นจับไปแล้ว ทอดแล้วก็กินเรียบร้อยพร้อมวอฟเฟิล
Beast : นี่มันไม่ใช่ของเล่นนะ มันอาจจะเปลี่ยนแปลงอารยธรรมทั้งหมด... แสดงถึงก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตที่ชาญฉลาดทุกหนแห่ง
Beast : แต่ถ้าอยู่ในมือคนผิดแล้วละก็...
ในระหว่างนั้นเอง เด็กคนนึงเดินเข้าไปหยุดยืนมองอยู่หน้ากระจก
Storm : มาเถอะ เด็กน้อย เข้ามาเล่นใกล้ๆ กับกระจกนี่เกินไปอาจจะเป็น...
...อันตราย...
"เทพี"
สตอร์มมองเห็นตัวเองในรูปลักษณ์ใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมจากเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์
และเห็นภาพนิมิตของตัวเธอเองที่สามารถอยู่ในอวกาศได้และไม่เพียงแต่ควบคุมลมฟ้าอากาศ แต่ถึงขั้นควบคุมลมสุริยะ (หรืออะไรก็แล้วแต่)
และใช้มันทำลายดาวทั้งดวงได้อย่างไม่ยากลำบาก
"ข้าขอร้องเจ้าล่ะ การ่า--"
ดาวเคราะห์วิสคาร์ดี้
หนึ่งปีหลังจากการมาถึงของเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์
Adron : --ทำลายเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ซะ!
Gara : ไม่มีวัน เอดรอน!
Adron : มันทำลายล้างพวกเรา... หยุดซะก่อนที่มันจะทำลายเจ้าไปด้วย--
Gara : ไม่มีวัน
ก็อดเฮด
Gara : เราได้ถามเช่นที่ท่านถามแล้ว! ชาววิสคาร์ดิทั้งหมดยอมสวามิภักดิ์ต่อเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์!
Gara : นี่ใช่มั๊ยที่ท่านร้องขอ ?
Gara : เผ่าพันธ์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกรียงไกรต้องถูกแบ่งแยกและบ่อนทำลายจากภายใน ?
Gara : นี่ใช่มั๊ยที่ท่านต้องการ ?
แต่หุ่นยักษ์ดำทะมึนที่ชาววิสคาร์ดิเรียกว่าก็อดเฮดก็ยังคงยืนนิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของมันอีก
Gara : ข้าคือการ่า วิสคาร์ดี้คนสุดท้าย!
Gara : ตอบข้ามาสิ ก็อดเฮด
ตอบข้ามา!
แล้วอยู่ดีๆก็อดเฮดที่เอาแต่ยืนนิ่งเงียบก็เหาะขึ้นฟ้าไปหน้าตาเฉย
Gara : ไม่
Gara : ท่านกล้าดียังไงถึงมาทอดทิ้งพวกเราตอนนี้--?!
Gara : กลับมานะ ก็อดเฮด
ท่ามกลางซากปรักหักพังของดาววิสคาร์ดิ เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ถูกทิ้งไว้อยู่ตรงนั้น
"กลับมาเผชิญหน้ากับข้าสิ!"
ตัดกลับมาที่สปาร์แท็กซ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในหน้าแรกนี่เอง
Star-Lord : งั้น ? ใครจะเป็นคนแรกที่จะลองมันล่ะ ?
Gamora : ข้าจะทำเอง
Storm : ไม่
Gamora : ไม่เหรอ ? ใช่สิ
Iceman : ชั้นอยากมีพลังเงินตราแบบโทนี่สตาร์คอ่ะ ไม่สิ! แป๊บนะ! ชั้นอยากมีพลังคางแบบธอร์มากกว่า!
คือเอ็งอยากมีเคราที่คางแบบธอร์แบบธอร์ยิ่งกว่าอยากมีเงินแบบโทนี่อีกเนี่ยนะ ?
Storm : ไม่
Captain Marvel : สตอร์ม ? นี่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่--
Storm : มันเป็นปัญหาแน่นอน ไม่มีใครควรใช้เจ้าสิ่งนี่ --ไม่แม้แต่คนเดียว--
Captain Marvel : มันไม่ใช่แค่เรื่องของเรานะ สตอร์ม บางทีนี้อาจจะเป็นสมบัติของทุกคนในกาแล็คซี่--
Storm : ไม่!
Storm : เราต้องทำลายเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ซะ!
Storm : เดี๋ยวนี้ ก่อนมันจะสายเกินไปที่จะ--
??? : มันไม่ใช่ของๆแกที่จะมาทำลาย
เหล่าเจ้าสังหาร (The Slaughter Lord) ตามมาถึงแล้ว
Czar Doon : ส่งแบล็คเวอร์เท็กซ์มาซะ หรือจะให้เราไปเอามันมาจากพวกแกเอง
Star-Lord : โอ้ ดีจริงดีจัง... พวกมันพบเราแล้ว
Beast : โอ้... พวกมันดูอลังการชะมัด
Kitty : มันก็ไม่ใช่ของพวกแกเหมือนกัน
Storm : แครอล--
Captain Marvel : ชั้นพร้อมแล้ว
แต่ดูเหมือนมา ซาเวจจะพร้อมซะยิ่งกว่าใคร เพราะเธอควักปืนออกมาจากไหนก็ไม่รู้
Ma Savage : ไอ้พวกก้อนอิฐเรืองแสงคิดว่านี่เป็นไคเมลเลีย (Kymellia) รึไงถึงได้พูดแมวๆแบบนั้น พวกแกอยู่ที่สปาร์แท็กซ์ (Spartax) ไอ้หน้าตัวเมีย!
Ma Savage : พวกเราไม่ส่งอะไรให้พวกต่างถิ่นอย่างแกหรอก!
Star-Lord : มา ไปหาพวกเด็กๆ วิ่ง!
Czar Doon : ตามที่เจ้าต้องการ
ซีซาร์ ดูน ฟาดดาบยักษ์ของเขาลงมา แต่กัปตันมาร์เวลก็เข้าไปรับไว้ได้ทัน
บรึ้มมม
ซึ่งพลังลมกระแทกจากการปะทะกันของทั้งคู่ถึงกับทำให้กาโมร่าปลิวไปพร้อมกับเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์
ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้า... เอ่อ... ตะลุมบอนละมั๊ง (คนวาดมันวาดเชี่ยไรฟ่ะเนี่ย รูปนี้)
"อย่าให้พวกมันได้เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ไป"
Storm : เวอร์เท็กซ์ไปไหนแล้วล่ะ ?
Star-Lord : กาโมร่าได้มันไปแล้ว! ชั้นไม่รู้เหมือนกันว่าเธออยู่ตรงไหน! ลิเดีย--
Lydia : บ้าอะไรอีกล่ะ-- ? ปีเตอร์ ชั้นเพิ่งปล่อยนายอยู่คนเดียวได้แค่ห้านาทีเองนะ
Star-Lord : ช่างเรื่องนั้นก่อน! ขอความช่วยเหลือเร็ว!
Lydia : ได๋เลย! ส่งสัญญาณฉุกเฉินไปแล้ว
กรู้ทกับแดร็กซ์และจีน เกรย์วัยเด็กกำลังช่วยกันต่อสู้กับบราเธอร์บลัด
"โปรดฟัง ใครก็ได้! สตาร์ลอร์ดและเดอะกาเดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่--"
ส่วนไอซ์แมนและบีสต์วัยเด็กกำลังสู้อยู่กับมิซา
"--แล้วก็พวกพิลึกอีกนิดหน่อย--กำลังต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน!"
เมจิกและแฟลชกำลังร่วมมือกันต่อสู้กับฟาเธอร์เดียโบลที่แปลงร่างเป็นควันได้
"พวกเราได้เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์มา--"
ส่วนร็อคเก็ตแรคคูนก็ขึ้นไปขี่ล็อคฮีด (Lockheed) มังกรน้อยสัตว์เลี้ยงของคิตตี้และดวลปืนกับธนูอยู่กับเดลฟิเนีย
"--และนั่นทำให้พวกเรากำลังโดนเล่นงานอยู่!"
"ขอย้ำ--ส่งสัญญาณฉุกเฉิน--!"
Czar Doon : ข้าได้แบล็คเวอร์เท็กซ์แล้ว! สลอทเธอร์ลอร์ด--
ซวบบบบบ
แต่ยังไม่ทันที่ซีซาร์ดูนจะได้พูดจบประโยคดี มีดเล่มหนึ่งก็แทงทะลุมาจากด้านหลัง
Czar Doon : --ถอยได้...?
??? : ผิด
Gamora : พวกแกจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น
กาโมร่ายอมสวามิภักดิ์ต่อเดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ไปแล้ว! พร้อมด้วยรูปลักษณ์และพลังใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่นั่นคือสิ่งที่ควรจะทำจริงๆนะหรือ?!
ติดตามตอนต่อไปได้ ใน
เดอะแบล็คเวอร์เท็กซ์ บทที่ 2 :
GUARDIANS OF THE GALAXY #24!
จบเล่ม 1.
กดแค่ 1 ครั้งแทนคำขอบใจ คลิ๊กที่นี่
ซื้อคอมมิคเล่มนี้แบบดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ คลิ๊กที่นี่
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
กดแค่ 1 ครั้งแทนคำขอบใจ คลิ๊กที่นี่
ซื้อคอมมิคเล่มนี้แบบดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ คลิ๊กที่นี่
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มแรกนี่เปิดมาแบบผิดความคาดหมายของผมนิดหน่อยเพราะผมคิดว่าตอนแรกพวกของมิสเตอร์ไนฟ์จะใช้แบล็คเวอร์เท็กซ์เพิ่มพลังให้ตัวเองแล้วมาสู้กับพวกการ์เดี้ยนและเอ็กซ์เม็น และพวกฮีโร่ของเราคงสู้ไม่ได้ แล้วตอนหลังถึงไปหาทางชิงแบล็คเวอร์เท็กซ์มาจนได้พลังแล้วมาต่อสู้กันอะไรงี้ แต่ไปๆมาๆ เล่มแรก กลายเป็นคิตตี้ขโมยแบล็คเวอร์เท็กซ์ได้มาแต่แรกซะงั้น กลายเป็นพวกมิสเตอร์ไนฟ์ทำอะไรก็พลาดเพราะคิตตี้ไปหมด จับสตาร์ลอร์ดได้ ก็โดนคิตตี้มาช่วยไป หาแบล็คเวอร์เท็กซ์มาได้ ก็โดนคิตตี้มาขโมยไปอีก ถ้าสตาร์ลอร์ดกับคิตตี้แต่งงานกันขึ้นมา เจสันคงเป็นพ่อตาที่เกลียดลูกสะใภ้ที่สุดในจักรวาลแน่ๆ lol
สำหรับใครที่มาเริ่มอ่านจากเล่มนี้แล้วงงๆ สามารถอ่าน Legendary Star-Lord ตั้งแต่เล่ม 1-8 ซึ่งเป็นเนื้อหาก่อนที่จะเข้าสู่อีเวนต์นี้ ซึ่งมีในเวบเราหมดแล้วได้เลยนะครับ
เล่มแรกนี่เปิดมาแบบผิดความคาดหมายของผมนิดหน่อยเพราะผมคิดว่าตอนแรกพวกของมิสเตอร์ไนฟ์จะใช้แบล็คเวอร์เท็กซ์เพิ่มพลังให้ตัวเองแล้วมาสู้กับพวกการ์เดี้ยนและเอ็กซ์เม็น และพวกฮีโร่ของเราคงสู้ไม่ได้ แล้วตอนหลังถึงไปหาทางชิงแบล็คเวอร์เท็กซ์มาจนได้พลังแล้วมาต่อสู้กันอะไรงี้ แต่ไปๆมาๆ เล่มแรก กลายเป็นคิตตี้ขโมยแบล็คเวอร์เท็กซ์ได้มาแต่แรกซะงั้น กลายเป็นพวกมิสเตอร์ไนฟ์ทำอะไรก็พลาดเพราะคิตตี้ไปหมด จับสตาร์ลอร์ดได้ ก็โดนคิตตี้มาช่วยไป หาแบล็คเวอร์เท็กซ์มาได้ ก็โดนคิตตี้มาขโมยไปอีก ถ้าสตาร์ลอร์ดกับคิตตี้แต่งงานกันขึ้นมา เจสันคงเป็นพ่อตาที่เกลียดลูกสะใภ้ที่สุดในจักรวาลแน่ๆ lol
สำหรับใครที่มาเริ่มอ่านจากเล่มนี้แล้วงงๆ สามารถอ่าน Legendary Star-Lord ตั้งแต่เล่ม 1-8 ซึ่งเป็นเนื้อหาก่อนที่จะเข้าสู่อีเวนต์นี้ ซึ่งมีในเวบเราหมดแล้วได้เลยนะครับ
Musashi
สงสัยพลังนี้ไว้ทำลายอารยธรรม ที่เซเลสเทียลไม่ต้องการแหงมๆ ให้มันฆ่ากันเอง
ตอบลบโอ้ววขอบคุณมากครับบบ รอติดตามต่อนะครับบ
ตอบลบเล่มต่อไปอลังการในหน้าสุดท้าย
ตอบลบ