26 สิงหาคม 2557

Action Comics #1 (1938)

นี่คือคอมมิคที่มีราคาประมูลแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
นี่คือคอมมิคที่เป็นต้นกำเนิดแห่งบุรุษเหล็ก ซูเปอร์ฮีโร่อันเป็นที่รักของคนทั้งโลก
นี่คือจุดเริ่มต้นของหนึ่งในสองค่ายการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา




Action Comics #1 (1938)
Superman, Champion of the Oppressed...
เรื่องโดย : Jerry Siegel | ภาพโดย : Joe Shuster
วางจำหน่าย : มิถุนายน 1938
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

จากดาวที่ห่างไกลซึ่งหมดอายุขัยและถูกทำลายลงไป นักวิทยาศาสตร์ส่งลูกชายวัยทารกไปกับยานอวกาศอย่างฉุกละหุกมุ่งตรงมายังโลก


เมื่อยานลงจอดยังโลก คนที่ขับรถผ่านมาจึงได้พบกับเด็กทารกที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในจึงส่งเด็กชายไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า


เหล่าคนดูแลไม่ได้ตระหนักถึงโครงสร้างทางกายภาพของเด็กน้อยที่ก้าวล้ำหน้าพวกเขาไปนับล้านปี พวกเขาเพียงแค่ตกตะลึงกับกำลังพละกำลังของเด็กน้อยเท่านั้น


เมื่อเด็กน้อยย่างเข้าวัยหนุ่ม เขาค้นพบว่าเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายๆ

กระโดดได้ไกล เศษหนึ่งส่วนแปดไมล์ กระโดดข้ามตึก 20 ชั้นได้

Twenty-Story Building หมายถึงตึก 20 ชั้น (ไม่ได้แปลว่าตึก 20 เรื่องราวนะ) โดยคำว่า Story มาจากคำว่า Storey ซึ่งหมายถึงชั้นของตึก (มีความหมายเหมือนกับ Floor) ซึ่งมาจากรากศัพท์ของคำว่า Store ที่หมายถึงร้านค้าครับ

ยกน้ำหนักได้มหาศาล...

วิ่งเร็วกว่ารถไฟด่วน...

...และไม่มีอะไรที่จะระคายผิวเขาได้แม้แต่ระเบิดก็ตาม

คลาร์คตัดสินใจตั้งแต่แรกที่จะใช้พลังมหาศาลของเขาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และนั่นคือการถือกำเนิดของ...




ซูเปอร์แมน!
ผู้ที่ต่อสู้ปกป้องผู้ถูกกดขี่ข่มเหง
ชายผู้มีร่างกายแข็งแกร่งซึ่งสาบานจะอุทิศตนเพื่อเหล่าผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ!








การอธิบายทางวิทยาศาสตร์ถึงพลังที่น่ามหัศจรรย์ของคลาร์ค เคนท์

เคนท์มาจากดาวเคราะห์ที่ประชากรในดาวมีความก้าวหน้าทางกายภาพเหนือกว่าพวกเราไปนับล้านปี เมื่อย่างเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ เผ่าพันธ์ของเขาจะได้รับพลังมหาศาลเป็นของขวัญ!

เหลือเชื่อ ? ไม่! แม้แต่ทุกวันนี้บนโลกของเราก็ยังคงมีสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมหาศาลอยู่

มดตัวเล็กๆยังสามารถรับน้ำหนักที่มากกว่าน้ำหนักตัวเองได้นับร้อยเท่า

ตั๊กแตนตำข้าวยังสามารถกระโดดได้ไกลเป็นระยะทางหลายบล็อคถ้าเทียบเป็นระยะทางของมนุษย์



เผ่าพันธ์ซึ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยข้ามผ่านราตรีในชั่วเสี้ยววินาที.. การล่าช้าหมายถึงการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์

พี่ซุปของเราเหาะพาหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกมัดมือมัดปากมาด้วย

บ้านของผู้ว่าอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

Superman : ทำตัวตามสบายนะ! ผมไม่มีเวลาพอที่จะดูแลต่อได้

แล้วพี่ซุปแกก็ปล่อยคุณผู้หญิงทิ้งไว้ตรงนั้นทั้งๆที่ยังโดนมัดมือมัดปากอยู่ซะงั้น แล้วตรงไปบ้านของผู้ว่าทันที

พ่อบ้าน : นายต้องการอะไรถึงมาเคาะประตูบ้านคนอื่นดึกๆดื่นๆแบบนี้

Superman : ผมต้องพบผู้ว่า นี่มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย!



พ่อบ้าน : มาพบเขาพรุ่งนี้นู่น!

พ่อบ้านปิดประตูใส่หน้าพี่ซุปแต่พี่ซุปก็เป็นฮีโร่มารยาทดีจึงพังประตูกลับเข้าไปใหม่ทันที

Superman : ผมจะพบเขาเดี๋ยวนี้!

พ่อบ้าน : นี่มันผิดกฎหมาย! ชั้นจะทำให้นายถูกจับให้ได้

Superman : ตอบคำถามผมมา! คุณจะมาผมไปหาผู้ว่ามั๊ย ?

พ่อบ้าน : ไม่! ชั้นไม่พาไปแน่

Superman : งั้นผมจะพาคุณไปหาเขาแทน!

ว่าแล้วพี่ซุปก็แบกพ่อบ้านเดินขึ้นบันไดไป



พ่อบ้าน : เอ้า! นี่ละห้องนอนของผู้ว่า อย่าคิดว่านายจะหนีจากเรื่องนี้ไปได้ล่ะ

Superman : มันล็อคนี่!

พ่อบ้าน : ใช่สิ และมันทำจากเหล็กด้วย! ลองเคาะมันให้พังดูสิ!

พี่ซุปที่มารยาทดีก็เลยเคาะประตูจนพังตามคำขอซะเลย

Superman : คุณออกความคิดเองนะ!

ผู้ว่า : นี่มันหมายความว่ายังไง ?

Superman : เอเวอลีน เคอร์รี กำลังจะถูกช็อตไฟฟ้าในอีก 15 นาทีนี้ในข้อหาฆาตกรรม ผมมีหลักฐานว่าเธอบริสุทธิ์ คำสารภาพพร้อมลายเซ็นต์


แต่ด้วยความเชื่อว่าผู้ว่าถูกคุกคามโดยคนบ้า พ่อบ้านจึงหยิบปืนที่ซ่อนไว้ออกมา

พ่อบ้าน : ยกมือขึ้นให้ไวเลย!

Reach For The Ceiling แปลตามตัวว่า เอื้อมไปแตะเพดาน ซึ่งก็หมายถึงการชูมือขึ้นไปทางเพดานหรือยกมือขึ้นนั่นเองครับ

Superman : เอาของเล่นนั่นออกไปห่างๆน่า

พ่อบ้าน : ชั้นเตือนนายแล้วนะ! ถ้าก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว ชั้นจะยิง

แล้วก็ไม่เห็นว่าพี่ซุปเราจะก้าวเข้าไปตอนไหน พ่อบ้านก็ยิงซะแล้ว



กระสุนแฉลบออกจากร่างกายที่แข็งแกร่งของซูเปอร์แมน

Superman : ไม่มีเวลามาเล่นแล้วนะ!

Superman : คุณไม่ได้ใส่ใจเลยรึไง ? ผมมีข้อพิสูจน์ว่าเธอบริสุทธิ์และคุณเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเธอได้!

ผู้ว่า : ขอผมดูกระดาษนั่นหน่อย

ผู้ว่า : เร็วเข้า! ต่อสายผมไปยังเรือนจำ!



และก็สามารถหยุดการประหารไว้ได้ทัน ส่วนพี่ซุปก็จากไปและทิ้งโน้ตบอกเอาไว้ว่าฆาตกรตัวจริงอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านของผู้ว่า ซึ่งก็คือผู้หญิงคนที่ถูกมัดมืดมัดเท้าแล้วพี่ซุปเราปล่อยทิ้งไว้นั่นเอง

เช้าวันต่อมาพี่ซุปในมาดนักข่าวก็อ่านข่าวตัวเองจากในหนังสือพิมพ์และดีใจที่ข่าวไม่ได้กล่าวถึงตัวเอง

ทางด้านผู้ว่าก็กำลังประชุมถึงเรื่องซูเปอร์แมนในห้องประชุมส่วนตัวที่อยู่ห่างออกไป

ผู้ว่า : ท่านสุภาพบุรุษ ผมยังคงไม่เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง! ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์! ขอบคุณสวรรค์ที่เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ข้างกฎหมายและความเป็นระเบียบ!



และเมื่อพี่ซุปมาถึง เดลี่สตาร์ (Daily Star) ซึ่งเป็นที่ทำงานของเขา (ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้ชื่อเดลี่แพลเน็ท (Daily Planet) แบบที่เราคุ้นเคย) เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปหาข่าวของซูเปอร์แมน ซึ่งเขาก็บอกว่าถ้าเขาทำไม่ได้ก็ไม่มีใครสามารถทำได้แล้ว (แหงล่ะ) แต่ระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินว่ามีคนกำลังซ้อมภรรยาตัวเองอยู่

พี่ซุปผู้แสนดีและชอบยุ่งเรื่องผัวเมียตีกัน จึงเข้าไปอัดสั่งสอนหมอนั่นเข้าป๊าบนึง



หมอนั่นหยิบมีดมาแทงซึ่งก็แน่นอนว่าทำอะไรพี่ซุปไม่ได้ และพี่ซุปก็ทำท่าจะพูดคุยกันฉันผู้มีการศึกษา เอ๊ย! จะอัดหมอนั่นกลับ จนหมอนั่นตกใจเป็นลมสลบไปง่ายๆซะงั้น (จุดนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสมัยนั้นยังมีค่านิยมการใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรงอยู่นะครับ) พี่ซุปจึงรีบเปลี่ยนชุดกลับเมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจ และโกหกตำรวจไปว่าเขาเองก็เพิ่งมาถึง และดูเหมือนซูเปอร์แมนจะเพิ่งจากไป




หลังจากนั้นพี่ซุปก็พยายามไปชวนลูอิสออกเดท และนี่คือฉากประวัติศาสตร์การปรากฎตัวครั้งแรกในโลกคอมมิคของลูอิส เลน (Lois Lane) และเธอก็ยอมตอบตกลงไปออกเดทกับพี่ซุปเรา










ในคืนนั้นพี่ซุปก็ไปเต้นรำกับลูอิสและถามเธอว่าทำไมเธอถึงทำตัวหลีกเลี่ยงเขาที่ออฟฟิศตลอดเวลา แต่ลูอิสก็ไม่ตอบ ในขณะที่ผู้ชายสามคนในร้านกำลังคุยกันถึงการไปชวนลูอิสเต้นรำ แถมยังบอกว่าถ้าพี่ซุปเรามีปัญหา จะต่อยหน้าโชว์ซะเลย



ตาสูทเขียวก็เข้าไปบอกให้พี่ซุปเปลี่ยนคู่เต้นได้แล้ว แต่พี่ซุปบอกว่านี่ไม่ใช่งานเต้นรำซะหน่อย ตาสูทเขียวก็เลยจะหาเรื่อง ลูอิสก็ถามว่าเขาจะยอมทนกับเรื่องแบบนี้หรอ ซึ่งพี่ซุปก็บอกให้ลูอิสยอมเต้นกับตาสูทเขียวนี่เถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยออกไปกัน ซึ่งทำให้ลูอิสไม่พอใจมาก และตบหน้าตาสูทเขียวเข้าให้ก่อนขึ้นแท็กซี่กลับไปและบอกว่าทำไมเธอถึงหลีกเลี่ยงพี่ซุปเราตลอดในที่ทำงาน เพราะเธอคิดว่าพี่ซุปเราเป็นคนขี้ขลาดนั่นเอง



ทางด้านตาสูทเขียวที่โดนลูอิสตบ (ดูเหมือนจะชื่อ บัทช์ แม็ตสัน (Butch Matson) ยังคงแค้นอยู่และคิดจะตามไปเอาคืนเธอ แต่พี่ซุปเราก็เห็นทันพอดี



พวกมันขับรถพุ่งเข้าชนรถของลูอิสและไปฉุดเธอลงมาขึ้นรถไปกับพวกมัน แต่ขับไปได้ไม่ทันไร พี่ซุปเราก็เหาะมาขวางหน้ารถเอาไว้ และก่อนที่รถจะชน พี่ซุปเราก็กระโดดข้ามรถอ้อมไปอยู่ด้านหลังซะก่อน



และจับรถยกขึ้น ช่วยลูอิสออกมาและเทพวกกุ๊ยสามคนออกมาจากรถ


ก่อนจะจับรถของพวกมันฟาดกับเนินดินแถวนั้น และนี่คือที่มาของหน้าปก Action Comics #1 ที่เป็นตำนานนั่นเอง


หลังจากนั้นก็จับตาสูทเขียวเหาะขึ้นไป



แขวนไว้กับเสาไฟซะเลย ก่อนจะพาลูอิสไปส่งบ้าน


และบอกเธอว่าอย่าตีพิมพ์เรื่องนี้ เช้าวันต่อมาลูอิสจึงได้แต่เล่าให้คนอื่นฟังว่าเธอพบซูเปอร์แมน และเธอยังคงไม่สนใจแม้ว่าคลาร์คจะมาขอโทษเธอสำหรับเรื่องเมื่อคืนก็ตาม


คลาร์กได้รับคำสั่งให้ไปทำข่าวสงครามในเมืองเล็กๆทางใต้ชื่อซานมอนเต้ (San Monte) เขาจึงขึ้นรถไฟไปทันที แต่กลับไม่ได้ไปที่ซานมอนเต้ หากแต่ว่าเป็นวอชิงตัน ดีซี (Washington D.C.)



เขาไปดักถ่ายภาพวุฒิสมาชิกบาร์โรว์ (Barrows) แอบพูดคุยกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ อเล็กซ์ เกรียร์ (Alex Greer) หลังจบประชุมสภาคองเกรสเพื่อนัดพบกันที่บ้านของวุฒิสมาชิกบาร์โรว์ในอนสองทุ่มครึ่งคืนนั้น



และในเวลานั้น พี่ซุปก็ปีนไปแอบฟังการสนทนาของทั้งคู่ (จะเห็นว่าตอนแรกนี้พี่ซุปยังเหาะไม่ได้นะครับ ตอนเดินทางมาวอชิงตันก็ยังต้องมาโดยรถไฟ) และได้ยินว่าทั้งคู่กำลังวางแผนจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอเมริกาและยุโรปเพื่อหาผลประโยชน์ทางการเงินให้ตัวเอง



พี่ซุปจึงมาดักรออเล็กซ์ เกรียร์ หลังจากที่เขาออกจากที่พักของวุฒิสมาชิกบาร์โรว์

Superman : ใครอยู่เบื้องหลังนายเรื่องการคอร์รัปชั่นของวุฒิสมาชิกบาร์โรว์ ?

Alex Greer : ชั้นไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร

Superman : นายก็เป็นพวกไม่ค่อยชอบพูดสินะ ? งั้นเรามาดูกันว่าอะไรจะทำให้นายพูดได้บ้าง

Alex Greer : ปล่อยมือชั้นนะ



พี่ซุปที่เป็นฮีโร่แสนดีก็เลยไม่ขัดใจ ปล่อยมือให้ตามที่ขอ

Superman : งั้นจับเท้านายแทนก็เหมือนกันแหละ

Alex Greer : หยุด! หยุด! เราจะโดนไฟดูดตายนะ!

Superman : ไม่ เราไม่โดนหรอก

Superman : นกที่เกาะสายโทรศัพท์ยังไม่เห็นโดนไฟดูดเลย--



Superman : ยกเว้นพวกมันจะแตะเสาโทรศัพท์ด้วยและโดนไฟดูดร่วงลงไป

Superman : โอ๊ะ! เกือบจะโดนเสาแล้วสิ

Superman : ดูนั่น! ทำเนียบขาว! เข้าไปเที่ยวกันดีกว่า!

Alex Greer : ปล่อยชั้นลง! ปล่อยชั้นลง!

Superman : เป็นทิวทัศน์ที่งดงามอะไรอย่างนี้นะ

Alex Greer : ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!

Superman : ชั้นสงสัยว่าเราจะสามารถกระโดดไปถึงตึกนั่นได้มั๊ยน๊า ?

Alex Greer : ไม่! อย่านะ!

แม้เกรียร์จะประท้วงอย่างบ้าคลั่ง ซูเปอร์แมนก็ยังคงกระโดดออกไปท่ามกลางราตรี!

Superman : พลาด! ไปไม่ถึงแฮะ



และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจของตัวละครที่โลดโผนที่สุดตลอดกาล+

ซูเปอร์แมน!

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง
จิตใจที่มหัศจรรย์
ซูเปอร์แมนถูกลิขิตมาให้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลก!



จบเล่ม 1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
         ความจริงผมตั้งใจจะทำสปอยล์คอมมิคเล่มแรกของซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆมาตลอด เพราะตัวเองจะได้ถือโอกาสอ่านด้วยและจะได้ถือโอกาสแบ่งปันให้คนอื่นๆได้อ่านกันด้วย เพราะผมคิดว่าคงมีอีกหลายๆคนที่คิดเหมือนผมว่าถึงจะไม่สามารถอ่านคอมมิคที่ชอบตั้งแต่แรกได้ แต่อย่างน้อยได้อ่านแค่ตอนแรกก็ยังดี และเนื่องในโอกาสที่ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ หนังสือ Action Comics #1 เล่มนี้ ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ปี 1938 ได้ขึ้นแท่นเป็นคอมมิคที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์อีกครั้ง จากการประมูลในอีเบย์ โดยมีราคาถึง 3.2 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 102 ล้านบาทไทย!!!

         ผมจึงถือโอกาสนี้ทำสปอยล์ออกมาให้อ่านกันซะเลย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ผมไม่เคยอ่านคอมมิคของพี่ซุปเลยซักเล่ม นี่จึงถือเป็นคอมมิคพี่ซุปเล่มแรกเลยที่ผมอ่าน ซึ่งผมก็อ่านไปพลาง ทำสปอยล์ไปพลางด้วย (ปกติผมจะอ่านจนจบก่อน แล้วค่อยมาทำสปอยล์) ก็อาจจะมีแปลผิดพลาดด หรือแปลข้ามๆไปบ้าง ถ้ามีที่ผิดพลาดตรงไหนก็คอมเมนท์แนะนำกันเข้ามานะครับ สิ่งที่สนุกที่สุดสำหรับคนสปอยล์คอมมิคก็คือการได้อ่านคอมเมนท์จากคนอ่านนี่แหละ

Musashi

6 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับเป็นกำลังให้เสมอครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับที่สปอยล์มาให้อ่าน ผมชอบครับ มันดูคลาสสิคดี
    ไม่มีคำว่าเก่าเลย ถึงแม้จะนานก็ตาม อยากได้มาสะสมไว้บ้าง 555 นอนฝันแพ๊พ

    ตอบลบ
  3. คลาสิคมากๆเลยครับ ขอบคุณมากๆครับที่ทำสปอลย์ดีๆให้อ่านกัน (:

    ตอบลบ
  4. รู้สึกว่าพี่ซุปเล่มนี้ออกเกรียนๆนะครับ

    ตอบลบ
  5. อ่านจบแล้ว ผมเห็นบางส่วนของ Batman ในตัวพี่ซุปแฮะ (ซึ่งจริงๆแล้ว พี่ซุปเกิดก่อน)
    สงสัยจะเป็นเทรนด์ของคอมิคสมัยนั้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่เลยครับ ผมก็ว่าคงเป็นเพราะวัฒนธรรมในสมัยนั้น ทำให้พี่ซุปตอนแรกนี่ยังดูเกรียนๆ แล้วดูเป็นพวกชอบใช้กำลังนิดๆ ผมคิดว่าคงเพราะยุคสมัยนั้นกำลังยังคงเป็นความถูกต้องและความถูกต้องยังต้องได้มาด้วยกำลังอยู่ละมั๊งครับ

      ลบ