11 มิถุนายน 2557

Batman: Year One, Part 1 (1987)

ต้นกำเนิดของอัศวินรัตติกาล ผ่านมุมมองของบรูซ เวย์นและเจมส์ กอร์ดอน
ก่อนจะมาเป็นแบทแมน อะไรทำให้บรูซ เวย์นตัดสินใจสวมชุดค้างคาว?
แคทวูเมนหรือ เซลิน่า ไคล์ มีส่วนอย่างไรกับจุดเริ่มต้นของเขา?


Batman: Year One, Part 1 (1987)
เรื่องโดย : Frank Miller
ภาพโดย : David Mazzucchelli
วางจำหน่าย : 31 มกราคม 1987
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ผู้สปอยล์ : Red Hood's Outlaw



เขาจะกลายเป็นนักสู้อาชญากรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่โลกรู้จัก
แต่มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย
บทที่หนึ่ง : ใครคือฉันและฉันเป็นได้อย่างไร 
(Who I Am and How I Come To Be)

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)


4 มกราคม
Gordon : (ก็อธแธม ซิตี้ (Gotham City) บางทีอาจเป็นที่ๆสาสมกับผมแล้วตอนนี้ บางทีมันอาจเป็นเวลาของผมในนรก)

บนรถไฟเข้ามายังตัวเมืองก็อธแธม ผู้คนแน่นขนัด เจมส์ กอร์ดอน กำลังนั่งอยู่ด้วยท่าทางอมทุกข์

Gordon : (เดินทางสิบสองชั่วโมง ท้องไส้ผมปั่นป่วนมาตลอดครึ่งทาง บาร์บารา (Barbara) นั่งเครื่องบินมา ผมไม่สนว่าจะแพงซักแค่ไหน รถไฟไม่ใช่วิธีที่ควรจะมาก็อธแธมหรอก ...บนเครื่องบิน ทั้งหมดที่คุณเห็นจากเบื้องบนคือถนนและตึกรามบ้านช่อง หลอกคุณให้คิดว่าเป็นเมืองอารยะ)

(...ขณะนี้เรากำลังลงจอดยังที่หมายปลายทางก็อธแธมซิตี้ กรุณาปรับพนักพิงและแผ่นรองหลังเบาะให้อยู่ในตำแหน่งตรง…)

Bruce : (จากบนนี้ เสาอันสะอาดสะอ้านของคอนกรีตและดาดฟ้าตึกซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ ผลงานสืบทอดมาของเหล่าผู้ชายที่ล้วนตายไปหลายรุ่นก่อน จากบนนี้ดูราวกับเป็นความสำเร็จ)

อีกด้านหนึ่ง บรูซ เวย์นซึ่งกลับมายังก็อธแธมในรอบหลายปีเองก็กำลังนั่งหน้าเครียด

Bruce : (ผมควรจะนั่งรถไฟมา ผมควรเข้าไปใกล้กว่านี้ ผมควรไปเห็นศัตรูไว้ก่อน)



Gordon : (ป่านนี้บาร์บาราคงได้ผลตรวจแล้ว ผมเกลียดตัวเองแค่นิดหน่อยเท่านั้นที่แอบหวังให้ออกมาเป็นลบ ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆควรจะสร้างครอบครัว)

ชายชุดขาว : หนังสือดีๆแลกกับเงินบริจาคเล็กน้อยเท่านั้น…
Gordon : ไม่ล่ะ ขอร้อง
ชายในเสื้อโค้ท : กอร์ดอน! ผู้หมวดเจมส์ กอร์ดอน!

ใครบางคนเรียกลุงหนวดที่สถานีรถไฟ ก่อนจะเข้ามาดึงคอคนขายหนังสือออกไป เขาเป็นชายผมบลอนด์ร่างสูง เข้ามาพูดจาสนิทสนมกับกอร์ดอนอย่างรวดเร็ว

ชายชุดขาว : หนังสือดีนะ ดูรูปข้างในก่อน แอ่ก…
Flass : ไปไหนก็ไปสกินเฮด ผมชื่อแฟลสนะผู้หมวด นักสืบแฟลส (Detective Flass) ผู้บัญชาการโล๊บ (Commissioner Loeb) ส่งผมมาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดนัดกับเขา หวังว่าคุณจะไม่ว่านะถ้าผมเรียกว่าจิมมี่ (Jimmy)

*หมายเหตุ : ในตอนนี้เจมส์ กอร์ดอนของเรายังไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้บัญชาการเหมือนอย่างที่เห็นกันใน The Dark Knight หรือในอนิเมชั่นต่างๆนะคะ ในเล่มนี้เขาเพิ่งย้ายมาประจำการที่ก็อธแธม

Gordon : คือผม…
ชายชุดขาว : สีมัน ค่อกแค่ก… สวยนะ
Flass : ต้อนรับสู่ก็อธแธม จิมมี่ ไม่แย่อย่างที่เห็น โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นตำรวจ ตำรวจไปได้สวยเชียวล่ะที่นี่

กลับมายังฝั่งบรูซ เวย์น คุณหนูทายาทตระกูลดัง จึงมีนักข่าวมารอทำสกู๊ปที่สนามบินเป็นธรรมดา

นักข่าว : ยินดีต้อนรับกลับบ้านคุณเวย์น คุณรู้สึกยังไงที่ได้กลับ…
นักข่าว : คุณมีแผนการยังไงบ้างคุณเวย์น
นักข่าว : ข่าวลือระหว่างคุณกับองค์หญิงแคโรไลน์เป็นความจริงรึเปล่า

ผู้ประกาศข่าว : ทายาทวัยยี่สิบห้าปีของเศรษฐีตระกูลเวย์นปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆต่อข่าวลือเรื่องรักในชีวิตเขา หรือแม้แต่แผนการในการกลับมาครั้งนี้ หลังจากสิบสองปีในต่างแดน เราจะตามติดชายหนุ่มผู้ร่ำรวยและดูดีที่สุดแห่งก็อธแธมคนนี้ต่อไปค่ะ ทอม (Tom)?


ผู้ประกาศข่าว : ขอบคุณครับแจ๊คกี้ (Jackie) ภายหลังการหายตัวไปของพยานเอก ผู้ช่วยอัยการเขต ฮาร์วี่ย์ เดนท์ (Assistant District Attorney Harvey Dent) ได้ถอนฟ้องคดีสมคบคิดต่อผู้บัญชาการตำรวจโล๊บ…

ณ ออฟฟิศของผู้บัญชาการตำรวจ จิลเลียน บ. โล๊บ (Gillian B. Loeb)

Loeb : คุณก็รู้พวกเราเป็นปิติที่ได้คุณมาร่วมทีม ผู้หมวด
Gordon : ผมจะทำงานให้ดีที่สุดครับท่าน ผมสัญญา
Loeb : และพวกเราก็เป็นทีมน่ะ ทำงานเป็นทีมมันต้องมีสปิริตของทีม คุณว่ามั้ย? ใช่เลยล่ะ และในประวัติคุณก็บอกไว้ชัดทีเดียว
Gordon : ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดครับ และผมรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสนี้ที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง
Loeb : ถ้าจะมีอะไรที่ผมทนไม่ได้ มันก็เรื่องสูบบุหรี่นี่แหละ คุณทำพลาดอะไรไปล่ะผู้หมวด? คุณปิดเรื่องวงในกับสื่อ นั่นเรื่องสำคัญที่สุดไม่ใช่รี? นั่นล่ะใช่

Gordon : (ผมจะรู้สึกดีกว่านี้กับการกำจัดนิโคติน ถ้าผมไม่ต้องมานั่งสูดกลิ่นยูคาลิปตัสเวลาเขาเอ่ยปากพูด)

*ตรงนี้ผู้แปลเข้าใจว่าเพราะโล๊บเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่เสมอ ดังนั้นเขาอาจจะกำลังเลิกบุหรี่ และผู้หมวดกอร์ดอนก็เลยสังเกตได้ว่าเขาพูดจาขัดแย้งกับตัวเองน่ะค่ะ

Gordon : ผมสาบานได้ว่าคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องความซื่อสัตย์ของผม ท่านผบ.
Loeb : เชื่อเลยว่าไม่ เชื่อเลย

ณ คฤหาสน์เวย์น (Wayne Manor)
บรูซ เวย์นลงจากลิมูซีนของเขามาพบกับพ่อบ้านแสนดี อัลเฟร็ด เพนนิเวิร์ธ (Alfred Pennyworth) ให้การต้อนรับเช่นเคย

Bruce : อัลเฟร็ด
Alfred : ผมเชื่อว่าคุณสบายดี คุณหนูบรูซ

Bruce : (คฤหาสน์เวย์น สร้างมาเป็นป้อมปราการ หลายชั่วอายุคนผ่านไป มันปกป้องเส้นที่จืดจางของความสูงศักดิ์จากยุคแห่งความเท่าเทียม พ่อครับ แม่ครับ มันดีจริงๆที่ได้กลับมา)



Flass : รู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องชอบผบ. จิมมี่ เขาจะดีกับคุณอย่างที่คุณดีกับเขานั่นแหละ เชื่อได้เลย

Gordon : (ผมเตือนตัวเองซ้ำๆว่าจะเลือกทำงานนี้ หรือจะไปทำงานปั๊มน้ำมัน และผมก็บอกตัวเองว่าผมต้องทำมันเพื่อบาร์บารา)

กอร์ดอนและแฟลสเป็นคู่หูขับรถตำรวจไปรอบเมืองตามปกติ ฝ่ายแฟลสนั้นดื่มเบียร์ระหว่างขับรถอีกต่างหาก แต่แล้วจู่ๆแฟลสก็เบรคเอี๊ยดลั่นถนน ลงจากรถไปหากลุ่มวัยรุ่นที่สุมหัวกันอยู่

Gordon : แฟลส มันเกิด…
Flass : ไม่มีอะไรที่จัดการคนเดียวไม่ได้จิมมี่ แม่แกรู้มั้ยว่าอยู่นี่ สตีวี่ (Stevie)?
Stevie : โอ้ ซวยละ ผมไม่ได้ทำอะ…

เด็กหนุ่มผมเดร๊ดล็อกยังไม่ทันพูดจบก็โดนแฟลสต่อยเข้าให้

Gordon : (ผมบอกตัวเอง ครั้งนี้แกควรจะรู้ให้แน่ก่อนที่จะไปจัดการตำรวจเข้าอีกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ)

(แฟลสฝึกมาจากกรีนเบเร่ต์ (Green Beret)* ผมบอกได้เลย และเขารู้ดีว่าจะใช้ขนาดตัวให้เป็นประโยชน์ยังไง)

*หมายเหตุ : กรีน เบเร่ต์ เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสมัยสงครามเวียดนาม ซึ่งผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกจะต้องฝึกอย่างหนักเป็น

เวลาหลายสัปดาห์ และมีสัญลักษณ์ให้เห็นคือหมวกทรงกลมสีเขียว

กอร์ดอนมองแฟลสทุ่มเด็กเข้ากับถังขยะโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะเขาฉลาดกว่านั้น

Gordon : (ผมดู และผมไม่ทำบ้าอะไรทั้งนั้น แต่ผมจำทุกท่วงท่าของเขาไว้ ไว้อ้างอิงในวันหน้า)



Gordon : นั่นมันจำเป็นรึยังไง?
Flass : เขามีเล่มสวยนี่ในกระเป๋ากางเกง

แฟลสโยนของลักษณะเหมือนมีดพับให้กอร์ดอน แต่เมื่อกางออกมาแล้วมันกลับไม่ใช่อาวุธด้วยซ้ำ

Gordon : มันเป็นหวี แฟลส
Flass : ผมก็คนธรรมดา จิมมี่ จะไปรู้เหรอ

Gordon : (ผลตรวจนั่น ผมภาวนาให้มันเป็นลบ)

ในขณะเดียวกัน บรูซ เวย์นก็กำลังนั่งอยู่หน้าหลุมศพพ่อและแม่

12 กุมภาพันธ์
ขณะที่แฟลสและกอร์ดอนกำลังขับรถไล่ล่าคนร้าย เสียงหวอดังสนั่น

Flass : พวกคนอื่นๆน่ะ พวกมันมาขอให้ผมคุยกับคุณหน่อย จิมมี่ ผมก็ว่าถ้าเป็นผมพูดแล้วคุณจะฟัง ก็เราซี้กันขนาดนี้ คนอื่นเขาเป็นห่วงคุณทั้งนั้น
Gordon : ผมซึ้งอยู่นะ แฟลส แต่ตอนนี้ผมห่วงเรื่องฆาตกรรม เลี้ยวซ้าย
Flass : งานไปไม่รอดหรอกถ้าคุณไม่รู้จักรีแล๊กซ์ จิมมี่ ผมหมายถึงเราน่ะมีวิธีจัดการปัญหาในแบบของเราเอง ในก็อธแธมนี่น่ะ ผมหมายถึง คุณไปเล่นงานมอร์แกน (Morgan) ออกจะหนักอยู่นา เมียจะมีลูกอยู่ไม่ใช่รึ…
Gordon : เรียกผมผู้หมวด ทีนี้เลี้ยวขวา


21 กุมภาพันธ์
ที่คฤหาสน์เวย์น

Bruce : (ผมยังไม่พร้อม)

บรูซ เวย์นกำลังฝึกฝนการต่อสู้อยู่หน้าคฤหาสน์ เขาทุบอิฐแตกเป็นเสี่ยงๆได้ด้วยมือเปล่า เตะต้นไม้ใหญ่ออกเป็นสองท่อนได้สบายๆ

Bruce : (ผมมีความตั้งใจ มีทักษะ แต่กระบวนการยังขาด)

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกไม่พร้อม

Bruce : (...ไม่ นั่นไม่จริง ผมมีเป็นร้อยๆวิธีการ แต่บางอย่างยังขาดหายไป บางอย่างยังไม่ถูกต้อง)
(ผมต้องรอ ผมต้องรอไปก่อน)

26 กุมภาพันธ์
ที่ออฟฟิศของโล๊บ

Flass : บาทหลวงโดเนลลี่ (Father Donelley) น่ะ เขาสอดแบงค์ห้าสิบดอลลาร์ใส่มือกอร์ดอนตอนที่เชคแฮนด์กัน… แล้วไอ้กอร์ดอนน่ะ มันมองมือมันอย่างกับติดเชื้อโรค แล้วมันก็เขวี้ยงเงินใส่หน้าหลวงพ่อ มันเทศนาทั้งหน่วยอยู่สองชั่วโมง แถมสั่งภาคทัณฑ์เชลล์ (Schell) อีก มันเข้ากับที่นี่ไม่ได้เลยจิล
Loeb : ฉันหวังไว้สูงกับหมอนั่นแท้ๆ
Flass : ผมช่วยให้มันทำตัวใหม่ได้นะ ผมเล่นงานมันได้
Leob : ไม่ อย่าทำตอนฉันอยู่ในเมือง เรื่องฉาวๆของฉันหนาหูพอแล้ว ไม่ได้ นายจะต้องรอจนกว่าฉันไปประชุมที่วอชิงตัน (Washington D.C.) อีกสองอาทิตย์ แฟลส


11 มีนาคม

Bruce : (เครื่องยนต์ดังหึ่งๆ ค่อยๆ แต่ไม่ทำให้เชื่อ มันควรหยุดซะ)

(ทุกๆอย่างเข้าที่หมดแล้ว ผู้ดูแลถึงกับเคร่งกฏพอที่จะขอลายเซ็นผมไว้ ข้ออ้างของผมจัดการไว้เรียบร้อย บรูซ เวย์นถูกพบเห็นเข้าพักที่โรงแรมเดียวกับดาราดังสุดเซ็กซี่ นั่นคงพอสำหรับข่าวลือทั้งหลายที่จะยืนยันที่อยู่ของผมในช่วงสองสามชั่วโมงหลังจากนี้)

(นี่เป็นภารกิจลาดตระเวน จนกว่าผมจะรู้มากกว่านี้ ผมจะต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้ จนกว่าผมจะพร้อม)

(ความนิรนามนั้นสำคัญลำดับแรกอย่างเห็นได้ชัด การฆาตกรรมพ่อแม่ของผมเป็นเรื่องที่ทั้งโลกรับรู้)

(ทั้งหมดที่จำเป็นก็คือความเปลี่ยนแปลงของเสื้อผ้าและสีผิว และรายละเอียดเบนความสนใจซักอย่างที่คนจดจำ)

บรูซแต่งตัวมอซอ ทาครีมให้สีผิวเข้มขึ้นกว่าเดิม แล้วยังทำแผลเป็นปลอมๆไว้บนใบหน้าด้วย เพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้ ในคืนเดียวกันนั้นหมวดกอร์ดอนซึ่งมีปัญหาผบ.ตำรวจ ก็ต้องมาทำงานแทนที่จะได้อยู่บ้าน

Gordon : (ให้ผมย้ายมาออกเวรกลางคืนเป็นรอบที่สี่แล้ว บ้าชะมัด เดี๋ยวนี้บาร์บาราต้องการผมตอนกลางคืน บาร์บาราและเจมส์น้อยๆของเรา ผมหวังให้เป็นผู้ชาย แล้วยังไงล่ะ)

(สี่ครั้งและตัวคนเดียว ผมไม่มีเพื่อนทั้งนั้นในกรม)

ชายแปลกหน้า : จะไปทำงานเรอะผู้หมวด? คงจะต้องสายหน่อย ไม่ก็ไม่ได้ไปเลย


Gordon : (ลูกไม้เดิมๆ ชวนคุยเบนความสนใจ รับรองได้ว่ามันจะโจมตีจากข้างหลัง แต่มันควรจะเช็คประวัติทหารของผมมาด้วย ผมถูกฝึกมาให้รับมือแย่กว่านี้…)

กอร์ดอนหลบการโจมตีได้ และคว้าไม้เบสบอลสวนกลับได้ทันท่วงที แต่เพราะจำนวนที่มากกว่า เขาจึงพลาดพลั้งโดนไม้เบสบอลตีเข้าหลังศีรษะเต็มๆ แถม

โดนรุมอีกลูกใหญ่

Gordon : (แต่ก็นั่นแหละ มันผ่านมานานแล้ว…)

(ตอนไหนไม่รู้ระหว่างนั้นมันบอกว่านี่เป็นแค่การเตือน มันย้ำกับผมว่ายังมีเมียท้องอยู่ที่บ้าน ตอนท้ายผมได้ยินเสียงหัวเราะอันคุ้นเคย มันคือแฟลส)



Bruce : (เดินไปยี่สิบบล็อกจะถึงถิ่นศัตรู ผมไปศึกษามาหมดแล้ว ผมถูกมองอย่างกับเนื้อชิ้นหนึ่งโดยพวกวัยรุ่นสวมเสื้อหนังย่านโรบินสันพาร์ค (Robinson Park) ผมไปเจอพวกอ้อนวอนไม่ให้ทำร้ายและการคุกคามอย่างไม่จริงจังจากขี้ยาแถวฟิงเกอร์เมโมเรียล (the Finger Memorial) ผมไปเดินที่ๆคนนอนหลับกองกันที่พื้นด้านหน้าสแปรงมิชชั่น (Sprang Mission) ที่คนพลุกพล่านเกิน และสุดท้าย ที่แย่สุด ย่านอีสต์เอนด์ (The East End))

(ยากจะเชื่อว่ามันยังแย่ลงอีก)

เด็กสาว : ช่วยให้ร่าเริงมั้ยคะคุณ?
Bruce : ฉันสงสัย เธออายุเท่าไหร่กัน?
เด็กสาว : เด็กเท่าที่คุณอยากได้เลย

ทันใดนั้นเองชายคนหนึ่งก็เข้ามากระชากและดุด่าเด็กสาว

ชายใส่หมวก : ยัยเด็กโง่ ทำผิดไปหมด ฮอลลี่ (Holly) แกพูดผิดไปหมด
Holly : หนูทำแบบที่คุณบอก อย่างที่คุณ…
ชายใส่หมวก : ใช่แล้วยัยโง่ แต่แกต้องเลือกคนซะบ้าง แกต้องหัดดูว่าใครอยากได้แบบแก คนนี้ไม่…
Bruce : ฉันยังไม่ได้พูดเลยจริงมั้ย?
ชายใส่หมวก : แกฉุนเหมือนตำรวจว่ะ ทำท่ากร่างหลอกตา มุขเดิมๆ
Bruce : ฉันไม่ใช่ตำรวจ เชื่อเถอะ


ชายใส่หมวก : แกยังอยู่อีก? บอกให้ไปซะฮอลลี่
Holly : แต่เขายังไม่ได้บอกนี่
ชายใส่หมวก : ไว้ไปเคลียร์กันทีหลัง ยัยหนู

ชายนิรนามจิกหัวเด็กจนบรูซทนไม่ได้ ต้องออกโรง

Bruce : ไม่ ฉันว่าแกหมดธุระกับหล่อนแล้ว

Bruce : (ผมไปยั่วโมโหเขา ผมไม่ควรเลยจริงๆ)

ชายใส่หมวก : แม่ง แกนี่มันกวนอารมณ์จริงว่ะ อยากได้แผลเป็นเพิ่มเรอะ บอกมาว่าจะเอาตรงไหน?

ด้านบนตรงริมหน้าต่าง ผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งก็กำลังแอบมองสถานการณ์อยู่เช่นกัน

หญิงผมสั้น : บ้าจริง จะเป็นตำรวจไปได้ไง เราจ่ายพวกมันไปแล้ว ก็แค่ไอ้โง่ทำตัวอยากตายเท่านั้นแหละน่า
เสียงในห้อง : เซลิน่า (Selina) อย่าหยุด… มาเถอะ...
Selina : หุบปากไอ้ตัวเหม็น รู้มั้ยอะไรที่ฉันเกลียดที่สุดเกี่ยวกับผู้ชาย?
เสียงในห้อง : ขอร้อง เซลิน่า บอกทีทำไมเธอเกลียดพวกเรา… โอ้ ขอร้องล่ะ
Selina : ฉันไม่เคยเจอเลยน่ะสิ
เสียงในห้อง : พูดอีกทีซิ…

Bruce : (ตาของเขากระตุกระหว่างผมกับเด็กสาวอยู่ตลอด เขาหันไปจากผมชั่ววินาทีหนึ่ง นั่นคือสัญญาณบอกใบ้ เขาค่อนข้างเร็ว)



บรูซหลบมีดแล้วจับอีกฝ่ายดัดแขน ก่อนจะเตะหน้าหงายได้อย่างง่ายดาย ทำเอาฝูงชนหลบกันใหญ่

Bruce : (ผมจะไม่บอกว่าเขามีโอกาส แต่เขาเร็ว)

(โง่จริง ไม่น่าเข้ามาข้องเกี่ยว ต้องไปจากที่นี่เสียก่อนที่จะเป็นจุดสนใจ)

Bruce : โอ๊ย

เด็กสาวที่ชื่อฮอลลี่ เชาช่วยไว้แท้ๆแต่กลับเอามีดมาแทงขาบรูซทีเผลอ

Holly : เอาเลย พวกเรา ฉันจัดการแล้ว

คราวนี้บรูซโดนรุมถึงสามคน ทำให้หลุดออกไปยากกว่าเดิม เขาบิดข้อมือฮอลลี่ เตะและดันอีกสองคนล้ม

Bruce : (ดีจริงๆ บรูซ นายทำให้เขากลัวหัวหดเลยจริงๆ)

Selina : บ้าชิบ


Selina : ห้ามใครทำร้ายฮอลลี่
Holly : เจ็บนะ เขาทำข้อมือฉันหัก

คราวนี้เซลิน่าทนไม่ได้ ดูเหมือนว่าฮอลลี่จะสนิทกับเธอ เซลิน่าโดดลงมากลางวงและตอบโต้บรูซ

Bruce : (ยุ่งเหยิง ผมทำให้มันเละเทะ ไม่มีข้อแก้ตัว ผมไม่รู้จักควบคุมตัวเอง)

(มาอีกคนแล้ว ส่งเสียงฟ่อเหมือนแมว เธอดูเหมือนรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ระวังให้ดี)

เซลิน่าเปิดฉากด้วยการเตะสูง แต่ทักษะน้อยกว่าจึงโดนชกกลับเต็มๆ

Bruce : (เธอเก่ง ฝึกคาราเต้ (Karate) มาดี แต่แค่คาราเต้อย่างเดียว ...โอ้ไม่)

เสียงหวอตำรวจบอกได้ชัดเจนว่างานนี้วุ่นวายสำหรับบรูซแน่ๆ เพราะเขาต้องไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเองคือใคร

ตำรวจ : หยุดอยู่กับที่!
Holly : เซลิน่า ลุกขึ้น เซลิน่า

Bruce : (ถ้าผมโดนจับก็จบกัน)



โดยไม่รอช้า ตำรวจชิงยิงบรูซก่อนที่เขาจะทันได้ขยับ

ตำรวจ 1 : เฮ้ เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเลยนะ
ตำรวจ 2 : เขากำลังจะทำ

Bruce : (โดนเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ เสียเลือดมาก ลุกขึ้นก่อนที่พวกเขาจะ…)

ตำรวจ 1 : ต้องหาหมอแล้ว
ตำรวจ 2 : อาจหลังจากจับไว้แล้วนะ

Bruce : (ไม่ ปล่อยให้พวกเขาจับไม่ได้ ไม่ได้…)

บรูซยังไม่ทันจะได้ลุกหนีไปไหนก็สลบเหมือดเพราะเสียเลือดไปซะก่อน รู้สึกตัวอีกทีด้วยเสียงคุยกัน อยู่บนรถตำรวจ

ตำรวจ 2 : มีเงินสดมั้ย?
ตำรวจ 1 : มีสองสามดอลล์ฯ บัตรประชาชนอะไรไม่มี นี่ฟังนะ… มันเลือดไหลเต็มเบาะไปหมดแล้ว เราต้องพาไปโรง’บาลแล้ว
ตำรวจ 2 : แกแหละฟัง ไอ้หนู พวกแบบนี้ฉันเจอมาเป็นพัน พวกเร่ร่อน ใครจะต้องการมัน?
ตำรวจ 1 : ถ้าเขาตาย...
Bruce : พวกนายสองคน หยุดรถแล้วลงไป
ตำรวจ 1 : เฮ้ยอะไรวะ
ตำรวจ 2 : อย่าไปสนมันเลย อาจจะเมายามาก็ได้
Bruce : ฉันเตือนแล้ว

บรูซกระชากกุญแจมือหลุดออกทันที

ตำรวจ 1 : โอ้พระเจ้า เขา…


บรูซกะตำรวจทั้งสองคนยื้อยุดฉุดกระชากกันจนปืนลั่น รถเขวไปมาจนชนเข้ากับรถสิบล้อ ไฟเริ่มลุก

Bruce : (ไฟ ใช้ไม่กี่วิเท่านั้นที่จะลามไปยังถังน้ำมัน เสียงไซเรน ตำรวจมากันอีก แต่ถังคงระเบิดก่อนพวกเขาจะมาถึง คนพวกนี้ พวกเขาอาจมีครอบครัว)



ผู้ประกาศข่าว : ควันไฟจากรถตำรวจซึ่งไฟลุกท่วมนั้นเห็นได้ชัดถัดออกไปหลายบล็อค ร่างของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนถูกพบไม่ได้สติอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปสามสิบฟุต…

Bruce : (มาถึง… จนได้ ยังไงก็ต้องมาให้ถึงรถ หวังว่าระหว่างทางจะไม่ได้ทำอะไรโง่เง่าไว้อีก คืนนี้ผมทำพลาดไปมากพอแล้ว)

(บิดกุญแจสิบรูซ มันไม่ยากอะไร แค่ลื่นนิดหน่อยเท่านั้น)

กลับมาที่กอร์ดอน หลังจากโดนซ้อมหนักก็ขึ้นมานั่งบนรถพร้อมกับไม้เบสบอลที่พวกแฟลสทิ้งไว้ และใช้วิทยุถามไปยังกรมตำรวจ

Gordon : (พวกเขาทำเพียงพอที่จะไม่ให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาล แต่จะให้บาร์บาราเห็นผมแบบนี้ไม่ได้)

ปลายสาย : นักสืบแฟลส? เขาออกเวรไปแล้วผู้หมวด น่าจะอยู่บ้านชู้ท (Chute) ไปเล่นไพ่ปาร์ตี้กับเพื่อนๆเขาน่ะ

Gordon : (เพื่อนๆมัน)


กอร์ดอนขับรถบึ่งออกไป ก่อนจะเกือบไปเฉี่ยวรถคันหนึ่ง

Gordon : (ไอ้บ้า ขับเกือบชนอยู่แล้ว น่าจะจับเจ้าบ้านั่นซะ ขับพอร์ช (Porsche) แท้ๆแต่ขับไม่ได้เรื่องเลย)

Bruce : (กลัว ทำให้กลัว…)

เป็นรถของบรูซ เวย์นของเรานี่เอง แต่ขับผ่านเอาตอนบรูซกำลังสติมึนๆเพราะเสียเลือด

คนในรถคันข้างๆ 1 : นั่นมันรถบรูซ เวย์นนี่หว่า เมาอะไรมา?
คนในรถคันข้างๆ 2 : โคเคนแหง คนรวยๆเล่นโคเคน ท่าจะหนักด้วย

Bruce : (กลัว… ผมต้องทำให้พวกเขากลัว)

Gordon : (หักหลบพอร์ชเร่งอะดรีนาลีนผมมากพอที่จะขับมาได้ถึงเบย์ริดจ์ (Bay Ridge) รอยช้ำเริ่มจะชัดขึ้นเป็นรูปร่างและกระดูกสันหลังผมก็เริ่มตึงตอนที่วิลสัน (Wilson) บอกลาแก๊งของเขา แน่ละว่าวิลสันกลับคนแรก ไม่อยากให้เมียอยู่ดึกคอยเขานาน แถมยังต้องไปเจอกิ๊กก่อนกลับ)

(ยี่สิบนาทีต่อมา สตาห์นเซน (Stahnsen) โซเซออกมาจากประตู เดินค่อมๆเหมือนคนหมดตัว ถัดมาก็เร็นนี่ (Renny) ผมปล่อยให้มันสองคนกลับบ้านไป)



Gordon : (คนสุดท้าย แฟลส มันเดินตุปัดตุเป๋มายังรถกระบะแล้วขึ้นไปนั่ง ใช้แรงยกแค่สองครั้ง ผมได้ยินเครื่องยนต์เขาสตาร์ทและมองดูเขาขับออกไป เกือบขับทับกล่องจดหมายหน้าบ้านก่อนจะนึกได้ว่าต้องเปิดไฟหน้า)

(ผมปิดไฟของผมและขับตาม ผ่านบ้านชู้ทมาสามนาทีแล้วผมจึงขับเทียบแล้วเร่งเครื่องเบียดเขา เขาขับความเร็วเกินกำหนดไปสิบไมล์ ไม่เร็วพอที่จะฆ่าเขาเมื่อชนเข้ากับต้นไม้ ผมให้เขาดูปืนในมือ เขาพูดชื่อผมแล้วจึงทิ้งปืนตัวเอง)

(เขาตัวใหญ่ ฝึกกับกรีนเบเร่ต์ และมันผ่านมาสิบห้าปีแล้วที่ผมเคยปะทะกับคนจากกรีนเบเร่ต์ ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาควรได้แต้มต่อ)

กอร์ดอนไม่ใช้ไม้เบสบอลที่เขาเอามาด้วย เขามั่นใจว่าจะเอาชนะได้โดยไม่ต้องใช้มัน


Gordon : (ผมไม่ทุบกะโหลกเขาแตก ผมไม่กระแทกกล่องเสียงเขา ผมไม่ทำซี่โครงหักหรือชกเขาที่หน้าอก ผมทำเพียงพอที่เขาจะไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล)

(ผมโยนปืนของเขาทิ้งไว้ในป่า ถึงเช้ามันน่าจะเริ่มสนิมเกาะ ผมจับเขาแก้ผ้าแล้วทิ้งเขาไว้ข้างถนนโดยใส่กุญแจมือของเขาเอง)

(มันจะไม่แจ้งใคร แฟลสไม่ทำแน่ มันจะแต่งเรื่องขึ้นมาที่คนจู่โจมอย่างน้อยสิบคน และไม่มีวันยอมรับว่าผมเป็นคนทำ แต่มันจะรู้ และมันจะอยู่ให้ห่างจากบาร์บารา ต้องขอบใจแฟลส แกทำให้รู้ว่าจะเป็นตำรวจในก็อธแธมมันต้องทำยังไง) 



Bruce : (พ่อครับ กลัวว่าผมคงจะต้องตายคืนนี้ ผมพยายามจะอดทน ผมพยายามจะรอ แต่ผมก็ต้องรู้)

บรูซขับรถกลับมาถึงบ้านในสภาพที่ชนเข้ากับรถคันอื่นในโรงรถ เขานั่งอยู่ในห้องเพียงคนเดียว

(ทำอย่างไรครับพ่อ ผมจะทำมันได้อย่างไร ผมต้องใช้อะไร… พวกมันถึงจะกลัว)

(หากผมสั่นกระดิ่ง อัลเฟร็ดจะมา เขาจะหยุดเลือดไหลได้ในเวลาไม่นาน เขาคือของขวัญอีกหนึ่งอย่างจากพ่อ)

(ผมมีทรัพย์สมบัติ คฤหาสน์ของครอบครัวตั้งอยู่เหนือถ้ำขนาดมหึมาที่จะเป็นศูนย์บัญชาการอันสมบูรณ์แบบได้ ผมมีแม้กระทั่งพ่อบ้านที่ผ่านการฝึกการแพทย์ในสนามรบ ใช่แล้วพ่อ ผมมีทุกอย่างยกเว้นความอดทน ผมตายซะดีกว่าต้องรออีกซักชั่วโมงเดียว ผมรอมาสิบแปดปีแล้ว)



Bruce : (สิบแปดปี สิบแปดปีตั้งแต่ซอร์โร (Zorro) หน้ากากแห่งซอร์โร (The Mask of Zorro) ตั้งแต่ที่เดินออกมาในคืนนั้น ตั้งแต่ชายผู้ซึ่งมีดวงตาหวาดกลัว เบ้าตาลึกโหล และเสียงที่เหมือนแก้วถูกบดของเขา)

บรูซนึกย้อนกลับไปในคืนที่เขาและพ่อแม่ไปดูละครเวทีเรื่องหน้ากากแห่งซอร์โร และเขาออกมาจากโรงละครยังตรอกอาชญากรรม (Crime Alley) ที่ซึ่งพ่อและแม่ของเขาถูกยิงตายโดยโจรกระจอกคนหนึ่ง และวิ่งหนีไป

Bruce : (ตั้งแต่ความรู้สึกทั้งหมดออกจากชีวิตผมไป)



Bruce : (โดยไร้ซึ่งการเตือนใดๆ มันเข้ามา ทะลุหน้าต่างห้องอ่านหนังสือของผมเข้ามา)

สิ่งที่บินกระแทกหน้าต่างมาตรงหน้าบรูซนั้นก็คือค้างคาวตัวใหญ่

Bruce : (ผมเคยเห็นมันมาก่อน จากที่ไหนซักแห่ง มันทำให้ผมขวัญเสียในตอนเด็ก ทำให้กลัว)

(ใช่แล้วครับพ่อ ผมจะต้องเป็นค้างคาว)



จบพาร์ท 1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม เล่มนี้ก็ถือว่าเป็นเล่มที่แฟนๆแบทแมนทุกคนจะต้องอ่านก็ว่าได้ เพราะเราจะได้เห็นทัศนคติที่บรูซคิดต่อการเป็นแบทแมน และได้เห็นด้วยว่าทำไมบรูซถึงต้องแต่งตัวเป็นค้างคาวให้ลำบากด้วย (ฮา) ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่หวือหวาตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ผู้สปอยล์ก็คิดว่ามันเป็น Story Arc ที่คลาสสิคและอยากแปลให้ได้อ่านกัน เพราะนอกจากจะเป็นเนื้อเรื่องที่ใครอยากเริ่มอ่านแบทแมนจะต้องมาเริ่มที่ตรงนี้แล้ว Year One ยังเป็นเนื้อเรื่องต้นฉบับที่นำหลายส่วนมาใส่ใน Batman Begins ของคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ด้วย สำหรับเล่มนี้ก็เป็นเล่มแรกจากทั้งหมดสี่เล่มจบ ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปนะคะ

- Red Hood's Outlaw -
          

2 ความคิดเห็น: