จากคอมิคเรื่องดังของดีซีคอมิคส์ สู่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดและกำลังจะเป็นทีวีซีรีส์
จอห์น คอนสแตนติน หมอผีชาวอังกฤษผู้ต่อสู้กับอำนาจเวทย์มนตร์และปีศาจ
และภารกิจตามหาเข็มทิศกับเด็กหนุ่มผู้มีญาณวิเศษ
Constantine #1 (2013)
The Spark and the Flame Part 1:
The Price We Pay
เรื่องโดย : Ray Fawkes and Jeff Lemire
ภาพโดย : Ivan Reis and Renato Guedes
วางจำหน่าย : 20 มีนาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ผู้สปอยล์ : Red Hood's Outlaw
จอห์น คอนสแตนติน หมอผีชาวอังกฤษผู้ต่อสู้กับอำนาจเวทย์มนตร์และปีศาจ
และภารกิจตามหาเข็มทิศกับเด็กหนุ่มผู้มีญาณวิเศษ
Constantine #1 (2013)
The Spark and the Flame Part 1:
The Price We Pay
เรื่องโดย : Ray Fawkes and Jeff Lemire
ภาพโดย : Ivan Reis and Renato Guedes
วางจำหน่าย : 20 มีนาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ผู้สปอยล์ : Red Hood's Outlaw
ณ นิวยอร์กซิตี้ (New York City)
John : (นี่คือหนทางที่โลกควรจะเป็นไป คุณให้ และคุณได้ มีทั้งสาเหตุและผลกระทบของมัน)
จอห์น คอนสแตนตินเดินออกมาจากสถานที่ที่ดูเหมือนบาร์ ก่อนจะมีสาวร้องทัก
สาวผมบลอนด์ : เฮ้ ตาคนลึกลับ เฮ้จอห์น! จอห์น คอนสแตนติน (John Constantine) ป๊ะป๋าตามหานายอยู่
John : ตกลงวิคกี้
Vicky : เขาบอกมาว่านายจะฆ่าตัวตาย ขโมยบางอย่างมาจากเขา นายทำรึ?
John : ใช่ คงงั้นมั้ง
จอห์นว่าพร้อมสวมถุงมือ หันมาทำหน้าเข้มใส่หญิงสาว ก่อนจะเดินออกไปท่ามกลางหิมะ
John : (คนธรรมดาน่ะ พวกเขาอะไรต่อมิอะไรภายใต้ปัจจัยเฉพาะของเขาจริงมั้ย? อย่างกฏ หรือขอบเขต แต่ไอ้พวกคนอย่างผมน่ะเรอะ? เราโกงเอา)
(เราหลอกลวงจักรวาลให้นำผลลัพธ์มามอบให้เรา โดยไร้ซึ่งเหตุสมควร ให้เราได้ในสิ่งที่ไม่ควรจะได้ เราบิดเบือนเวลาและพื้นที่ต่างๆ ปรับแปลงจิตใจคน หรือสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ สำหรับคนแบบผม กฏน่ะไม่มีหรอก และนั่นคือสิ่งที่เรียกว่าเวทย์มนตร์ เป็นสิ่งที่ทำให้คนแบบผมอันตราย อันตรายมาก)
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
จอห์นเดินท่ามกลางหิมะโปรยปราย แหงนหน้ามองฟ้า
John : (อันตรายต่อทุกๆคน รวมถึงตัวเราเอง เพราะเมื่อคุณโกงระบบที่เป็นไป ระบบพยายามชดเชยคืนมาเท่าๆกัน ไม่มีใครเข้าใจได้แน่ว่าอย่างไรหรือทำไม แต่มันจะทำ)
(เวทย์มนตร์นั้นมีราคาสูง คุณเอามาในสิ่งที่ไม่ใช่ของคุณ แต่คุณก็มีราคาที่ต้องจ่าย และคุณควรเชื่อผมในเรื่องนี้)
(เพราะทุกวันนี้อะไรๆมันเปลี่ยนไปแล้ว ราวกับว่าคุณไม่สามารถจะโยนก้อนหินออกไปมั่วๆโดยไม่ไปโดนใครที่มีแหวนพลังเอเลี่ยนหรือผ้าคลุมกันกระสุนเข้าซักราย)
จอห์นแหงนมองลำแสงสีเขียว บ่งบอกว่ากรีนแลนเทิร์น (Green Lantern) เพิ่งจะบินผ่านศีรษะเขาไป
(คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องดีเหรอ? เอาเถอะ คุณมีอิสระที่จะเชื่อตามใจคุณ)
(พวกใส่ชุดรัดรูปน่ะก็มีข้อดีของมัน แต่ใครบางคนที่รู้จริงว่าอะไรเป็นอะไรน่ะ ก็ต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครข้ามเส้นเกินไปกับการโกง)
(บางทีคนๆนั้นอาจเป็นผม)
จุดบุหรี่สูบตามสไตล์ จอห์นเดินตามถนนมาจนถึงหน้าบ้านของเขาเอง
ใครบางคน : นี่! จอห์น!
เสียงเรียกที่ว่านี้มาจากเงามืดๆที่หลบอยู่ข้างถังขยะ หน้าร้านขายสัตว์เลี้ยงของด๊อตตี้ (Dotty's Pet) ซึ่งดูแล้วคงเป็นที่อยู่ของจอห์นนั่นแหละ
ใครบางคน : จอห์น มันเกิดขึ้นอีกแล้ว คุณให้ผมมาอีกถ้ามันเกิดขึ้น ผมกลับมาเห็นสิ่งต่างๆอีกแล้ว
ซึ่งเมื่อจอห์นเห็นว่าบุคคลลึกลับนี้เป็นใครเท่านั้นแหละ เขาก็รีบลากเด็กหนุ่มเข้าไปในร้านสัตว์เลี้ยงที่แขวนป้ายว่า "ปิด" อย่างรวดเร็ว
John : บ้าชิบ คริส (Chris) นายรู้ดีกว่าจะมาซุ่มๆซ่อนๆใส่ฉันนะ ทางนี้มาเร็ว
เมื่อเข้าไปในร้านแล้วคนที่ยืนอยู่บนบันไดคือป้าแก่ๆนามว่าด๊อตตี้ (Dotty) เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเจ้าของที่นี่ และเธอก็ต้อนรับจอห์นอย่างคุ้นเคย
Dotty : โอ้ จอห์น คุณเองเหรอ ฉันได้ยินเสียงหน้าบ้านน่ะ
John : โธ่ ด๊อตตี้ ลงมาให้เมื่อยเปล่าๆ ฉันแค่เพิ่งกลับเฉยๆ
Dotty : ดึกเชียวนะ รู้มั้ยป้ารู้สึกปลอดภัยกว่ามากเลยเวลาคุณอยู่ อย่าลืมปิดบ้านลงกลอนก่อนเข้ามาล่ะ
John : แน่นอน กลับไปนอนเถอะอย่าห่วงเลย
Chris : โอ๊ยเฮีย ทำไมต้องในนี้ด้วย ที่นี่ทำผมหลอน
John : นายรู้ดีว่าทำไมเราต้องมาในนี้ ประการแรก ฉันซุกหัวนอนที่นี่ ประการที่สอง ที่นี่คือหนึ่งในที่ๆปลอดภัยที่สุดในนิวยอร์ก
Chris : มะ... หมาน่ารักนะ
John : เข้ามาให้ไว อย่ามัวแต่ยืนเอ๋อ
ด้านหลังประตูเป็นบันไดนำลงไปสู่ห้องที่ออกจะดูขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่กะโหลกสัตว์ห้อยจากเพดานแถมยังมืดอีกด้วย
John : สัตว์ทั้งหมดที่นี่เข้าไปปั่นป่วนเวทย์เสาะหา (Divination Magic) ด้วยพลังงานเล็กๆบางอย่างของพวกมันน่ะ มันเข้าไปขัดขวางไว้ไม่ให้ใครหาฉันเจอ แต่ยกเว้นในกรณีของนายสินะ
ดูเหมือนว่านายคริสคนนี้จะมีพลังเวทย์มนตร์ในการตามหาคนได้ด้วย แม้ว่าเฮียจอห์นของเราจะพยายามซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ก็ตาม
Chris : ผมไม่มีเวทย์มนตร์ซะหน่อย
John : ไม่โดยตั้งใจน่ะสิ
ว่าแล้วจอห์นก็เอามือวางไปบนสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ที่เขียนไว้ราวกับร่ายคาถาบางอย่าง
Chris : อ๊ากก ไม่เอาน่าเฮีย มันเจ็บนะ!
John : แย่หน่อยว่ะ คริส โทษทีแต่ฉันสัญญาจะหาทางหยุดความเจ็บนี้ และเร็วๆนี้ด้วย สัญญาให้ฟ้าผ่ากลางกบาลเลยพอใจยัง แต่ตอนนี้…
[ชีวิตเกือบจะถูกทำลายโดยความล่อใจของเวทย์มนตร์ในวัยเยาว์ จอห์น คอนสแตนตินรู้ถึงสิ่งที่ต้องแลกกับผลกระทบอันชั่วช้าของเวทย์มนตร์ดีจนเกินไปด้วยซ้ำ เขาใช้ชีวิตต่อสู้เพื่อคงสมดุลและป้องกันไม่ให้ใครกลายเป็นผู้ครองอำนาจมากเกินไป ดีซี คอมิคส์ (DC Comics) ขอนำเสนอ คอนสแตนติน (Constantine) ใน ประกายไฟและเปลวเพลิง (The Spark and the Flame) ภาค 1 ตอน ราคาที่ต้องจ่าย (The Price We Pay)]
John : ฉันจะให้นายอยู่ในที่ๆทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้บ้าง
จอห์นผลักคริสจนหน้าแนบกับแผนที่ เขาต้องการหาตำแหน่งของอะไรกันแน่
John : เอ้าเชิญ ทำสัญลักษณ์ลงไปบนแผนที่ โอเคมั้ยคริส? เขียนออกมาอย่าได้กั๊ก
Chris : อ๊ากกก ขะ…เข็มทิศ บอกตำแหน่ง ขะ...เข็มทิศครอยดอน! (Croydon’s Compass)
John : บนแผนที่ คริส วาดไปบนแผนที่
จอห์นส่งปากกาเมจิคให้ ส่วนคริสน้ำหูน้ำตาไหล ท่าทางเจ็บปวดก่อนจะสลบหงายหลังไป
Chris : เข็ม เข็มไหม้ สวดอธิษฐานเพื่อ โอยย
John : บ้าชิบ
John : (เข็มทิศแห่งครอยดอน นี่แหละคือหนึ่งในสิ่งพวกนั้น นี่แหละคือสูตรโกง และถ้ามันใช่สิ่งที่ใครๆว่ากันจริงๆ ทุกๆคนจะต้องอยากได้มัน และฉันจะยอมให้ใครได้มันไปไม่ได้ มันเป็นอุปกรณ์ในตำนาน กล่าวว่าได้นำมาประกอบในศตวรรษที่ 30 โดยไอ้เวรที่ชื่อว่า แองกัส ครอยดอน (Angus Croydon) พ่อมดซาดิสต์ผู้ถลุงใช้พลังเกือบทั้งหมดของเขาไปกับเซ็กส์หมู่เสื่อมๆกับพวกหญิงชั้นสูงในอังกฤษ)
(ซึ่งปกติแล้วนั่นคงเป็นอะไรที่ผมจะเอามาเป็นแนวทางปฏิบัติ ถ้าไม่ใช่เพราะการฆาตกรรมและกินคนที่จุดพลังให้กับเขาและเข็มทิศต้องสาปของเขา เข็มทิศซึ่งแลกกับเลือดพวกนั้น ได้ช่วยให้เขาค้นพบทรัพยากรเวทย์มนตร์ทุกอย่างที่ใจเขาปรารถนา)
(ใครก็ตามได้เข็มทิศนี่ไป จะกลายเป็นรายแรก ณ ที่ซึ่งพลังลี้ลับได้ตื่นขึ้น และในทุกๆการค้นพบวัตถุไสยศาสตร์)
คริสได้วงพิกัดซึ่งเข็มทิศนี้ซ่อนอยู่เอาไว้แล้ว ที่นั่นคือบางแห่งแถวๆนอร์เวย์ (Norway) และยังมีอีกจุดที่เมียนมาร์ (Myanmar)
John : เอาล่ะคริส นายก็รู้ว่ามันเป็นยังไง ถ้านายเห็นมัน ใครคนอื่นก็ต้องเห็นเหมือนกัน
John : (ดูเหมือนเราจะได้เดินทางกัน)
จอห์นและคริสกำลังอยู่บนเครื่องบิน จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือประเทศนอร์เวย์ จอห์นยังมีเวลามานั่งเหล่แอร์โฮสเตสสาวสวยอีกด้วย
แอร์สาว : วิสกี้ของคุณค่ะ
John : เชียร์ส (cheers)
John : (บ้าชิบ น่าเสียดายแท้ๆ โตมาแบบผม คุณจะเรียนรู้วิธีสังเกตปัญหาได้แต่ไกล เพราะงั้นในขณะที่ลูกเรือสาวคนนี้คิดว่าตัวเองราบรื่นสุดๆ และต้องขอชม เธอเองก็เกือบเนียนอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ยังจับได้ตอนที่เธอหยอดยาพิษลงไปในเครื่องดื่มของผม)
จอห์นแกล้งทำท่าราวกับโดนยาพิษขณะเดินไปเข้าห้องน้ำ แอร์สาวสวยคนเดิมมาด้านหลังแล้วกระซิบ
แอร์สาว : เดอะโคลด์เฟลม (The Cold Flame) จะเผาแก คอนสแตนติน อีกไม่นานแกก็สิ้นใจ
แต่กลับกลายเป็นโอกาสให้จอห์นดันเธอเข้าไปในห้องน้ำแทน ท่าทางจะมีเรื่องต้องคุยกันหน่อย
John : ไม่ ฉันไม่คิดงั้น ก็นะ ฉันคงไม่ต้องถามว่าเธอทำงานให้ใคร หรือว่าทำไมลัทธิแห่งโคลด์เฟลม (The Cult of The Cold Flame) อยากจะให้ฉันตาย พวกมันรู้หรือไงว่าฉันทำอะไรอยู่?
แต่จอห์นก็ไม่ได้คำตอบอะไรทั้งนั้นเมื่อสาวจากลัทธิร่ายคาถา เผาตัวเองมอดไหม้ไปต่อหน้าต่อตา แถมเอาไฟมาติดเนกไทจอห์นจนสัญญาณห้ามสูบบุหรี่สว่างขึ้นมาอีก แต่จอห์นก็กลับมานั่งที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Chris : ให้ตาย ผมรู้สึกแย่โคตร อยากจะขอซักกรึ๊บ
John : เป็นฉันจะไม่แตะต้องมัน
John : (เดี๋ยวได้เมาไม่ตื่นกันพอดี)
ณ ประเทศนอร์เวย์
Chris : บอกอีกทีได้มะผมมาทำไม
John : นายเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีไงไอ้หนู ฉลาดและจิตใจงาม อยากจะให้นายมาด้วย อีกอย่างคนเราจะเพลิดเพลินกับลุทฟิสค์ (Lutefisk) คนเดียวได้ไง รู้จักมั้ยมันเป็นอาหารท้องถิ่น กลิ่นก็แย่แล้วรสชาติยังแย่กว่า ถ้าเอาไปโดนเงินนี่หมองเลย
*หมายเหตุ : ลุทฟิสค์เป็นอาหารท้องถิ่นของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) ค่ะ ทำจากปลาแห้งผสมสารที่ช่วยให้ขมน้อยลง (พวกโซเดียม) เป็นอาหารที่กลิ่นรุนแรง
Chris : จะอ้วกอ่ะ หยุดเถอะ
John : กลิ่นทำขนลุกเลยดิ จริงๆนะ ต้องพาไปทำความคุ้นเคยแล้ว อย่าไปไหนล่ะ
John : (เผื่อจะได้เรียนรู้อะไรติดตัวไปบ้าง)
ทั้งสองหนุ่มลงจากแท๊กซี่ เบื้องหน้าเป็นตึกที่ทำจากน้ำแข็ง
Chris : โว้ นี่โรงแรมเหรอ
John : เออ เออ งดงามมาก จ่ายค่าแท๊กซี่ให้ด้วย เดี๋ยวขากลับจ่ายให้
Chris : มันเป็นน้ำแข็งหมดเลย คืนละเท่าไหร่เนี่ย
John : พิกัดที่นายเขียนไว้บนแผนที่นำเรามา มันคือที่นี่แหละ เดี๋ยวเราก็เจอสิ่งที่หา เริ่มจากที่โบสถ์ก่อน
Chris : ไหงถึงใช้ชื่อผมเช็คอินโรงแรม
John : เครดิตนายดีกว่าฉัน นายพูดถึง "เข็มไหม้" กับบางอย่างเกี่ยวกับสวดอธิษฐาน นึกสิคริส นายจำอะไรได้อีกบ้าง?
Chris : เข็มทิศน่ะ มันแยกออกมาได้สามส่วน เข็ม หน้าปัด แล้วก็เลนส์ โอย รู้สึกไม่ค่อยดีเลย
John : หืม
จอห์นพบบางอย่างที่หน้าเตาผิง มันคือเชิงเทียนนั่นเอง เขาทุบมันจนแตก
John : มีอะไรอีกมั้ย?
Chris : บางอย่าง บางอย่างกำลังเกิดขึ้น
John : อ่าฮ้า
สิ่งที่อยู่ด้านในของเชิงเทียนก็คือเข็มของเข็มทิศครอยดอน ตามที่คริสได้บอกเอาไว้
Chris : บะบะบะบางอย่าง ซะซา...
John : (นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการ ซาร์กอนจอมเวทย์ (Sargon The Sorcerer) เขาเคยเป็นตัวขับเคลื่อนในโลกแห่งเวทย์มนตร์เลยทีเดียว หนึ่งในสุดยอดของวงการ ผมไม่ได้เจอมานานแล้ว และบอกตามตรงผมหวังว่าเขาจะตายไปแล้วในที่สุด)
Chris : ซะ...ซาร์กอน! ซาร์กอนอยู่ที่นี่ ซาร์กอนและความตาย และ...
สภาพคริสตอนนี้ชักแหงกๆเหมือนโดนยา หัวกระแทกเข้ากับม้านั่งอีกต่างหาก
John : โอ้ ไม่นะ
John : ไม่เอาน่าคริส หยุดมันได้แล้ว ฉันได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้ว เราต้องไป เราต้องไปเดี๋ยวนี้ ถ้าซาร์กอนมี...
John : (จากที่ฟังมาล่าสุด ซาร์กอนเกาะกลุ่มตัวเองกับอีกสองคนจากยุคเดียวกันเมื่อหลายทศวรรษก่อนนี้ ตั้งตัวเองเป็นเทพเจ้าบนโลกและตั้งลัทธิบูชาพวกมันขึ้นมา ลัทธิมันเรียกว่า เดอะโคลด์เฟลม)
(ซาร์กอน, ซาทาร่า (Zatara), มิสเตอร์อี (Mister E), และทันนาราค (Tannarak))
(มันก็เรื่องเล่าเดิมๆแหละว่ามั้ย? พ่อมดดีกลับเสื่อมทรามเพราะความเย้ายวนใจของเวทย์มนตร์ เดี๋ยวนี้ได้ยินเยอะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมากก็ก่อนที่ใครพยายามจะฆ่าผม หรือไม่ก็หลังจากพวกขลังๆคนไหนตาย)
(ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เริ่มต้นแผนการทำลายล้างอะไรซักอย่าง และเวทย์มนตร์ที่พวกเขาใช้น่ะเหรอ? ผมไม่อยากจะรู้ด้วยซ้ำว่าถึงคราวต้องชดใช้แล้วจะจบลงอีท่าไหน)
(ซาทาร่าตายก่อนเพื่อน นั่นทำให้เหลือซาร์กอน ทันนาราค และมิสเตอร์อีซึ่งตาบอด สามคนนี้ไม่ใช่ใครที่ผมอยากจะเจอตัวเป็นๆแน่ๆ)
Sargon : ช้าไป จอห์น แย่หน่อย
Sargon : ซาร์กอนจอมเวทย์อยู่นี่แล้ว!
ซาร์กอนปรากฏตัวมาพร้อมกับพลังเวทย์จนจอห์นกระเด็น เธอได้คุมตัวคริสไว้และทำให้เขาลอยเคว้งอยู่
Sargon : ยอมจำนนเดี๋ยวนี้ จอห์น แกทำร้ายฉันไม่ได้ และแกไม่มีทางหนี แค่ให้ในสิ่งที่ฉันต้องการมา เพื่อนแกกำลังจะตาย คาถาของฉันกำลังบีบคั้นร่างกายของเขา หากฉันปล่อยให้มันเป็นไปจนจบ ร่างกายเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
John : ฉันจำแกได้ ไจมินี่ ซาร์เจนต์ (Jaimini Sargent) ลูกสาวของซาร์กอน ได้ยินว่าพ่อแกเคยเป็นคนดี ฉันว่าฉันเดาได้ว่าแกได้ชื่อและพลังเขามายังไง แกได้ลัทธิเขามาด้วยหรือเปล่าล่ะ?
จอห์นหยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อ มันดูเหมือนเหรียญตรา
Sargon : ถ้าแกรู้อะไรเกี่ยวกับพลังที่ฉันเอามาจากเขา พลังของฉัน แกก็จะรู้ว่าทริคเล็กๆกับของจุกจิกของแกน่ะไร้ประโยชน์ที่นี่ เอาเข็มมาให้ฉันแล้วพ่อหนุ่มคริสโตเฟอร์นี่จะต้องเรียกแกว่าผู้ช่วยชีวิต
Chris : อ๊ากกก
Sargon : ค่อนข้างเจ็บปวดนะ สิ่งที่เกิดกับเขา แกมีเวลาห้าวินาที
Chris : จอห์น ขอร้องล่ะ! ช่วยด้วย!
Sargon : เอาเข็มมา แกเหลือสาม ไม่งั้นเขาตายก่อนแล้วก็แก
John : แล้วทำไมแกไม่ร่ายคาถาใส่ฉันซะเลยล่ะ ไปทำเขาทำไม?
Chris : จอห์นนน!
John : ขอโทษว่ะ คริส ฉันสัญญาแล้วว่าจะไม่ต้องเจ็บอีก
จอห์นบีบเหรียญในมือจนแตก เกิดแสงสว่างวาบ ซาร์กอนกรีดร้อง ปรากฏว่าจอห์นได้หายไปจากตรงนั้นแล้ว ยอมให้คริสตายดีกว่าเข็มตกไปอยู่ในมือซาร์กอน เป็นคนดีจริงๆ
Sargon : แกมันทำตัวสมกับคำร่ำลือจริงๆ คอนสแตนติน
Chris : อย่า อย่า ขอร้องล่ะ อ๊ากกก
ซาร์กอนใช้พลังบดขยี้จนร่างคริสแตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดสาดเลยทีเดียว
Sargon : อย่าวิ่งหนีให้เสียเปล่าเลย คอนสแตนติน ฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบ ฉันจะควบคุมน้ำแข็งและหิมะทั้งหมดให้ลากคอแกมาให้ฉัน! คอนสแตนติน!
John : (เวทย์มนตร์ หลอกลวงจักรวาลให้มอบให้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา ทำให้คนอื่นเห็นไปตามที่ใจเราอยาก บิดเบือนพื้นที่และเวลา)
โรงแรมน้ำแข็งพังราบเหลือแต่ซาก ซาร์กอนออกมาก็พบกับจอห์นแยกร่างเต็มไปหมด ซาร์กอนปล่อยพลังระเบิดเละเทะไม่สนว่าไหนร่างจริง
Sargon : ตาย! ตายซะ! แกคิดว่าฉันจะหาเข็มไม่เจอรึ? คิดว่าฉันหาแกไม่เจอรึ? ฉันจะดึงมันออกมาจากกระดูกไหม้ๆของแก!
John : (เรื่องไปไกลเกินแก้ และมันก็เลวร้าย สิ่งต่างๆเกิดขึ้นและการเสียสละนั้นเป็นราคาสูง)
John : (คุณเอามาในสิ่งที่ไม่ใช่ของคุณ และคุณต้องจ่าย)
John : แน่ล่ะคุณต้องจ่าย
จอห์นตัวจริงนั้นไม่ได้อยู่บริเวณนั้นแล้ว เขารอดครั้งนี้ไปได้พร้อมกับเข็ม แต่กับคริสนั้นร่างของเขาถูกทับอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
John : (คุณจะต้องจ่ายเสมอ)
John : ขอโทษว่ะคริส
(ตอนต่อไป : ชายตาบอด)
อันนี้ของแถม เป็นหน้าปกฉบับ Variant
จบเล่ม 1.
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายเล่ม
ก็เป็นเล่มแรกที่ยังไม่มีอะไรมากนะ เหมือนเป็นการแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับลัทธิแห่งโคลด์เฟลมมากกว่า อย่างที่เขียนส่งท้ายไว้ว่าตอนต่อไปจะเกี่ยวกับชายตาบอด ดังนั้นเล่มต่อไปเราก็น่าจะได้เห็นมิสเตอร์อี ตัวบิ๊กอีกคนหนึ่งของลัทธินี้กัน สำหรับพี่จอห์นของเรานั้นอย่างที่เราได้เห็นไปคือ เขาไม่ได้มีนิสัยที่เป็นฮีโร่ซะทีเดียว แถมยังเป็นผู้ชายติดเหล้า ติดบุหรี่อีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวละครของเขาน่าสนใจ ยังไงคงต้องติดตามต่อไปว่าการตายของคริสที่จอห์นต้องรับผิดชอบนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อเขา แล้วเขาจะตามอีกสองส่วนที่เหลือของเข็มทิศครอยดอนได้ก่อนโคลด์เฟลมหรือไม่
ก็เป็นเล่มแรกที่ยังไม่มีอะไรมากนะ เหมือนเป็นการแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับลัทธิแห่งโคลด์เฟลมมากกว่า อย่างที่เขียนส่งท้ายไว้ว่าตอนต่อไปจะเกี่ยวกับชายตาบอด ดังนั้นเล่มต่อไปเราก็น่าจะได้เห็นมิสเตอร์อี ตัวบิ๊กอีกคนหนึ่งของลัทธินี้กัน สำหรับพี่จอห์นของเรานั้นอย่างที่เราได้เห็นไปคือ เขาไม่ได้มีนิสัยที่เป็นฮีโร่ซะทีเดียว แถมยังเป็นผู้ชายติดเหล้า ติดบุหรี่อีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวละครของเขาน่าสนใจ ยังไงคงต้องติดตามต่อไปว่าการตายของคริสที่จอห์นต้องรับผิดชอบนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อเขา แล้วเขาจะตามอีกสองส่วนที่เหลือของเข็มทิศครอยดอนได้ก่อนโคลด์เฟลมหรือไม่
- Red Hood's Outlaw -
ขอบคุนครัช ชอบจอห์นมากๆ fc เลย 555
ตอบลบขอบคุณครับบ :D
ตอบลบ