12 มิถุนายน 2557

Loki: Agent of Asgard #5 (2014)

โลกิ ธอร์ ลอเรไล และเวอริตี้บุกคุกใต้ดินของแอสการ์ด!
แผนการที่ซ่อนอยู่ของโลกิคืออะไรกันแน่
หรือมีอะไรอื่นที่เขาต้องการจากภายในแอสการ์ด?



Loki: Agent of Asgard #5 (2014)
This Mission Will Self-Destruct In Five Seconds
เรื่องโดย : Al Ewing
ภาพโดย : Jenny Frison and Lee Garbett
วางจำหน่าย : 4 มิถุนายน 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Red Hood's Outlaw


นี่คือเรื่องราวของโลกิ
โลกิ ผู้ซึ่งทำภารกิจให้กับพระแม่ทั้งมวล (The All-Mother) ในฐานะตัวแทนของพวกเขา ข้อตกลงนั้นเรียบง่าย หนึ่งภารกิจที่นักเล่นกลทำสำเร็จ แลกกับหนึ่งความผิดในอดีตของเขาลบไปจากประวัติศาสตร์และจากความทรงจำ ด้วยหนทางนี้ เขาหวังจะหลบหนีจากผลลัพธ์อันเกิดจากเรื่องราวของตน เขาหวังจะเปลี่ยนแปลง

ช่วงหลังมานี้ โลกิได้รับมอบหมายให้นำพาพวกชาวแอสการ์ดที่เที่ยวเตร่กลับบ้าน ล่าสุดคือซิเกิร์ด (Sigurd) ผู้รุ่งโรจน์ ด้วยเหตุนั้น ซิเกิร์ดจึงถูกล่ามโซ่แห่งไฟนรกและคุมตัวไว้ในคุกใต้ดินของแอสการ์ด (Asgardia) คาดว่าจะด้วยความผิดแห่งการไปอาศัยยังโลก และนั่นคือการกระทำอันหนักอึ้งอยู่บนบ่าของโลกิ

ดังนั้นเขาจึงเรียกพวกตัวแทนของเขามารวมตัวกัน ลอเรไล (Lorelei) หญิงสาวเจ้าแห่งการต้มตุ๋นผู้ซึ่งรอดจากพระแม่ทั้งมวลด้วยความช่วยเหลือของโลกิ ธอร์ (Thor) พี่ชายของโลกิและเทพเจ้าแห่งสายฟ้า และเวอริตี้ วิลลิส (Verity Willis) มนุษย์ธรรมดาผู้ซึ่งเกิดมาพร้อมพลัง หรือคำสาป ในการมองเห็นผ่านคำโกหกใดๆ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ด้วยกันสามคน พวกเขาวางแผนจะท้าทายความตั้งใจของพระแม่ทั้งมวล และเข้าถล่มคุกใต้ดินของแอสการ์ด

ทว่ายังคงมีโลกิอีกคนหนึ่ง…

โลกิที่แก่กว่า ผู้ซึ่งดูเหมือนจะถูกจองจำไว้โดยพระแม่ทั้งมวล ทว่าสามารถเดินท่องกาลเวลาได้ตามใจอยาก ต่อต้านขีดจำกัดต่างๆที่สร้างไว้กับเขา โลกิที่ทรงอำนาจเพียงพอที่จะสรรค์สร้างดาบแกรม (Gram) ดาบแห่งความสัตย์ โดยเล่ห์เหลี่ยมสกปรกตั้งแต่ครั้งอดีตอันห่างไกลของแอสการ์ด และมองดูมันถูกส่งต่อไปยังมือของโลกิที่เด็กกว่าในปัจจุบัน

อีกไม่นานนับจากบัดนี้ โลกิทั้งสองจะต้องมาเผชิญหน้าในที่สุด และผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว…

จะเป็นตัวแทนแห่งแอสการ์ด

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)


“เปรียบเทียบหนัง.com”
(สายการบินร็อกซ่อน (Roxxon Airways) เที่ยวบิน 303
ขณะนี้กำลังบินเหนือบร็อกซ์ตัน โอกลาโฮมา (Broxton, Oklahoma))
เหล่าผู้โดยสารกำลังใช้เวลาว่างบนเครื่องบินอ่านหนังสือหรือเล่นแทบเล็ตของพวกเขา ทว่าชายคนหนึ่งหน้าตาง่วงเหงาหาวนอน มองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะตกใจเรียกพนักงานบนเครื่องทันที

ผู้โดยสาร : แอร์โฮสเตส! แอร์โฮสเตส! ข้างนอกนั่น! ที่ปีก คุณเห็นพวกเขามั้ย?
แอร์โฮสเตส : เอิ่ม… ฉันขอโทษค่ะแต่… เกรงว่าฉันจะไม่เห็นอะไรเลย

อย่างที่เรารู้กันดี สองคนที่มาแอบเกาะเครื่องไปด้วยทั้งที่ไม่ได้จ่ายค่าตั๋วก็คือโลกิและลอเรไลนั่นเอง


(โลกิและลอเรไล (Loki & Lorelei)
เล่นกายกรรมกลางอากาศโดยปราศจากตาข่าย)

“This Mission Will Self-Destruct In Five Seconds”
“ภารกิจนี้จะทำลายตัวเองในห้าวินาที”

Lorelei : นายจะห้ามใจหน่อยไม่ได้เลยใช่มั้ยนี่?

หนึ่่งหนุ่มหนึ่งสาวชาวแอสการ์ดพากันดิ่งพสุธา พวกเขากำลังจะทำอะไรกันแน่เนี่ย


(แอสการ์ด ล่องลอยเหนือพรี-ร็อกซ่อน บร็อกซ์ตัน*)

*เฮ้ มันคล้องจองกัน! อีกอย่าง เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ปัจจุบันใน Thor: God of Thunder

Lorelei : เอาล่ะ ฉันรู้แผนเกือบทั้งหมด…
Loki : บุกเข้าไปยังห้องขังที่แน่นหนาที่สุดในแอสการ์ด?
Lorelei : ...เพื่อเอาตัวซิเกิร์ดออกมา ใช่ แต่เราจะผ่านไฮม์ดัลล์ (Heimdall) ไปได้ยังไง ฉันหมายถึง เขาอาจจะไม่สามารถมองเห็นฉัน ตั้งแต่ฉันหายหน้าไปจากสงครามแร็คนาร๊อค (Ragnarok) ครั้งล่าสุด แต่เขาจะเห็นนายเข้ามา
Loki : ด้วยความเร็วเกือบสองร้อยฟุตต่อวินาที? เขาคงต้องเร็วหน่อยล่ะ พูดแล้วก็นึกได้ ทำไมเราสองคนถึงไม่ต้องใส่ร่มชูชีพกันนะ?

(อุปสรรคลำดับแรก : ไฮม์ดัลล์ ทหารยามของเหล่าเทพ)

Lorelei : ฉันบอกนายให้ไว้ใจฉันไง

ลอเรไลมีลูกกลมๆบางอย่างในมือ ดูท่าทางทั้งสองคนจะลงจอดอย่างปลอดภัยได้ด้วยเจ้าสิ่งนี้

Loki : ฮ่า ฮ่า ยังไงก็เถอะ ด้วยความเร็วขนาดนี้ไฮม์ดัลล์จะมีเวลาชั่วขณะนึงเท่านั้นที่จะสังเกตเห็นพวกเรา ซึ่งเขาจะเห็น นอกเสียจากว่า… เราเอาอย่างอื่นให้เขามองแทน
Heimdall : เลือดของออด (Od)...


(และดูซิ! วันนี้มาถึงในการต่อสู้อันชอบธรรม วันที่จะสลักไว้ตลอดไปในม้วนกระดาษเรื่องเล่าของแอสการ์ดอันทรงเกียรติ วันที่ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า ทายาทของเหล่ากษัตริย์ ผู้ก่อตั้งของอเวนเจอร์ส (The Avengers) และผู้พิทักษ์มิดการ์ด (Midgard) ได้ทำการรบครั้งยิ่งใหญ่ปะทะผู้ประกาศตนเป็นข้าศึกต่อมนุษยชาติทั้งมวล เขาคือเจ้าแห่งเครื่องกลอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งรู้จักกันในนามเดอะเทคโนเครซี่ (The Technocracy)*)

*ดังที่เห็นกันใน Mighty Avengers #9!

(มันคือมหากาพย์สะเทือนโสตประสาทแห่งอำนาจและอันตรายที่จะสร้างความปิติในใจของผู้ศรัทธาแท้จริงจากทุกๆแห่ง การเผชิญหน้านั้นเลี่ยงไม่ได้ ผู้แสวงบุญ นี่แหละคือครั้งนั้น!)


ก่อนหน้านี้…
โลกิกับธอร์อยู่ในส่วนครัวของอพาร์ทเมนต์โลกิ ธอร์หาเบียร์ดื่ม ส่วนโลกินั้นยืนคุย

Thor : ข้าหาได้ชอบเรื่องนี้ไม่ โลกิ
Loki : มันเป็นสิ่งกวนใจที่สมบูรณ์แบบ การคุกคามที่กำลังมาอาจดูน่าประทับใจแต่ไม่ใช่ภัยแท้จริง สิ่งเดียวที่นายต้องทำคือออกไปและเจอกับมัน หรืออยากจะ

ให้ไอรอนแมน (Iron Man) ได้เกียรติยศไปหมด
Thor : มันไม่มีเกียรติใดจากการลับๆล่อนี้หรอก และการสนิทชิดเชื้อกับนางจอมเวทย์ลอเรไล… ความผิดที่นางทำกับข้ายากนักจะให้อภัย น้องข้า
Loki : โอ้ ยากเท่าของฉันเลยงั้นเหรอ

โลกิมองไปยังห้องนั่งเล่นที่ซึ่งลอเรไลและเวอริตี้กำลังพูดคุยบางอย่างกันอยู่

Thor : ยากกว่ามาก เจ้าไม่ใช่โลกิคนที่ผิดต่อข้า
Loki : ไม่ แน่ล่ะว่าไม่
Thor : และหากเจ้าคัดค้านต่อพระแม่ทั้งมวล เจ้าก็ควรเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง พวกเขาย่อมต้องมีเหตุผลอันดีในการจองจำซิเกิร์ด
Loki : ถ้านายเชื่อ ฉันก็มีสะพานสายรุ้งมาขายแล้วล่ะ ฟังนะ ฉันจะทำให้เรื่องนี้มันง่าย จำได้มั้ยตอนฉันช่วยนายจากการกลายเป็นเทพเจ้าแห่งโทสะ ความกักขฬะ และการเกลียดผู้หญิง?

*ใน Loki: AOA #1

Thor : ….ข้าจำได้
Loki : งั้นนายก็จำได้ว่าติดค้างฉันอยู่


กลับมาที่ภาพที่ไฮม์ดัลล์เห็น ธอร์กำลังต่อสู้กับเดอะเทคโนเครซี่
Thor : ข้าจำได้ น้องชาย และครั้งหน้าที่เราพบกันเราจะต้องพูดถึงสิ่งที่ตอนนี้เจ้าติดค้างข้า
Heimdall : จริงแท้ นั่นคือทายาทของโอดิน (Odin)

ทางฝั่งโลกิกับลอเรไล
Loki : ลอเรไล ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะมากที่จะ…

(เครื่องรางแห่งสถานะสสาร (Charm of Liquid Solids) เพิ่งสร้างเสร็จจากโรงตีเหล็กควอนตัมของช่างตีสสารในนิดาเวลเลียร์ (Nidavellir))

ทั้งโลกิและลอเรไลทะลุผ่านพื้นหลายชั้นของแอสการ์ดไปอย่างสบายๆ แม้โลกิจะส่งเสียงอุทานออกมาเล็กน้อยก็ตาม


ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่มีรอยขีดข่วนแล้ว ยังลงสู่พื้นได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
Lorelei : คาถาช่วยกำจัดแรงเหวี่ยง ให้เราได้ลงพื้นอย่างดีและนิ่มนวลภายในคุกใต้ดินที่ลึกที่สุดของแอสการ์ด ปรบมือหน่อยซิ
Loki : ห้าดาวเลย “จะโดดลงดินอีกรอบ” ครั้งหน้าเตือนกันก่อนดีมั้ย?
Lorelei : ฉันไม่คิดงั้นนะ ได้ยินนายส่งเสียงร้องเป็นส่วนที่สนุก แปลกนะที่ไม่มีทหารยามเลย
Loki : สมเหตุสมผลดี ทหารยามคนไหนมาเดินเตร่อาจถูกฆาตกรรมอย่างสยดสยองโดยห้องที่เต็มไปด้วยกับดักถึงตาย
Lorelei : เดี๋ยว ห้องไหนที่เต็มไปด้วยกับดักถึงตาย?
Loki : ห้องนี้ที่เต็มไปด้วยกับดักถึงตาย
Lorelei : อ่า…


Lorelei : ก็ถึงตายอยู่เหมือนกัน เอาล่ะ
Loki : อย่างเหลือเชื่อเลย แน่นอน สิ่งที่ทำให้มันยิ่งอันตรายเป็นพิเศษเลยก็คือมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ มันเป็นภาพลวงตาไว้ซ่อนกับดักจริง ก็นะ กับดักอันอื่น นอกจากที่เราเห็นอยู่น่ะ มันเริ่มจะน่าสับสนยังไงไม่รู้

(อุปสรรคลำดับที่สอง : ห้องที่เต็มไปด้วยกับดักที่ถึงตายอย่างไม่น่าเชื่อ)

Loki : ช่างโชคดี ต้องขอบคุณอุปกรณ์ของมนุษย์นี่ และคาถาแห่งสัญญาณโทรศัพท์ เรามีผู้ช่วย ทางนั้นพร้อมรึยังเวอริตี้?

อีกฝั่งของโทรศัพท์นั่นก็คือเวอริตี้นั่นเอง และเธอสามารถมองเห็นห้องนี้ได้ด้วย

Verity : ยังไกลไปน่ะ
Loki : ก็นะ ในทางเทคนิคแล้วเธอก็กำลังทำมันจากไกลๆ…
Verity : หุบปาก

(เวอริตี้ วิลลิส มองเห็นผ่านคำโกหกเสมอ ส่วนภาพลวงตาถือเป็นของแถม)

Verity : เอาล่ะ เมื่อฉันสั่ง ฉันต้องการให้พวกนายวิ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ทำอย่างที่ฉันบอกเป๊ะๆ และพยายามให้มากๆล่ะที่จะไม่ตาย ขอเถอะ


Verity : ไป! ระวังกับดักหนามนะมันเป็นของจริง อ๊าาา หลบหัว! ไปทางขวา! ขวา! ขวาอีกด้านโลกิ! โอเค เตรียมตัวกระโดด กระโดดเลย! อีกที! ทีนี้วิ่งให้เร็ว และะะะฉันกำลังจะหัวใจวายแบบเงียบๆแล้วทีนี้
Lorelei : เบาะๆนะ
Loki : เป็นภาระหนักเลย เวอริตี้ ฉันติดค้างมื้อค่ำเธอ ยังไงก็เถอะ นั่นนำเรามาสู่อุปสรรคที่สามและอุปสรรคสุดท้าย

(อุปสรรคลำดับที่สาม : ประตูอูรูที่ไม่สามารถทำลายลงได้ (The Uru Gate of Impregnability)

Loki : เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดจากด้านนอก นอกเสียจากจะมีกุญแจเฉพาะ ซึ่งไม่สามารถขโมยได้ ฉันลองมาแล้ว
Lorelei : งั้นก็แปลงเป็นแมลงวันแล้วรอดรูกุญแจไปสิ ปัญหาจบ

โลกิเปลี่ยนร่างเป็นผู้หญิงในทันที

Loki ร่างผู้หญิง : ไม่ง่ายขนาดนั้น ทุกวันนี้การเปลี่ยนรูปร่างของฉัน… มีราคาของมัน
Lorelei : เหมือนฉันจะจำได้ว่า…
Loki ร่างผู้หญิง : โอ้ ฉันเปลี่ยนเป็นตัวเองได้ ไม่เป็นปัญหา ฉันเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ตราบใดที่เป็นฉัน

คราวนี้โลกิแปลงตัวเองเป็นจิ้งจอกร่างคนแทน

Loki ร่างจิ้งจอก : แต่จะเป็นฉันที่ “ตัวเล็ก ส่งเสียงหวี่ๆ ดูเหมือนแมลง” น่ะไม่ไหว อีกอย่างประตูป้องกันไว้ด้วยเวทย์มนตร์และฉันจะถูกช็อตเอา
Lorelei : ครั้งหน้าแปลงร่างแบบนี้มานำภารกิจสิ พ่อขี้โอ่ แล้วเราจะเปิดประตูยังไง
Loki : เราไม่เปิด


Loki : เขาทำ
Lorelei : ใครกัน?

ทันใดนั้นประตูส่งเสียงเปิด คนที่อยู่หลังประตูนั่นก็คือ…

Loki : ลอเรไล พบกันซิเกิร์ด ผู้รุ่งโรจน์ นักโทษช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แห่งแอสการ์ด ซิเกิร์ด นี่ลอเรไล
Sigurd : ว้าว ต้องให้คนมาช่วยบ่อยๆซะแล้ว

ก่อน-ก่อนหน้านี้…
ระหว่างที่ซิเกิร์ดกับโลกิต่อสู้กันในถังขยะ

Loki : เป็นอันตกลง เราทำเป็นว่าฉันแพ้ แต่ฉันยืมเข็มขัดนายมา ส่วนนายเอาดาบแกรมไปให้คาลู (Kaluu) ซึ่งจะว่าไป เกือบแน่ใจสุดๆเลยว่าเป็นเมฟิสโต้ 

(Mephisto) อย่าว่ากันว่าไม่ได้เตือนล่ะ
Sigurd : เอ่อ…
Loki : หลังจากนั้นนายก็ไปเป็นคนในสำหรับภารกิจแอสการ์ด
Sigurd : ฉัน… ภารกิจไหน?
Loki : เดี๋ยวนายก็รู้ เอานี่ แทงซะ

คราบที่เปรอะอยู่ที่ถังขยะนั้นไม่ใช่เลือดแต่กลับเป็นซอสมะเขือเทศยี่ห้อดังไปซะได้

Loki : ยอดเยี่ยม แท้จริงแล้วเราไม่มีทางรู้หรอกว่าใครมองอยู่

กลับมายังปัจจุบัน
Sigurd : ยังไงก็เถอะ ฉันช่วยตัวเองออกมาได้ เท่มากฉันรู้
Lorelei : โลกิ นายบอกว่า...
Loki : ว่าเราจะแหกคุกที่แน่นหนาที่สุดในแอสการ์ด ซิเกิร์ดถูกขังในอันดับสองต่างหาก


Lorelei : ตกลงว่านายต้องการ… รู้อะไรมั้ย? ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะเกมอะไรที่นายกำลังเล่นอยู่นะลาฟฟี่ซัน (Laufeyson) ฉันทำหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว 

ลอเรไลหยิบลูกแก้วเล็กๆสีม่วงออกมา และดูเหมือนนี่เป็นตั๋วขากลับของเธอ

Lorelei : เท่าที่ฉันรู้นะ นายจ่ายให้ฉันพาซิเกิร์ดออกจากที่นี่
Sigurd : และนายจ่ายให้ฉันพานายกับลอเรไลเข้ามา
Lorelei : งานสำเร็จทั้งสองกรณี ได้เวลากลับบ้านแล้ว
Sigurd : เธอพูดแล้ว หรือนายก็รู้ บ้านฉันน่ะ ฉันมีเพดานกลับด้าน
Loki : ยุติธรรมดีมั้งฉันว่า บอกฉันละกันถ้าต้องการเงินสดอีกเมื่อไหร่ มีงานใหม่ๆให้ทำได้เสมอล่ะ
Lorelei : ถ้าฉันต้องการเงิน ฉันจะขโมยเอา อาจจะจากนายก็ได้
Sigurd : เจอกันโลกิ เก็บดาบฉันให้ดี และเฮ้ โชคดีกับการปล้น

ทั้งสองพากันโอบกันออกไป เหลือเพียงโลกิอยู่คนเดียว

Loki : มันไม่ใช่การปล้น มันคือภารกิจ


โลกิยังคงเดินไปมาอยู่ภายในส่วนคุกใต้ดิน สิ่งที่เขาต้องการจริงๆไม่ใช่การช่วยซิเกิร์ด แต่เป็นการมายังที่แห่งนี้ต่างหาก

Loki : (ภารกิจตามหาข้อเท็จจริง พระแม่ทั้งมวลพากันทำตัวแปลกๆไปตั้งแต่เรื่องในอเวนเจอร์สทาวเวอร์ (Avengers Tower) ผมอยากรู้ว่าทำไม และหากคุณมีซักที่ๆทำให้แตกไม่ได้โดยสิ้นเชิง ก็นะ บางทีคุณอาจอยากขังนักโทษของคุณไว้ที่นั่น แต่สิ่งที่จริงๆแล้วคุณอยากเก็บและล็อคเอาไว้…. คือความลับของคุณต่างหาก)

Loki : ไหนดูซิใครอยู่หลังประตูบานที่หนึ่ง

โลกิแอบมองลอดรูกุญแจ สิ่งที่เขาเห็นคือแผ่นกระดาษที่ทำสัญลักษณ์ ข้างในดูเหมือนห้องสมุด

Loki : (“X” วางตำแหน่งไว้ น่าสนใจนะ แต่ไม่ค่อยจะใช่สิ่งที่ผมหาอยู่ ซึ่งหมายความว่ายังคงมีห้องขังที่แน่นหนาซะยิ่งกว่าอยู่ที่ไหนซักแห่ง)

Loki : โอ้ โฮ

โลกิพบบางสิ่งที่แปลกไปจากกำแพงส่วนอื่น เขาใช้มือแตะไปที่บริเวณนั้น

Loki : ดีมาก “เมื่อไหร่ที่่ประตูไม่ใช่ประตู”


ทันใดนั้นก้อนอิฐแต่ละก้อนก็แยกออกจากกันราวกับตรอกไดแอกอนในแฮร์รี่ พอตเตอร์ อะไร หรือใครที่อยู่ภายในนั่นก็คือ… 

Old Loki : ง่ายจะตาย เมื่อมันเป็นขวดโหลไงล่ะ เซอร์ไพรส์

(โลกิคนเดิม โลกิคนที่มอดไหม้)

โลกิเวอร์ชั่นแก่ ถือขวดโหลดในมือ แถมนั่งบนเก้าอี้เหมือนบัลลังก์อีกต่างหาก


Loki : ฉัน… คิดสงสัยไว้แล้ว
Old Loki : โกหก แกไม่เคยสงสัย แกเพียงแต่หวัง แกหวังมากเลยล่ะ… “บู ฮู ฮู! ฉันไม่ใช่ตัวร้าย! ฉันเป็นแค่ตัวก็อปปี้ ฉันเปลี่ยนนนนได้!” หวังว่าจะล้างเลือดในมือโยนความผิดมาให้ข้าแทน ก็นะ นอกเหนือจากความเป็นเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาที่แกฆ่าในนามของข้า
Loki : มีเลือดมากกว่ามาจากแกต่างหาก
Old Loki : โอ้ ขอล่ะ แกคงไม่กล้า…

ทันใดนั้นโลกิของเราก็เอาดาบเสียบอกโลกิคนเก่าในทันที

Loki : โอ้ ทีนี้ใครกันแน่โกหก!
Old Loki : ไม่…


พลังอำนาจจากดาบแกรมทำเอาโลกิแก่ตาเหลือก

Old Loki : ไม่! โอ้ ข้ากำลังละลาย ข้ากำลังละลาย ใครจะไปคิดว่าสาวน้อยแสนดีอย่างแกจะสามารถทำลายความชั่วร้ายอันงดงามของข้าลงได้…? ฮ่า ฮ่า ฮ่า 

ฮ่า ฮ่าาา! จริงดิ แกคิดว่ามันจะได้ผลเรอะ?

แต่แน่นอนว่านั่นเป็นการแสดง ไม่มีทางที่โลกิจะพ่ายแพ้ต่อโลกิคนใหม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น

Loki : แต่แกรม ดาบแห่งความสัตย์…
Old Loki : แสดงความจริงที่แกซ่อนจากตัวเองให้แกเห็น แกคิดว่าข้าซ่อนอะไรไว้หรือโลกิน้อย? ข้าไม่ใช่ไอ้โง่ที่คิดว่าตัวเองจะสามารถเป็นอะไรใหม่ๆได้ ข้ารู้ว่าอะไรที่ข้าเป็น และข้าน่ะรักมัน แต่เรามาคุยเรื่องดาบก๊องแก๊งนี่กันหน่อยมั้ย เมื่อข้าเห็นแกใช้มันกับธอร์… แกรู้มั้ยข้าทำอะไร? ข้าสร้างมันขึ้นมา!
Loki : ไม่…
Old Loki : ใช่! ข้าเห็นผลลัพธ์ของมัน และข้าสร้างสาเหตุขึ้นมา! ข้าเห็นเรื่องราวและข้าเขียนต้นกำเนิด! นั่นแหละคือสิ่งที่ข้าเป็น!

โลกิแก่เผยความจริงที่ทำให้เขาถึงกับตะลึง และใช้พลังใส่จนโลกิเด็กกระเด็นหงาย


Old Loki : ข้าสร้างดาบนี้! ข้าสร้างมันจากเวลา และเลือด และเรื่องราว... เพื่อช่วงเวลานี้! เพื่อช่วงเวลาแห่งความจริง! 
Loki : ไม่ ไม่ ไม่…
Old Loki : ใช่! ความจริงแทงอยู่ที่หัวใจข้านี่! ข้าโกหกไม่ได้ต่อให้โดยบังเอิญก็ตาม! 

โลกิเด็กเมื่อโดนพลังไปก็แทบกระอัก ลงไปกองอยู่กับพื้น

Old Loki : แกคิดว่าข้าคือโลกิในอดีตงั้นรึ? สมองกลวง! ซื่อบื้อ! ข้าคือสิ่งที่แกจะเป็นต่างหาก! ข้าคือโชคชะตาที่แกหนีมา… แต่แกหนีไม่ได้! เพราะไม่มีใครอื่นอยากให้แกทำอย่างงั้น! ข้าคือกษัตริย์โลกิ! ข้าคืออนาคตของแก! ข้าคือแก! 

โลกิแก่ลดเสียงลงแล้วปาดเหงื่อ ส่วนอีกคนนั้นหน้าคว่ำเชียว

Old Loki : และข้ากำลังทำตัวโอนเอียงไปทางเล่นละครอย่างน่าหวาดกลัว ขอโทษที ข้าเผาไหม้น่ะ รู้มั้ย เผาไหม้อยู่ตลอดกาล อายุเท่าข้าแล้วแกจะเข้าใจเอง


ทันใดนั้นก็มีใครคนอื่นเข้ามาร่วมวงกับโลกิทั้งสองคน
เสียงบางคน : โลกิ เจ้าไม่ควรมาที่นี่เลย

โลกิหันไปเจอกับใครที่ดูแล้วจะแก้สถานการณ์ตอนนี้ได้มากที่สุด พระแม่ทั้งมวลมากันครบสามนางเลยทีเดียว (เกอา เฟรย่า อีดุน (Gaea, Freyja and Idunn))

Idunn : เหมันต์นั้นยากจะเห็นยามมา
Freyja : ถึงอย่างนั้น เจ้าก็ได้ช่วยก่อประโยชน์กับเรา พวกข้ากำลังคิดว่าจะหาทางทดสอบคำทำนายจากชายแก่อย่างไร
Gaea : เราคิดจะหักล้างมัน โดยกันไม่ให้การเจอกันวันนี้ของลอเรไลและซิเกิร์ดได้เกิดขึ้น ละเว้นจุดจบสุดท้าย โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญของพวกเขา
Idunn : ดาบแห่งความสัตย์นั้นชัดเจนว่าเป็นทางแก้ แต่มันไม่เคยอยู่ในความคิดพวกข้าเลย
Freyja : เพราะฉะนั้น วิธีเก่า ความจริง
Old Loki : ความจริงของวันที่จะมาถึง อย่างที่ข้าบอกประจำ เหมือนสวรรค์เชียว แอสการ์ดจะถูกปกครองโดยกษัตริย์ธอร์ ผู้ซึ่งในการครองราชย์ของเขาจะสั่งสอนทั้งเก้าอาณาจักรให้อยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวอย่างปรองดอง ส่วนข้าเป็นตัวร้ายยังไงก็ร้ายอย่างนั้น วางแผนร้ายเสมอ ถูกเฆี่ยนตีแม้ไม่เป็นภัยอะไร แต่ข้าขอเลือกแบบนั้นยังดีกว่าธนูปักหน้านั่นล่ะ อันที่จริง ความปรารถนาเดียวของข้าคือนำอนาคตมาถึงให้ว่องไวที่สุดเท่าที่จะไวได้
Idunn : แล้วมิดการ์ดล่ะ เจ้าแห่งการหลอกลวง? มันเป็นไปอย่างไรในเก้าอาณาจักร
Old Loki : มันถูกปกครองอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ท่านผู้หญิง โดยการคิดวิเคราะห์ของข้า
Loki : พระแม่


Loki : ท่านทำได้อย่างไร ท่านทำแบบนี้กับผม กับเรา? เราสู้หนักเหลือเกินและนานเหลือเกินที่จะหลุดเป็นอิสระจากโซ่ตรวนแห่งโชคชะตาของเรา ทำไมท่านต้องหลอมเส้นใหม่ๆขึ้นมา? ทำไม? 
Freyja : มีเพียงเจ้าที่มองเห็นโซ่ตรวนนั้น โลกิ สำหรับทุกคนที่เหลือในแอสการ์ด การรู้จุดจบของเรื่องราวนำมาซึ่งความมั่นคง เรามีสันติกับชะตานั้น การได้มีมันอีกครั้งโดยปราศจากความน่าสะพรึงของแร็คนาร็อค แต่กลับแทนที่ด้วยวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เราเรียกมันว่าปาฏิหารย์
Loki : ….ผมลาออก
Old Loki : อุ๊ย! เขากำลังงอน ไม่เป็นไรหรอกโลกิตัวน้อย ข้าจะทำให้แน่ใจเองว่าแอสการ์ดที่แท้จริงจะจับต้องได้ เพราะข้าคือตัวแทนน่ะนะ

โลกิคนใหม่ฟังแล้วรู้สึกจะหดหู่ไปกว่าเดิม เดินคอตกออกไปจากตรงนั้น


ณ อพาร์ทเมนต์ของโลกิ
หลังจากนั้น

Loki : ช่างทุกคนสิ

โลกิยืนมองตัวเองในกระจกห้องน้ำอย่างห่อเหี่ยว

Loki : ช่างหัวฉัน และช่างหัวแก ไอ้แก่ริ้วรอย…

ทันใดนัั้นโลกิแก่ก็ปรากฏขึ้นมาในกระจก แถมยังมีบริวารเป็นหน้าตัวเองอ้าปากหวอทั้งแก๊งอีก

Old Loki : ระวังปาก ส่วนเรื่องริ้วรอยน่ะ เดี๋ยวแกก็มีเหมือนกัน จากความเครียดน่ะ ช่วงเวลาเลวร้ายกำลังมา โลกิ การพิพากษาต่อบาปเก่าๆ บาปที่แกคิดว่าฝัง

จมดินไปแล้ว “X” ทำสัญลักษณ์ตำแหน่งไว้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

(เล่มต่อไป : บาปดั้งเดิม)


จบเล่ม 5.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม เล่มนี้เราก็ได้รู้ซะทีว่าโลกิมีแผนอะไรแอบแฝงอยู่ ซึ่งดันเป็นแผนการที่นำเขามาเจอเข้ากับความจริงที่ทำเอาหงายเงิบซะได้ ผู้สปอยล์ว่าเล่มนี้สนุกกว่าทุกเล่มที่ผ่านมาเลย อาจเพราะเป็นบทสรุป (หรือจุดเริ่มต้นละนี่) ของเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด อย่างไรก็ตามเล่มนี้โลกิที่มีริ้วรอย (อย่างที่โลกิเด็กแอบแขวะไว้ 55555) ก็ได้เกริ่นถึงสิ่งที่จะมาถึงต่อไปเอาไว้ โลกิหนุ่มของเราที่มีบาปเยอะแยะมากมายคงต้องวุ่นวายไม่ใช่เล่น เรียกได้ว่ามาถึงเล่มนี้แม้แต่ผู้สปอยล์ก็รออ่านเล่มต่อไปเลยล่ะ ยังไงก็อย่าลืมติดตามกัน

- Red Hood's Outlaw -
          

11 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ18 กรกฎาคม 2557 เวลา 23:35

    Very fun krub

    ตอบลบ
  2. สนุกมากเลยครับ ติดตามอยู่ ^^

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ9 สิงหาคม 2557 เวลา 13:39

    สนุกจัง

    ตอบลบ
  5. ลุ้นมากค่ะ รอติดตามเลย ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
  6. สนุกมาก เงิบมากด้วยคะ555

    ตอบลบ
  7. สนุกมากครับ แต่สงสัยนิดหน่อยว่าโอดินหายไปไหน แล้วพระแม่ทั้งมวลนี่คือใครครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าโอดินหายไปไหน เพราะคนสปอยล์และผมเองก็ไม่ได้ติดตามทั้งโลกิและธอร์มาตั้งแต่ตอนก่อนหน้านี้ ส่วนพระแม่ทั้งมวลหรือพระแม่แห่งสรรพสิ่งนี่ประมาณว่าเป็นผู้คุ้มกฎแห่งแอสการ์ดนะครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่าไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่เนื้อเรื่องก่อนหน้านี้ ยังไงลองถามเพจนี้ดูครับ ความรู้เรื่องโลกิแน่นปึ้กมากๆ

      https://www.facebook.com/pages/Loki-Marvel-TH/157476304412282

      ได้ความยังไงมาคอมเมนท์บอกกันมั่งนะครับ

      ลบ
  8. สนุกมากครับ ต่อเลยน่ะครับ^ ^

    ตอบลบ
  9. สนุกมากคับ อยากอ่านเล่มต่อไปเร็วเลยฮะ แอบฮา ไอ้แก่ริ้วรอย เอิ่ม..มม ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ18 ตุลาคม 2557 เวลา 17:46

    สนุกมากๆค่ะ

    ตอบลบ