6 พฤษภาคม 2558

Marvel Super Heroes Secret Wars #1 (1984)

เมื่อเหล่าฮีโร่และวายร้ายถูกพลังลึกลับพาตัวมายังดาวแห่งหนึ่ง
และบังคับให้ทั้งหมดต้องมาต่อสู้กันเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ปราถนา
นี่คือสงครามลับครั้งแรกของมาร์เวลก่อนที่ครั้งต่อไปกำลังจะมา...


 Marvel Super Heroes Secret Wars #1 (1984)
The War Begins
เรื่องโดย : Jim Shooter
ภาพโดย : Mike Zeck, John Beatty, Christie Scheele
วางจำหน่าย : 1 พฤษภาคม 2527
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ กาแล็คซี่กังหัน (Spiral Galaxy) ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่อาศัยและไม่เคยถูกพบเห็นโดยสิ่งมีชีวิตใดๆ จนกระทั่งสถานีอวกาศแห่งหนึ่งปรากฎขึ้นมา

Captain Marvel : ...ดวงดาว!

The Thing : นี่... ไม่ใช่บรู๊คลินใช่มั๊ยเนี่ย ?

สไปเดอร์เซนส์ของสไปดี้ก็สั่นระรัว

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)




และภายในนั้นคือเหล่าฮีโร่แห่งโลก

THE WAR BEGINS
(สงครามเริ่มต้น)

ตรงนี้มีข้อสังเกตุตรงที่รี้ดพยายามอธิบายหลักวิชาการว่าพวกเขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง โดยมีฮัลค์ (ที่ในตอนนั้นคงฉลาดเท่าแบนเนอร์อยู่) สนับสนุนความคิดของรี้ด แต่โทนี่กลับทำท่างงว่าสองคนนี้เอออออะไรกัน จนจอห์นนี่ต้องบอกว่าเด๋วพอรี้ดเบื่อก็จะอธิบายแบบเป็นภาษาคนให้ฟังเองแหละ ซึ่งเท่าที่ผมรู้ในตอนแรกแสตน ลี ไม่ได้สร้างโทนี่ให้ฉลาดไปหมดทุกเรื่อง แต่ฉลาดแค่ด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่ได้เก่งด้านวิทยาศาสตร์ด้วยแบบในปัจจุบัน ซึ่งที่ทุกวันนี้โทนี่เก่งขนาดนั้น คงเพราะความนิยมล้วนๆ




ทั้งหมดประกอบไปด้วย กัปตันมาร์เวล (Monica Rambeau), กัปตันอเมริกา (Captain America) , วอส์ป (Wasp), ชีฮัลค์ (She-Hulk), ธอร์ (Thor), ฮอว์คอาย (Hawkeye), ไอร่อนแมน (Iron Man), โปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์ (Professor X), สตอร์ม (Storm), ไนท์ครอว์เลอร์ (Nightcrawler), โร้ก (Rogue), ไซคลอปส์ (Cyclops), วูล์ฟเวอรีน (Wolverine), โคลอสซัส (Colossus), สไปเดอร์แมน (Spider-Man), มิสเตอร์แฟนทาสติค (Mr. Fantastic), ธิง (Thing), ฮิวแมนทอร์ช (Human Torch) และ แม็กนีโต้ (Magneto) แม้แต่ล็อคฮีด (Lockheed) ซึ่งเป็นมังกรต่างดาว สัตว์เลี้ยงของคิตตี้ (Kitty Pryde) ก็ยังมา (แต่ไหงคิตตี้ไม่ยักมาด้วยก็ไม่รู้) โดยทั้งหมดถูกเทเลพอร์ตมาพร้อมกัน




ก่อนที่กัปตันอเมริกาจะมองออกไปเห็นสถานีอวกาศอีกแห่ง มิสเตอร์แฟนทาสติคจึงขอให้โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ใช้พลังจิตตรวจสอบว่าใครอยู่ในนั้น ซึ่งก็คือเหล่าวายร้ายนั่นเอง




ซึ่งประกอบไปด้วย เอนแชนท์เทรส (Enchantress), อัลตรอน (Ultron), แอ๊บซอบบิ้งแมน (Absorbing Man), เวร็คเกอร์ (Wrecker), ธันเดอร์บอล (Thunderball), ไพล์ไดรฟ์เวอร์ (Piledriver), บูลโดเซอร์ (Bulldozer), แกง (Kang), กาแลคตัส (Galactus), ลิซาร์ด (Lizard), โมเลกุลแมน (Molecule Man), ดอกเตอร์ออคโทปุส (Doctor Octopus) และ ดอกเตอร์ดูม (Doctor Doom)

ตรงนี้มีข้อสังเกตุตรงที่ว่า ดูมเรียกว่าแกงเป็นตัวตนของเขาในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันมาร์เวลได้เขียนให้ นาธาเนียล ริชาร์ด (Nathaniel Richards) หรือ ไอร่อน แลด (Iron Lad) ต่างหากที่เป็นตัวตนในปัจุบันของแกง ไม่ใช่ดูม



ก่อนที่เดอะธิงจะพูดว่าถ้ามีการแบ่งฝั่งคนดีคนเลวแล้วทำไมแมกนีโต้ถึงได้มาอยู่ฝั่งนี้ด้วย แมกนีโต้จึงตอบกลับไปว่าคำถามที่น่าสนใจกว่านั้นคือทำไมคนอย่างเดอะธิงถึงได้ถูกเลือกให้มาปรากฏตัวอยู่ในสถานที่เดียวกันกับเขา ก่อนที่โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์จะขัดจังหวะเพราะเขาพบเห็นความผิดปกติบางอย่างข้างนอกอวกาศนั่น




กาแล็คซี่ทั้งกาแล็คซี่ถูกทำลายลงไปภายในชั่วพริบตา จนทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น




และเศษชิ้นส่วนของดวงดาวต่างๆ กลับมารวมตัวกันเข้าเป็นดาวดวงใหม่




ด็อกเตอร์ดูมกำลังมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ ในขณะที่ดอกเตอร์อ็อคโทปุสกลับกำลังทะเลาะอยู่กับแอบซอบบิ้งแมน

แต่การทะเลาะกันของทั้งคู่ก็ถูกขัดจังหวะโดยอัลตรอน ปัญญาประดิษฐ์ผู้ต้องการทำลายทุกชีวิต มันจึงเริ่มโจมตีใส่เหล่าร้ายคนอื่นๆทันที จนต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน ยกเว้นแต่แอบซอบบิ้แมนที่สามารถดูดซับพลังจากสิ่งที่เขาสัมผัสได้ ไม่เว้นแม้แต่รังสีที่อัลตรอนใช้โจมตีเข้ามา




ดอกเตอร์ดูมรู้ว่าร่างกายของอัลตรอนทำจากอะดาแมนเที่ยมซึ่งเขาไม่สามารถทำลายได้ เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากโมเลกุลแมน แต่โมเลกุลแมนตอบว่าเขาเลิกเป็นโมเลกุลแมนแล้ว ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ชื่อ โอเว่น รีซ (Owen Reece) เท่านั้น และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงได้มาทำอะไรอยู่ที่นี่




โมเลกุลแมนปฏิเสธที่จะใช้พลังของเขาทำร้ายใครอีก แต่ดอกเตอร์ดูมเพียงแค่ต้องการให้เขาใช้พลังในการควบคุมโมเลกุลเพื่อเหวี่ยงอัลตรอนเข้าใส่กาแลคตัสเท่านั้น




Ultron : นี่มันอะไรกัน ? ข้ากำลังถูกทำให้ลอย... สูงขึ้นไปโดยเจ้านี่! มันไม่สำคัญอะไรหรอก! ร่างอะดาแมนเที่ยมของข้าไม่มีทางถูกทำให้เสียหายได้ และเจ้ายักษ์นี่ก็เป็นแค่อีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตให้ข้าสังหาร




แต่ภายในชั่วพริบตากาแลคตัสก็จัดการอัลตรอนลงได้อย่างง่ายดาย

Piledriver : โอ้แม่เจ้า--! หมอนั่นดูดพลังออกทางปากของอัลตรอน จัดการหมอนี่เหมือนกับดับเทียนเลย!

Thunderball : หยั่งกับว่าอัลตรอนเป็นแมลงหวี่แมลงวันสำหรับหมอนั่นเลย!





ในขณะนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางอวกาศอันว่างเปล่า

"ข้ามาจากนอกพรมแดน! (I Am From Beyond!)"

"สังหารเหล่าศัตรูของพวกเจ้าซะ แล้วทุกสิ่งที่เจ้าปราถนาจะเป็นของเจ้า"

"ไม่มีสิ่งใดที่พวกเจ้าใฝ่ฝันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะทำมันให้เป็นจริง"




ทางด้านกาแลคตัสที่ได้ยินเสียงนั้นก็เกิดปฏิกริยาขึ้น และเขาก็ออกบินไปยังแหล่งที่มาของเสียงนั้นทันที

Galactus : แก! บียอนเดอร์!

Galactus : จงฟังข้า! ฟังกาแลคตัส!

Galactus : ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้าคือสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกจักรวาลนี้-- จากนอกพหุจักรวาลนี้! ข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เจ้าถือครอง... และข้ารู้... ข้ารู้ว่า--!

Galactus : เจ้าสามารถนำมันออกไปจากกาแลคตัส ผู้กลืนกินดวงดารา ความอยากของเขา! เจ้าสามารถยุติความอยากยิ่งใหญ่อันไม่มีที่สิ้นสุดของเขาจากเหล่าดวงดาราที่มีชีวิตอยู่ได้--!

Galactus : ทำให้มันจบสิ้นซะ!

Galactus : ข้าจะไม่รอคอย! ข้าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาทำให้การพักผ่อนของข้าต้องล่าช้าไป! ความทุกข์ทรมานนี้ต้องจบสิ้นลงเดี๋ยวนี้

จะเห็นได้ว่าตัวกาแลคตัสเองก็ไม่ได้อยากกลืนกินดวงดาวนะครับ แต่เขาต้องทำเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดเช่นกัน



ทางด้านดอกเตอร์ตูมก็แอบตามกาแลคตัสไปด้วย เพราะเขาคิดว่าถ้าหากบียอนเดอร์มีพลังที่ว่าจริง เขาก็ต้องการหาทางครอบครองมันให้ได้

Beyonder : หยุดนะ! เจ้าไม่สามารถเข้าถึงตัวข้าได้หรอก บาเรียนี้จะผลักเจ้าออกไป

Galactus : ไม่! ข้าไม่หยุด ข้าต้องไม่ถูกปฏิเสธ




แต่แม้จะเป็นกาแลคตัสก็ยังไม่สามารถฝ่าบาเรียของบียอนเดอร์ไปได้ และนี่คือฉากที่ใช้อ้างอิงถึงความแข็งแกร่งของบียอนเดอร์ในยุคแรกๆ ว่าสามารถตบกาแลคตัสร่วงได้ในหนึ่งช่อง

Captain America : พวกเขาถูกตบกลับมาเหมือนกับแมลงวันเลย

Professor X : สำหรับบียอนเดอร์แล้ว กาแลคตัสอ่อนแอยิ่งกว่าแมลงวันซะอีก กัปตัน!




แล้วสถานีอวกาศทั้งสองแห่งก็เคลื่อนตัวลงมายังพื้นผิวของดวงดาวที่เกิดขึ้นจากพลังของบียอนเดอร์ดวงนี้




รี้ดยืดตัวขึ้นเพื่อมองหาพวกวายร้าย แต่เขาบอกว่าไม่เห็นวายร้ายคนไหนเลย แต่วอส์ปก็บอกว่ามีอยู่คนนึงตรงนี้ไง แล้วชี้ไปทางแม็กนีโต้ ทางด้านฝ่ายเอ็กซ์เม็นก็พยายามจะปกป้องแม็กนีโต้ จนฮอว์คอายหงุดหงิดถึงขึ้นกระชากเสื้อของไซคลอปส์

Wolverine : ปล่อยมือนะ ฮอว์คอาย! ไซคลอปส์อาจจะเป็นไอ้งี่เง่า แต่ก็เป็นไอ้งี่เง่าของพวกเรา!




Human Torch : พอกันได้แล้ว ทุกคนรู้ว่าหมอนี่เป็นคนเลว! ชั้นจะจัดการเขาเอง จะได้เอาเวลาไปกังวลเรื่องอื่นแทน

Magneto : แกกล้า-- ?

Magneto : ชั้นเป็นโฮโมซูพีเรีย! (Homo Superior) ชั้นยืนอยู่เหนือพวกแกทุกคน บางทีแม้แต่ธอร์ด้วย เขาคนเดียวเท่านั้นที่อาจจะเท่าเทียมกับชั้น

ป๋าแม็กโจมตีเข้าใส่ฮิวแมนทอร์ชแถมยังกวาดไอร่อนแมนและวอส์ปไปด้วย ทางด้านไซคลอปส์ โคลอสซัสและวูลฟ์เวอรีนก็พยายามจะมาห้ามไม่ให้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกัน

Wolverine : ฮัลค์ มันประหลาดหน่อยๆที่ได้ยินนายพูดนะตั้งแต่นายได้สมองของบรูซ แบนเนอร์มา--! แต่นายจะไม่มีทางผ่านชั้นไปได้หรอก ไม่ว่าสมองของใครจะอยู่ในนั้นก็ตาม!




ป๋าแม็กที่ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับพวกมิวแทนต์ จึงเลือกที่จะบินจากไป (วูลฟ์เวอรีนตกใจที่เห็นป๋าบินได้ สงสัยนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ป๋าเหาะในคอมมิคแน่ๆ) และโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์จึงเสนอว่าพวกเขาควรมีผู้นำกลุ่ม ซึ่งรี้ดก็ปฏิเสธรวมทั้งฮัลค์ หรือแม้แต่วอส์ปซึ่งตอนนั้นรับตำแหน่งผู้นำของอะเวนเจอร์อยู่ เธอจึงเสนอให้กัปตันอเมริกาเป็นผู้นำกลุ่ม

Captain America : แล้วคุณล่ะ โปรเฟสเซอร์ ? คุณอ่านจิตใจได้นี่นาซึ่งนั่นน่าจะเป็นประโยชน์!

Professor X : แล้วผมก็ยังเก่งเรื่องอ่านหัวใจด้วย ไม่มีใครที่จะมีความกล้าหาญเท่ากัปตันอเมริกาอีกแล้ว

แต่วูลฟ์เวอรีนก็ปฏิเสธที่จะให้กัปตันเป็นผู้นำ แต่ธอร์เองกลับสนับสนุน จึงตกลงกันได้ว่าให้กัปตันเป็นผู้นำแล้ว


แปลว่าคอมมิคยุคนั้นนี่กัปตันยังไม่ได้เป็นที่เชื่อถือเหมือนในสมัยนี้นะครับ นี่คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่หลังจากนั้นกัปตันก็กลายเป็นผู้นำมาเรื่อย




ทางด้านดูมนั้นก็ยังรอดชีวิตมาได้ ส่วนกาแลคตัสสนั้นยังหมดสติอยู่ และเขาได้ตระหนักถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของบียอนเดอร์ซึ่งเหนือกว่าพลังใดๆในจักรวาลนี้




ก่อนที่ดูมจะพบกับป้อมปราการแห่งหนึ่งซึ่งเขาเชื่อว่าเหล่าวายร้ายคนอื่นๆอยู่ที่นี่

Doctor Doom : ต้องคุยกับเจ้าพวกนั้น... โน้มน้าวใจพวกมัน...

Doctor Doom : ...พวกเราต้องไม่เล่นตามเกมนี้! พวกเราต้องไม่ต่อสู้กัน!




เมื่อดูมเข้าไปในป้อมปราการนั้นก็พบกับเหล่าวายร้ายคนอื่นๆ ซึ่งตกลงใจกันแล้วว่าจะให้ดูมเป็นผู้นำ เพื่อเอาชัยชนะมาแลกกับรางวัลที่บียอนเดอร์จะให้ แต่ดูมพยายามโน้มน้าวใจพวกนั้นรวมพลังกันเพื่อที่จะหาทางช่วงชิงพลังของบียอนเดอร์มา แต่เหล่าวายร้ายคนอื่นๆไม่เห็นด้วย




ทำให้ดูมโกรธที่พวกนั้นไม่ยอมเข้าใจ จึงทำลายป้อมตรงนั้นจนกลายเป็นซากปรักหักพัง

Doctor Doom : ในบรรดาจักรวาลทั้งหมด บางทีอาจจะมีเพียงคนเดียวนอกจากตัวข้าเอง ที่อาจจะเข้าใจในเรื่องนี้




Doctor Doom : ถึงมันจะเจ็บใจอยู่บ้าง แต่ข้าคงต้องไปตามหาและปรึกษาหารือกับศัตรูที่ข้าเกลียดที่สุดแล้ว

ดูมจึงใช้ยานในป้อมปราการบินออกไป แต่ก็ไม่พ้นสายตาของแกงไปได้




และใช้ปืนใหญ่ที่อยู่ในป้อมโจมตีเข้าใส่ยานของดูมทันที




ทางด้านเหล่าฮีโร่ก็ได้ยินเสียงระเบิดนั้น กัปตันอเมริกาจึงบอกว่ามียานถูกยิงตก ทั้งหมดจึงพร้อมใจกันไปดู




ทั้งหมดพบดูมที่รอดจากเหตุยานระเบิดได้ด้วยสนามพลังของเขา

Doctor Doom : ริชาร์ด... ต้องคุยกับริชาร์ด! มีแต่หมอนั่น... ที่จะเข้าใจ...

Doctor Doom : พลังอันยิ่งใหญ่นัก... มันเหยียบย่ำพวกเรา! ราวกับเราเป็น... แบคทีเรีย... ฝุ่นผง

กัปตันอเมริกาพยายามจะเข้าไปช่วยดูม ในขณะที่คนอื่นๆห้ามไว้ แต่กัปตันก็ยังพยายามจะช่วยดูม

Captain America : ให้ชั้นช่วยนายเถอะ ดูม

Doctor Doom : ดูม...ไม่ต้องการความช่วยเหลือ...จากใคร!

Doctor Doom : นั่นคือความเวทนารึที่ข้าเห็นในดวงตาเจ้า กัปตัน ? และเจ้าด้วยงั้นรึ ริชาร์ด ? สงสารตัวเองเถอะ

Doctor Doom : ข้ามันช่างโง่นักที่คิดว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่มีแต่ดูมเท่านั้นที่รู้!




กลายเป็นว่าความพยายามช่วยเหลือของกัปตันกลับทำให้ดูมที่ยิ่งในศักดิ์ศรีโกรธขึ้นมา และจู่โจมเข้าใส่เหล่าฮีโร่ทันที




และดูมก็บินจากไป แต่หลังจากนั้นเองที่เรดาห์ของไอร่อนแมนจับสัญญาณบางอย่างได้




Wolverine : พวกเราถูกโจมตี!




จบเล่ม 1.

กดแค่ 1 ครั้งแทนคำขอบใจ คลิ๊กที่นี่

ซื้อคอมมิคเล่มนี้แบบดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ คลิ๊กที่นี่

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          อีกไม่นานอีเวนต์ Secret Wars 2015 ที่มาร์เวลอ้างว่าเป็นอีเวนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาและจะเปลี่ยนโฉมหน้าของจักรวาลมาร์เวลจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ซึ่งทางเวบเราไม่ได้ทำสปอยล์เล่มหลัก (เวบ http://bank-genesis.blogspot.com/ รับสปอยล์อีเวนต์นี้ไว้แล้วนะครับ ไปติดตามกันได้) ผมเลยถือโอกาสทำสปอยล์ของอีเวนต์ Secret Wars ครั้งแรก ของปี 1984 มาให้อ่านกันเล่นๆ โดยทั้งหมดมี 12 เล่ม ก็คงจะทำไปเรื่อยๆ พร้อมกับที่อีเวนต์ Secret Wars ของปี 2015 ออกมานะครับ งานภาพก็อาจจะอ่านลำบากกันหน่อยเพราะก็ตั้งสามสิบกว่าปีมาแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านอยู่ยังไม่เกิดกันแน่นอน

Musashi

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ6 พฤษภาคม 2558 เวลา 21:29

    ไม่ใช่ว่าคนในเกราะเป็นโร้ดดี้หรอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เพราะผมเองก็ยังอ่านไม่จบทั้ง 12 เล่มเลย แต่น่าจะเป็นโทนี่แหละ ถึงโร้ดดี้จะเคยใส่เกราะนี้ แต่อีเวนต์แบบนี้น่าจะเอาโทนี่มานะ

      ลบ
  2. ดูมเวลาเจอพลังอะไรสักอย่างมันอยากครอบครองหมดไม่ว่าจะค้อนของธอร์ ถุงมือเกรียน แม้แต่พลังของบียอนเดอร์

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2558 เวลา 18:10

    ขอบคุณมากครับ ตามทั้งสองเวปเลย

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากครับ กำลังอยากอ่านอยู่พอดีเลยยยยย

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณมากครับ กำลังอยากอ่านอยู่พอดีเลยยยยย

    ตอบลบ