Thor #1 (2014)

ในขณะที่ธอร์กลายเป็นผู้ที่ไม่คู่ควรกับมโยลเนียร์อีกต่อไป
เหล่ายักษ์น้ำแข็งกลับร่วมมือกับมาเลคิธราชันย์แห่งเอลฟ์ทมิฬบุกโจมตีโลก
หญิงสาวลึกลับผู้สามารถยกมโยลเนียร์ได้จึงปรากฎตัวขึ้นเพื่อทำหน้าที่แทนธอร์!!?

 Thor #1 (2014)
If He Be Worthy
เรื่องโดย : Jason Aaron
ภาพโดย : Russell Dauterman, Matthew Wilson
วางจำหน่าย : 1 ตุลาคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

ทะเลนอร์วีเจี้ยน

เรือดำน้ำซับเมอร์ซิเบิ้ล (Submersible) กำลังทำการสำรวจใต้มหาสมุทรเนื่องจากทางศูนย์บัญชาการได้รับสัญญาณว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่พวกเขารายงานว่าไม่พบอะไรเลย และในขณะที่กำลังจะขอคำสั่งยกเลิกภารกิจอยู่นั้นเอง

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)

มือขนาดยักษ์ก็จู่โจมเข้าใส่เรือดำน้ำของพวกเขาทันที

หลังจากนั้นการสื่อสารก็ขาดไป และทางศูนย์บัญชาการใต้สมุทรของร็อกซอน (Roxxon Seabase) ก็ได้รับสัญญาณว่ามีบางสิ่งขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางศูนย์บัญชาการ จนต้องตัดสินใจส่งฉลามจู่โจม (Attack Shark) ออกไป

แม้ว่าจะพยายามปลอบใจกันเองว่ามันอาจจะเป็นปลาหมึกยักษ์ แต่เมื่อเหล่าฉลามจู่โจมทั้งหลายก็ถูกทำลายหมด พวกเขาจึงพยายามขอความช่วยเหลือ และในที่สุดเขาก็ได้เห็นสิ่งที่จู่โจมพวกเขา ซึ่งมันก็คือ...

เหล่ายักษ์น้ำแข็ง (Frost Giants) แห่งโจทันไฮม์ (Jotunheim) นั่นเอง!!?

ความเปลี่ยนแปลงได้มาถึงแอสการ์ด

หลังจากครบกำหนดการเนรเทศตัวเองออกไปของโอดิน บิดาแห่งสรรพสิ่ง เขาได้กลับมายังอาณาจักรเดิมของเขา (ที่ตอนนี้ถูกเรียกว่าแอสการ์เดีย) ทว่าพระมเหสีของเขา เฟรย์จา ซึ่งเป็นผู้ปกครองแอสการ์เดียแทนโอดินในฐานะมารดาแห่งสรรพสิ่งไม่ต้องการที่จะให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนที่เคยเป็นก่อนที่โอดินจะจากไป

ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือบุตรชายของพวกเขา ธอร์ เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ณ ตอนนี้ได้พบว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรที่จะถือครองมโยเนียร์ ค้อนอันทรงพลังของเขาอีกแล้ว ในการต่อสู้ครั้งล่าสุดบนดวงจันทร์กับสุดยอดสายลับอย่างนิค ฟิวรี่ ผู้ซึ่งเพิ่มพลังขึ้นมาด้วยความลับซึ่งเขาขโมยมาจากเดอะวอชเชอร์ ฟิวรี่ได้กระซิบอะไรบางอย่างกับธอร์ซึ่งทำให้ธอร์ถึงกับปล่อยค้อนของเขาลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์ และมันยังคงอยู่ตรงนั้นจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าธอร์จะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถยกมันขึ้นมาได้อีก

ในขณะที่ตำแหน่งผู้นำของแอสการ์เดียกำลังสั่นคลอนและธอร์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อ่อนแออย่างที่สุด มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าจะช้าหรือเร็วที่เหล่าศัตรูของแอสการ์ดจะโจมตีเข้ามา และนำความตายมาสู่ทั้งอาณาจักรและรวมไปถึงโลกของเรา

IF HE BE WORTHY

ถ้าเขาคู่ควร

ดวงจันทร์
ใต้เงาของแอสการ์เดีย

Odin : เขาอยู่แบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว


Freyja : อาจจะหลายวันหรือหลายสัปดาห์ พวกเราเองก็ไม่แน่ใจ พวกเรารู้เพียงแต่ว่าเขาไม่กิน เขาไม่นอน และเขาจะจากดวงจันทร์นี้ไปเมื่อถูกบังคับให้ทำแบบนั้นเท่านั้น

Odin : เขาพูดอะไรบ้างรึเปล่า ?

Freyja : ไม่เลย เขาไม่พูดกับใครทั้งนั้น ยกเว้นแต่ค้อนของเขา

Odin : บางทีเขาอาจจะทำเป็นไม่สนใจเจ้าได้ เฟรย์จา แต่ลูกชายจะต้องพูดกับพ่อของเขาแน่นอน

Odin : ธอร์! พระบิดาผู้ยิ่งใหญ่ของเจ้า โอดิน ได้กลับมายังแอสการ์เดียแล้ว และประสงค์คำตอบจากเจ้า! ด้วยเรื่องไร้สาระอันใดที่บังเกิดขึ้นให้เจ้าอยู่ที่นี่ ลูกเอ๋ย ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ เจ้าชายแห่งแอสการ์ด เทพสายฟ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว บุตรแห่งโอดิน จะ...

Odin : กลายเป็นผู้ซึ่งไม่คู่ควร ?

Odin : ธอร์!

หากแต่เสียงของโอดินดูจะไม่เข้าถึงโสตประสาทใดๆของธอร์เลย เขายังคงพูดแต่เพียงกับมโยลเนียร์ (Mjolnir) เท่านั้น

Thor : ได้โปรดเถอะ มโยลเนียร์...

Thor : ได้โปรดขยับ...

Thor : อ๊าาาากกกกก!!!

ธอร์พยายามที่จะยกมโยลเนียร์อีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล

Freyja : นั่นคือสิ่งที่เขาทำมาตลอดทั้งวันทั้งคืน

Odin : บ๊ะ นี่มันเห็นกันชัดๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ บุตรชายของเราต้องมนต์ของศัตรูเข้าแล้ว อาจจะเป็นเดอะเอนชานเทรส (The Enchantress) หรือยิ่งกว่านั้นอาจจะเป็นน้องชายของเขาเอง (โลกิ)

Freyja : ถ้ามีเวทมนต์สำแดงฤทธิ์อยู่ที่นี่ นักเวทย์ของพวกเราคงตรวจจับได้แล้ว

Freyja : ข้าคุยกับพวกมนุษย์ คนที่ถูกเรียกว่ากัปตันอเมริกา (Captain America) เขาเล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของทีมอะเวนเจอร์ของเขาที่นี่ ศัตรูของพวกเขาได้รับพลังและความรอบรู้ของผู้เฝ้ามองจักรวาลที่รู้จักกันในนามเดอะวอชเชอร์ (The Watcher) และในระหว่างการต่อสู้... บุตรชายของเราก็ได้กลายเป็นแบบที่เจ้าเห็น เราไม่รู้ว่าเจ้าศัตรูนั้นทำอะไรเขา

Thor : กระซิบ

Thor : ทั้งหมดที่หมอนั่นทำ... แค่กระซิบ

Odin : กระซิบ ? เมื่อกี้เขาพูดว่ากระซิบหรอ ? การกระซิบแบบไหนกันที่จะทำให้บุตรชายของข้ากลายเป็นเยี่ยงนี้ ? พูดออกมา ลูกเอ๋ย บอกข้ามาว่าเจ้านั่นพูดว่าอะไร!

Freyja : ตะโกนใส่เขาไปมันไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก พระสวามีที่รัก คุณควรลองพยายามพูดคุยเพื่อการเปลี่ยนแปลงดูบ้าง

Odin : ข้าตีความว่าเจ้าจะให้ข้าประคบประหงมบุตรชายเหมือนที่เจ้าทำนะรึ เฟรย์จา นี่แหละอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อปล่อยให้พระแม่แห่งสรรพสิ่งมาทำหน้าที่ดูแลแอสการ์ด ข้าคงจะจากไปนานเกินซะแล้ว

Freyja : แล้วกำแพงของแอสการ์เดียก็ยังไม่ถูกทำลายย่อยยับไปซะหน่อย แปลกดีนะ

Volstagg : ด้วยความเคารพพะยะค่ะ ฝ่าประบาท... บางทีมันอาจไม่ใช่ธอร์ที่ต้องมนต์

Volstagg : เมื่อเช้านี้เอง ตัวข้าเองได้ลองยกมโยลเนียร์ตามที่ธอร์ยืนกรานให้ทำ แล้วก็ต้องประหลาดใจว่าแม้แต่โวลส์แต๊ก ผู้เหี้ยมหาญ (Volstagg) คนนี้ก็ยังไม่สามารถขยับอาวุธนี้ได้

Fandral : พวกเราทุกคนก็ได้ลองกันหมดแล้ว ไม่มีพวกเราคนใดสามารถทำได้เลย

Hogun : และถ้าไม่มีใครสามารถยกค้อนนี้ได้... บางที ความผิดพลาดมันอาจจะอยู่ที่ตัวค้อนเอง

Freyja : มันเป็นเวทมนต์ของท่านเองนี่ หรือไม่ใช่ โอ้ บิดาแห่งสรรพสิ่งที่ให้เจ้าสิ่งนี้มีพลังที่จะเลือกได้ว่าใครคู่ควรใช่มั๊ย ?

Odin : มันก็ใช่
Odin : หลบไปข้างๆซะ ลูกเอ๋ย

โอดินเดินเข้ามาและเหวี่ยงธอร์ที่หมดสภาพออกไป ก่อนที่เขาจะก้มลงคว้ามโยลเนียร์


Odin : เรื่องไร้สาระนี่จบลงเดี๋ยวนี้แล้ว

แต่แม้แต่โอดินซึ่งเป็นผู้สร้างมโยลเนียร์ขึ้นมาเองก็กลับไม่สามารถยกมโยลเนียร์ขึ้นมาได้ จนโอดินถึงกับหงุดหงิดปล่อยพลังใส่กะจะหลอมมโยลเนียร์ให้กลายเป็นเศษเหล็กไปเลยทีเดียว เฟรย์จาจึงคิดว่าบางทีตัวเวทมนต์ที่กำกับไว้ในมโยลเนียร์ได้ก้าวข้ามขอบเขตที่แม้แต่ผู้สร้างอย่างโอดินก็ไม่สามารถควบคุมมันได้แล้ว

Freyja : ความคู่ควรไม่ควรที่จะถูกกำหนดตามอำเภอใจของอาวุธเวทมนต์หรอก ลุกขึ้นซะ บุตรชายข้า และปล่อยเจ้าค้อนนั่นถูกสาปไป ลุกขึ้นและจดจำความเป็นวีรบุรุษอย่างที่เจ้าเป็นซะ

ขณะนั้นเอง มูนิน (Munin) กับ ฮูกิน (Hugin) อีกาสองตัวของโอดินก็บินมาเกาะที่หมวกเขาของโอดิน และเอาแต่ร้องเป็นคำว่า โจทัน มิดการ์ด เลือด และ น้ำแข็ง ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งนั่นทำให้โอดินเข้าใจว่าพวกยักษ์น้ำแข็งคงจะบุกโจมตีโลกมนุษย์แล้วในตอนนี้

Volstagg : ท่านจะให้พวกเราทำอย่างไรดีขอรับ เหนือหัว ?

Odin : กลับไปยังแอสการ์เดีย นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของเรา

Freyja : เตรียมสะพานไบฟรอสต์ เราจะกรีฑาทัพเข้าสู่สงคราม

Odin : เจ้าพูดว่าอะไรนะ ?
Freyja : แล้วท่านละพูดว่าอะไร ?
Odin : พวกเขาถามถึงคำสั่งจากนายเหนือหัวของพวกเขา
Freyja : ใช่สิ แล้วเธอก็ให้คำตอบไปแล้ว

Odin : โอดินกลับมาแล้ว คุณผู้หญิง ไม่มีความจำเป็นสำหรับพระแม่แห่งสรรพสสิ่งอีกต่อไปแล้ว
Freyja : ตอนนี้ที่โอดินกลับมาแล้วเนี่ยแหละ บางทีข้าอาจจะจำเป็นมากกว่าเมื่อก่อนก็ได้


ระหว่างที่สองผัวเมียกำลังเถียงกันอยู่นั่นเอง ธอร์ก็ลุกขึ้นและทำท่าจะจากไป

Freyja : ธอร์ เจ้าจะไปไหน บุตรชายของข้า ?


Thor : ไปยังห้องเก็บอาวุธ

Thor : แล้วต่อจากนั้นก็... บ้าน

Odin : พวกเจ้าทั้งหมดได้ยินบุตรชายข้าแล้ว ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว กลับไปยังแอสการ์เดีย!
Freyja : ข้าไม่คิดว่าเขาหมายถึงแอสการ์เดียนะ

Odin : และเจ้า หมดยุคของพระแม่แห่งสรรพสิ่งแล้ว แอสการ์ดจะกลับมาเป็นอย่างที่มันเคยเป็นมานับศตวรรษ--แบบที่โอดินอยู่เหนือสุดเพียงคนเดียว มันถึงเวลาที่เจ้าจะต้องจำว่าที่ไหนคือที่ของเจ้าในโลกแห่งนั้น เฟรย์จา

หลังจากด่าเมียเสร็จแล้ว โอดินก็เดินจากไป ปล่อยเฟรย์จาไว้เพียงลำพัง เธอเหลือบสายตามองไปยังมโยลเนียร์ก่อนจะรำพึงกับตัวเองเบาๆ

Freyja : ใช่... บางทีอาจถึงเวลาแล้ว

ตัดกลับไปที่ทะเลนอร์วีเจี้ยนบนโลกมนุษย์อีกครั้ง

A : ชั้นเคยเห็นทีมดำน้ำพวกนั้นเฉือนพวกแอตแลนเที่ยน (Atlanteans) เหมือนกับพวกมันเป็นปลาโลมามาแล้ว แต่เจ้ายักษ์พวกนั้นแค่... ตบพวกนั้นปลิวไปง่ายๆเลย

B : ระบบป้องกันทั้งหมดล่ม ระบบสำรองก็ใช้งานไม่ได้ คอมพิวเตอร์ก็ออฟไลน์ ทุกอย่างที่ไม่พังก็ถูกแช่แข็งไปหมด

C : พวกยักษ์นั่น ชั้นยังเชื่อไม่ลงเลย! ไอ้ของแบบนั้นมันมาจากที่ไหนกัน ?

??? : เทือกเขาทางตะวันตกของโจทันไฮม์ไงล่ะ

เสียงหนึ่งพูดแทรกเข้ามา

เบื้องหน้าของคนทั้งสามก็ปรากฎเงาร่างของชายผู้หนึ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า

 มาเลคิธ ผู้ถูกสาป 
 ราชันย์แห่งเอลฟ์ทมิฬ จอมเวทย์ที่ทรงอำนาจที่สุดในสวาทัลไฮม์ 

Malekith : พวกมันคือยักษ์น้ำแข็ง-- เผ่าพันธ์ยักษ์ที่ดุร้ายที่สุดในบรรดาอาณาจักรทั้งหมด พวกมันเป็นที่รู้กันดีว่าแช่แข็งดวงดารามามากมายและบดขยี้ทั้งกองทัพให้แหลกเหลวเป็นบ่อโลหิต และเจ้ามีบางสิ่งที่พวกมันต้องการ

Malekith : มันอยู่ที่ไหน ?
A : อยู่ที่ไหนอะไร ?

มาเลคิธใช้เวทมนต์เผาผลาญศรีษะของชายคนนั้นไปทันที

Malekith : เขาช่างไร้ซึ่งเหตุผลซะจริงๆ นายคิดแบบนั้นมั๊ย ? ชั้นคิดว่าเค้าคงเสียใจเรื่องนั้นแล้วล่ะตอนนี้

Malekith : มันอยู่ที่ไหน ?
C : ผม... ผม... ผม... ไม่รู้! ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไร..

ลาก่อนนาย C

Malekith : เจ้าพวกพ่อค้าร็อคซอนอย่างพวกแกนี่มันดื้อด้านซะจริงๆ แต่ชั้นเป็นเอลฟ์ที่มีความอดทนนะ

Malekith : มันอยู่ที่--
B : ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ชั้นหามันได้แน่ ชั้นสาบาน
Malekith : อ๊า ก็ยังดีนะ ชายผู้ชาญฉลาดและรู้จักมารยาทคนนี้ ได้โปรดเถิดท่าน ใช้เวทมนต์ของท่านกับข้าหน่อยสิ

ซึ่งสิ่งที่มาเลคิธต้องการค้นหานั้นคือสิ่งที่เหล่ายักษ์น้ำแข็งทำสูญหายมานานแสน และเขารู้ว่าร็อคซอนได้ค้นพบบางสิ่งใต้ทะเลแห่งนี้ แม้ว่านาย B จะไม่รู้เรื่องนี้ แต่เขาคิดว่าเขาจะสามารถหามันได้ ขอแค่อย่าฆ่าเขาก็พอ แต่ในระหว่างนั้นเอง...

ธอร์ได้มาถึงแล้ว!!

Thor : มาเลคิธ! เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับยักษ์พวกนี้ เจ้าเอลฟ์ชั่ว?!

Malekith : ธอร์ ดีใจที่เจอเจ้าเหมือนกันนะ... สหายเก่า
Malekith : บอกนะ ถ้าข้าผิดละก็ แต่มีบางอย่างดูแปลกไปเกี่ยวกับเจ้านะ ข้ายังระบุไม่ได้...

มาเลคิธจู่โจมเข้าใส่ธอร์อย่างรุนแรง จนขวานของธอร์แทบจะต้านทานเอาไว้ไม่ได้

Malekith : เครารึไงนะ ? มั๊ง ? ไม่สิ นั่นไม่ใช่

Malekith : ใช่ แน่นอนเลยว่าบางสิ่งที่แปลกไปเกี่ยวกับเจ้า... มันเห็นชัดเจนอยู่ต่อหน้าข้าแล้ว ใช่มั๊ยล่ะ ? ข้ารู้ แต่ยังคง... ข้ายังไม่สามารถชี้ชัดๆลงไปได้

I Can't Quite Put My Finger On It. เป็นสำนวนที่หมายถึงว่าผู้พูดรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถพูดออกมาให้ชัดเจนได้ แค่รู้ว่ามี "บางสิ่ง" ผิดปกติ

ระหว่างที่ทั้งคู่ต่อสู้กันนั้นเอง ยักษ์น้ำแข็งตัวหนึ่งก็จู่โจมเข้าใส่ธอร์จากด้านนอก

Malekith : อ้า ใช่ ตอนนี้ข้าเห็นแล้ว

Malekith : เจ้าสูญเสียค้อนน้อยๆของเจ้าไปแล้ว


ธอร์ที่ไม่มีมโยลเนียร์ทำให้เขาพลาดท่าถูกยักษ์น้ำแข็งจับขึงเอาไว้ได้

Malekith : มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับเจ้าขนาดไหนกันน่ะ ข้ารู้ว่าเจ้ารักค้อนนั่นมากแค่ไหน

Malekith : แต่มองโลกในแง่ดีนะ ธอร์ที่ปราศจากมโยลเนียร์ที่หนักอึ้งให้ลากไปมาอยู่ตลอดเวลาแล้ว...

Malekith : เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีแขนให้ยุ่งยากมากไปหรอก


มาเลคิธใช้ขวานของธอร์เองฟันเข้าใส่แขนของเขาทันที

Thor : อ๊าาาคคคคค!!

หลังจากนั้นเมื่อมาเลคิธพบว่านาย B ค้นพบสิ่งที่เขาต้องการได้แล้ว เขาจึงส่งนาย B ตามไปหาเพื่อนๆ

Malekith : ยักษ์น้ำแข็งเอ๋ย! ไม่มีทาางที่ข้าจะยอมให้ใครมาพูดว่าข้าไม่ใช่เอลฟ์รักษาคำพูดหรอกน่า ข้ารู้ที่ตั้งของรางวัลของพวกเจ้าแล้ว มาเถอะ ยังมีคนอีกผู้คนมากมายในมิดการ์ดให้เจ้าแช่แข็งและบี้แบนซะ!

Frost Giant : แล้วเจ้าเทพนั่นล่ะ ?

Malekith : อนิจจา เขาคงไม่มาร่วมกับเราแล้วล่ะ ข้ากล้าพูดเลยว่า...


เบื้องหลังของมาเลคิธคือแขนซ้ายที่ขาดสะบั้นของธอร์

Malekith : เราได้เห็นธอร์คนสุดท้ายไปแล้ว

บนดวงจันทร์ เมื่อชาวมิดการ์ดจากไปหมดแล้ว ในสถานที่ที่มโยลเนียร์ตั้งอยู่ ปรากฎเงาร่างของคนผู้หนึ่งเบื้องหน้ามโยลเนียร์

??? : มันต้องมีธอร์อยู่เสมอ

และทันทีที่คนๆนั้นก้มลงหยิบมโยลเนียร์ มันก็เปล่งแสงและคำว่า he ก็มีตัวอักษร s นำหน้าขึ้นมา กลายเป็นคำว่า she แทน

หญิงสาวลึกลับในชุดแบบเดียวกับธอร์ผู้ยกมโยลเนียร์ขึ้นมาได้ ธอร์หญิงคนใหม่ปรากฎตัวแล้ว!!

จบเล่ม 1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          สำหรับเล่มนี้ก็ถือเป็นอีก 1 ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมาร์เวลในปลายปีนี้ ในชื่อ Avengers NOW! ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของ 3 ผู้ยิ่งใหญ่ (ฺBig 3) แห่งมาร์เวลทั้งหมด คือ กัปตันอเมริกา, ไอร่อนแมน และ ธอร์ ซึ่งในส่วนของธอร์นี้จะเป็นธอร์คนใหม่ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเธอคือใครกันแน่ แต่มีการเปิดเผยจากมาร์เวลมานิดหน่อยว่า "เธอเป็นคนที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว" ซึ่งตัวละครหญิงผมสีทองของมาร์เวลจะมีซักกี่ตัวกัน แต่ดูจากต้นเรื่องที่เห็นเฟรย์จาเหลือบมองมโยลเนียร์แปลกๆ ก็ชวนให้สงสัยเหมือนกันว่าหรือจะเป็นตัวเธอเองที่มารับบทบาทของธอร์แทนลูกชาย!!? อืม.. ก็เกินไปหน่อยนะ ฮ่าๆๆ แล้วเพื่อนๆละครับ คิดว่าธอร์หญิงคนนี้คือใครกันแน่ ?

Musashi