25 พฤษภาคม 2557

X-Men: Days of Future Past ตอนจบ

บทสรุปของ Days of Future Past จากต้นฉบับคอมมิคยุค 80
เคธ ไพรด์ที่ย้อนเวลากลับไปในอดีตจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือไม่
และเอ็กซ์เม็นในโลกอนาคตจะเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเซนทิเนลได้อย่างไร


The Uncanny X-Men #142 (1981)
Mind Out of Time!
เรื่องโดย : Chris Claremont, John Byrne
ภาพโดย : John Byrne,  Glynis Oliver Wein
วางจำหน่าย : 1 กุมภาพันธ์ 1981
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi


ในปี 1980 เหล่าเอ็กซ์เม็น (วูลฟ์เวอรีน, โคลอสซัส, สตอร์ม, แองเจิล, สไปรท์ และ ไนท์ครอว์เลอร์) กำลังปะทะกับกลุ่มภราดรภาพแห่งมนุษย์กลายพันธุ์ผู้ชั่วร้าย (Brotherhood of Evil Mutants) ในห้องประชุมสภา

ในปี 2013 เหล่าเอ็กซ์เม็นที่รอดชีวิต (วูลฟ์เวอรีน, โคลอสซัส, สตอร์ม และ ราเชล) กำลังต่อสู้กับหุ่นเซนทิเนล ในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างประเทศขึ้นมา

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



เหล่าบราเธอร์ฮู้ดและเหล่าเอ็กซ์เม็นกำลังเตรียมเปิดฉากปะทะกัน วุฒิสมาชิกเคลลี่ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมพวกเขาทั้งสองฝ่ายไว้ แต่บล็อบ (Blob) แค่สะบัดมือเบาๆ ตำรวจก็กระเด็นไป ส่วนทางด้านอะวาแลนเช่ (Avalanche) ใช้พลังของเขาสร้างคลื่นกระแทกผ่านพื้นหินอ่อนเข้าจู่โจมใส่พวกเอ็กซ์เม็นทันที


ไนท์ครอว์เลอร์ (Nightcrawler) ใช้การเทเลพอร์ตที่เขาถนัดเข้าโจมตีใส่อะวาแลนเช่ แต่เดสทินี่ใช้ความสามารถในการมองเห็นอนาคตของเธอตะโกนบอกจุดที่ไนท์ครอว์เลอร์จะเทเลพอร์ตไป ทำให้อะวาแลนเช่จู่โจมเข้าใส่เขาได้

ทางด้านไพโร (Pyro) ก็ใช้พลังไฟของเขาจู่โจมเข้าใส่โคลอสซัส (Colossus) แต่ในขณะที่วูล์ฟเวอรีน (Wolverine) จะพุ่งเข้าไปช่วยโคลอสซัส สตอร์ม (Storm) กลับใช้พลังของเธอสร้างพายุหมุนขนาดเล็กพัดวูล์ฟเวอรีนออกไปและดับไฟของไพโรไปพร้อมๆกัน


Angel : ทำได้เยี่ยมมาก สตอร์ม ในตอนที่คนทั้งประเทศกำลังต่อต้านมนุษย์กลายพันธ์แบบนี้ สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการคือวูลฟ์เวอรีนไปเสียบใครเข้า-- ต่อให้เป็นพวกวายร้ายก็ตาม

Kate : แองเจิ้ล (Angel) ตามหาวุฒิสมาชิกเคลลี่! เราต้องปกป้องเขาให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม

ทางด้านศาสตราจารย์ซาเวียร์ (Professor X) ก็เล่าให้ดอกเตอร์มอยร่า (Moira MacTaggert) ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเคธ ไพรด์ (Katherine Pryde) ได้ย้อนเวลามาจากอนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้า แม้ว่ามอยร่าจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ซาเวียร์ก็บอกว่าเขาอ่านใจเคธแล้วและมั่นใจว่านั่นเป็นเรื่องจริง ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันก็มีตำรวจหญิงคนนึงบอกว่าจะนำทางทั้งคู่ไปยังทางออก แต่ก่อนที่ซาเวียร์จะรู้ตัวว่านั่นคือมิสทีค (Mystique) ปลอมตัวมาก็สายไปแล้ว เพราะเธอใช้อุปกรณ์บางอย่างทำให้ซาเวียร์ไม่สามารถอ่านใจเธอได้ และใช้แก๊สระงับประสาทเล่นงานพวกเขา


Mystique : นายเป็นศัตรูที่อันตรายที่สุดของชั้นเลยล่ะ ซาเวียร์ ชั้นควรจะฆ่านายซะเลยในตอนที่ชั้นมีโอกาส แต่ตอนนี้ชั้นคิดว่านายจะเป็นประโยชน์มากกว่าในฐานะตัวประกัน

Mystique : อนาคตของพวกเราเป็นยังไงบ้างล่ะ เดสทินี่ (Destiny) ?

Destiny : ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นอกเหนือไปจากตอนนี้ ภาพมันสับสนยุ่งเหยิงเกินกว่าจะอ่านได้

Destiny : มีตัวแปรมากมายที่ปรากฏออกมาอย่างไม่มีรูปแบบ มิสทีค เป็นความผิดปกติที่ส่งผลต่อจุดศูนย์กลางของการกระแสของกาลเวลา ตราบเท่าที่มันยังเป็นอยู่แบบนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน ชั้นพยายามที่จะหาตำแหน่งแน่นอนแต่มันไม่ได้ผลเลย

Mystique : ไม่เป็นไร สหาย ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีความช่วยเหลือจากความสามารถในการหยั่งรู้ของเธอ เหล่าบราเธอร์ฮู้ดจะต้องมีชัย


ซึ่งสิ่งผิดปกตินั่นก็คือการที่เคธย้อนเวลามาจากอนาคต 30 ปีข้างหน้า เพื่อบอกเหล่าเอ็กซ์เม็นในอดีตให้หยุดยั้งการที่กลุ่มบราเธอร์ฮู้ดจะทำการสังหารวุฒิสมาชิกเคลลี่ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อต้านมนุษย์กลายพันธ์อย่างรุนแรงในอนาคตนั่นเอง


ในโลกอนาคต เหล่าเอ็กซ์เม็นมาถึงตึกแบกซเตอร์ (Baxter Building) อดีตฐานบัญชาการของแฟนแทสติกโฟร์ (Fantastic Four) ที่ตอนนี้กลายเป็นศูนย์บัญชาการของเซนทิเนลไปแล้วได้อย่างง่ายดาย ตามการคาดการณ์ของโลแกนที่คิดว่าพวกเซนทิเนลคงจะคิดว่าพวกเอ็กซ์เม็นน่าจะพยายามติดต่อไปหากองกำลังต่อต้านเซนทิเนลของแคนาดาที่วูล์ฟเวอรีนร่วมมืออยู่ด้วยมากกว่าที่จะมุ่งหน้ามายังตึกแบกซเตอร์ หน้าตึกจึงมีเพียงหุ่นเซนทิเนลยามเฝ้าอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น และสตอร์มก็สามารถจัดการกับมันได้ไม่ยาก


Colossus : ราเชล (Rachel) คุณรออยู่ที่นี่คอยปกป้องคิตตี้ให้ดีที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ผมหวังว่าผมจะรู้ได้ว่าเคธกำลังไปไกลถึงไหนแล้วในอดีต ทำไมมันถึงใช้เวลานานขนาดนี้

Rachel : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันโคลอสซัส บางทีโลกของเราอาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยก็ได้ สิ่งที่เคธทำอาจจะกลายเป็นการสร้างเส้นเวลาใหม่ขึ้นมา สร้างโลกคู่ขนานใหม่ขึ้นมาเลยก็ได้

Wolverine : งั้นแปลว่าการสลับเวลากลายเป็นความพยายามที่สูญเปล่านะสิ เยี่ยมไปเลย

Rachel : วูล์ฟเวอรีน ฉันเสียใจ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน



สตอร์มพาเหล่าเอ็กซ์เม็นเข้าไปในตึกแบกซเตอร์ได้ วูล์ฟเวอรีนบอกว่าการที่เซนทิเนลเลือกที่นี่เป็นฐานบัญชาการของพวกมัน ถือเป็นเรื่องที่ฉลาดเพราะที่นี่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากมาย แต่มันก็เป็นจุดอ่อน (Achilles' Heel) ที่สำคัญเหมือนกัน และวูล์ฟเวอรีนก็ใช้อุปกรณ์จากเข็มขัดของเขาที่เขาเรียกมันว่าอิเลคโทรนิค อาย บีม (Electronic Eye Beam) เปิดการทำงานของลิฟท์ในตึกแบกซเตอร์ได้

Achilles' Heel เป็นสำนวนที่หมายถึง จุดอ่อน จุดบอด หรือ จุดตาย ซึ่งมีที่มาจากวีรบุรุษในตำนานกรีกที่ชื่ออคลิลีสซึ่งตอนเป็นทารกถูกแม่ของเขานำไปจุ่มน้ำที่แม่น้ำสติกซ์ (The River Styx) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านขุมนรกทาร์ทารัส ทำให้เขามีร่างกายคงกระพัน แต่เนื่องจากตอนที่จุ่มหนูน้อยอคิลลีสลงไป แม่ของเขาได้จับข้อเท้าเขาไว้ ทำให้ส่วนข้อเท้าเป็นส่วนที่ไม่โดนน้ำในแม่น้ำสติกซ์ จึงไม่คงกระพันเหมือนร่างกายส่วนอื่น และส่วนนี้เองที่กลายเป็นจุดอ่อนทำให้อคิลลิสเสียชีวิตในสงครามกรุงทรอย


ในโลกอดีต การต่อสู้ระหว่างเหล่าเอ็กซ์เม็นและเหล่าบราเธอร์ฮู้ดยังดำเนินอยู่ต่อไป สตอร์มตัดสินใจใช้พลังของเธอทำลายกำแพงห้องประชุมสภาออกมา


ทั้งเหล่าเอ็กซ์เม็และเหล่าบราเธอร์ฮู้ดถูกพายุของสตอร์มพัดออกมานอกตึกกันหมด

Blob : ชั้นบอกแกแล้ว เจ้ารัสเซีย นอกซะจากชั้นตั้งใจจะขยับเอง ไม่มีพลังอะไรบนโลกที่จะทำให้ชั้นขยับได้

บล็อบกระโดดใส่ตั้งใจจะทับโคลอสซัส แต่เขาก็พลิกตัวหลบไปได้


ในระหว่างการต่อสู้นั้น ทางกองทัพก็ได้ส่งกองกำลังพิเศษติดอาวุธเข้ามาโดยที่แม้แต่เหล่าเอ็กซ์เม็นหรือบราเธอร์ฮู้ดก็ไม่ทันรู้ตัว

Sergeant : ผู้พัน ใครเป็นคนดี ใครเป็นคนเลวละครับเนี่ย ? เราจะต้องยิงใครครับ ?!

Major : มันไม่สำคัญหรอก จ่า เก็บมันให้หมดเลย เราค่อยมาสืบรายละเอียดกันทีหลัง

Major : ปืนใหญ่แรงสั่นสะเทือน--ยิง!

อาวุธพลังงานที่สร้างโดย ชอว์ อินดัสทรี่ (Shaw Industries) จากการออกแบบด้วยหลักการเดียวกับแสงรีพัลเซอร์ (Repulsor Rays) ของชุดเกราะไอร่อนแมน ยิงเข้าใส่โคลอสซัสที่กำลังสู้อยู่กับบล็อบทันที


อีกด้านหนึ่งพวกทหารใช้ปืนไฟยิงเข้าใส่ไพโร แต่ผลกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

Pyro : พวกนายพลาดแล้ว ท่านสุภาพบุรุษ-- การใช้ไฟต่อสู้กับคนที่สามารถบังคับไฟพวกนั้นให้กลายเป็นอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ--แล้วให้มันหันไปจู่โจมพวกนายแทน

Pyro : ชั้นมั่นใจว่าพวกนายคงมีบำนาญกันพอแล้วนะ เพราะครอบครัวของพวกนายคงต้องการใช้มันเร็วๆนี้



ทางด้านวูล์ฟเวอรีนก็เข้าจู่โจมใส่บล็อบแทนโคลอสซัส

Wolverine : เป็นอะไรไปละ พวก ?! ถ้าแกคงกระพันจริง แล้วทำไมแกถึงกลัวกรงเล็บชั้นขนาดนี้ล่ะ ?

ด้านแองเจิ้ลเห็นพวกทหารกำลังถูกจู่โจมด้วยไฟของไพโร จึงบินเข้าไปหวังล่อให้ไพโรจู่โจมตัวเองแทน แต่ไพโรเห็นวูล์ฟเวอรีนกำลังจู่โจมเข้าใส่บล็อบจึงแบ่งไฟของเขาออกเป็นสองร่าง ให้ร่างหนึ่งตามแองเจิ้ลและอีกร่างเข้าไปจับวูล์ฟเวอรีนทันที สตอร์มเห็นดังนั้นจึงเข้าไปใช้พลังของเธอทำลายไฟของไพโรเพื่อช่วยวูล์ฟเวอรีนทันที

ตอนนี้จะเห็นว่าสตอร์มกังวลว่าฮีลลิ่งแฟคเตอร์ของวูล์ฟเวอรีนก็ไม่อาจช่วยเขาจากไฟของไพโรได้ และแม้แต่ชุดของวูล์ฟเวอรีนเองก็ยังทำจากวัสดุกันไฟ เพราะในยุคนั้นพลังฮีลลิ่งแฟคเตอร์ของวูล์ฟเวอรีนยังไม่เวอร์เหมือนคอมมิคในยุคนี้นั่นเอง ถ้าเป็นยุคนี้เดินแก้ผ้าไปให้ไฟเผาเล่น ยังได้เลยมั๊ง แป๊บๆ เด๋วพี่แกก็ฟื้น ฮ่าๆๆ


ทางด้านไนท์ครอว์เลอร์ที่เข้ามาดูอาการวูล์ฟเวอรีน จู่ๆก็มีตัวเขาเองอีกคนพุ่งเข้าจู่โจมใส่เขา

Nightcrawler : วูล์ฟเวอรีน ระวัง! นั่นไม่ใช่ผม--ผมอยู่นี่! หนึ่งในพวกบราเธอร์ฮู้ดต้องมีใครที่เปลี่ยนรูปร่างตัวเองได้แน่


ไนท์ครอว์เลอร์ทั้งสองคนสู้กันอีรุงตุงนัง วูล์ฟเวอรีนกางกรงเล็บของเขาออกอีกครั้งเตรียมตัวเข้าจู่โจมใส่ไนท์ครอว์เลอร์ทั้งคุ่เพราะเขาคิดว่าถ้าเป็นตัวจริงจะต้องสามารถเทเลพอร์ตหลบกรงเล็บเขาไปได้แน่ๆ แต่สตอร์มก็เข้ามาห้ามเขาไว้ เพราะไม่ต้องการให้เขาพลั้งมือฆ่าใครต่อหน้าประชาชนทั่วไปที่เฝ้ามองดูอยู่


ระหว่างที่มัวแต่คุยกัน อะวาแลนเช่ใช้พลังของเขาจู่โจมใส่ทั้งคู่จนกระเด็นออกไปจากตรงนั้น


โคลอสซัสถือแท่งเหล็กอันใหญ่วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจากวูล์ฟเวอรีน เพื่อให้เขาทำตัวเป็นคานงัด และใช้แท่งเหล็กนั้นแทนคานดีดเพื่อจัดการกับบล็อบ

Colossus : เดอะบล็อบคุยโวว่าไม่มีพลังอะไรบนโลกนี้ทำให้เขาขยับได้--แต่ถ้าสมมติว่าเราขยับโลกที่หมอนั่นยืนอยู่แทนล่ะ ?

แล้วบล็อบก็โดนดีดขึ้นฟ้าไปได้ง่ายๆ ซึ่งบล็อบก็มัวทำบ้าอะไรอยู่ฟ่ะ ให้คนอื่นสอดคานไปใต้หว่างขาโดยไม่รู้ตัวเลยได้ไง แล้วดีดขนาดนั้นไข่แตกไปแล้วมั๊งเนี่ย >___<"

Wolverine : นายส่งมันขึ้นฟ้าได้แล้ว แล้วนายจะทำยังไงต่อตอนหมอนี่ตกลงมา ?

Blob : แกต้องตาย เจ้ารัสเซีย! สัญญาเลย!

Colossus : ผมตั้งใจจะพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ว่าบล็อบจะคิดว่าพลังของตัวเองเจ๋งแค่ไหน--


Colossus : โคลอสซัสก็ไม่มีวันสิ้นท่าด้วยฝีมือเขา หรือฝีมือใครทั้งนั้น!

โป้งเดียวปิดบัญชี แถมกระเด็นไปทับอะวาแลนเช่อีก ยิงปืดนัดเดียวได้นกสองตัวเลย


ส่วนทางด้านสตอร์มก็ใช้พลังของเธอสร้างฝนขึ้นมาดับไฟของไพโรได้สำเร็จ และไนท์ครอว์เลอร์ก็ทุบตัวปลอมของเขากระเด็นออกไปได้


และปรากฎเป็นร่างที่แท้จริง นั่นก็คือมิสทีคนั่นเอง

Nightcrawler : คุณคือมิสทีค! สีผิวของคุณ--ดวงตาของคุณ--ถ้านั่นเป็นร่างที่แท้จริงของคุณจริงๆ-- พระเจ้า พวกเราช่างคล้ายกัน!

Mystique : ตกใจรึไงไนท์ครอว์เลอร์ ที่นายไม่ได้หน้าตาแบบนี้อยู่คนเดียว เหมือนที่นายเคยคิด ?

Nightcrawler : คุณ... รู้จักชื่อผม! คุณเป็นใครกันแน่?!

Mystique : ถาม... มาร์การิ ซาร์โดส (Margali Szardos) แม่นายดูสิ ใครจะรู้ดีไปกว่า--เธอล่ะ ?

แองเจิ้ลบินมาบอกว่าทางกองทัพจับบล็อบ อะวาแลนเช่ และไพโรไว้ได้แล้ว และเตรียมจะมาจับพวกเอ็กซ์เม็นเป็นรายต่อไป เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องรีบหนีกันแล้ว แต่ไนท์ครอว์เลอร์ยังไม่อยากไปเพราะเขาต้องการจะถามมิสทีคเรื่องอดีตของเขาให้มากกว่านี้ก่อน

ในยุคนั้นกำเนิดของไนท์ครอว์เลอร์ยังเป็นปริศนาอยู่นะครับ โดยมาร์การิ ซาโดส (อ่านว่างี้ปล่าวน๊า) เป็นแม่เลี้ยงของเขาครับ และแม่ที่แท้จริงของไนท์ครอว์เลอร์ก็คือ มิสทีค! และพ่อของเขาก็คืออาซาเซล (Azazel) ที่ออกมาใน X-Men: First Class นั่นแหละครับ


 แต่คลาดสายตาไปแป๊บเดียว มิสทีคก็หนีไปได้แล้ว และด้วยความสามารถในการแปลงร่างของเธอ ไนท์ครอว์เลอร์ก็รู้ว่าคงไม่สามารถตามหาเธอได้อีกแน่

ทางด้านโคลอสซัสก็เพิ่งสังเกตุว่าเคธหายไป รวมทั้งเดสทินี่ สมาชิกอีกคนของบราเธอร์ฮู้ดที่ยังไม่ถูกจัดการด้วย


ในโลกอนาคต วูล์ฟเวอรีน โคลอสซัส และสตอร์มขึ้นลิฟต์มาถึงห้องบัญชาการของเซนทิเนล และพบเซนทิเนลรุ่นโอเมก้าอยู่ในห้องนั่นเพียงลำพังตัวเดียว วูล์ฟเวอรีนจึงบอกให้โคลอสซัสใช้ "ฟาสต์บอล สเปเชียล" ท่าไม้ตายของทั้งคู่เข้าจู่โจมใส่เซนทิเนลที่ไม่ทันระวังตัวทันที


แต่ว่านั่นเป็นเพียงกลลวงของเซนทิเนล มันหันกลับมาจู่โจมใส่วูล์ฟเวอรีนอย่างรวดเร็ว

Omega Sentinel : เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสาร พวกแกจองหองขนาดที่จะคิดว่าพวกแกสามารถเข้ามาใกล้พวกข้าได้ขนาดนี้โดยที่ระบบตรวจจับของพวกข้าไม่รู้จริงๆรึ ?


ร่างเนื้อของวูล์ฟเวอรีนสลายไปหมด เหลือเพียงโครงกระดูกอะดาแมนเที่ยม (Adamantium) ของเขาเท่านั้น

Omega Sentinel : ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เพราะที่พวกแกมาอยู่ที่นี่ได้ เพราะพวกข้าปล่อยให้พวกแกมาเพื่อจะได้กำจัดพวกได้ง่ายๆยังไงล่ะ

Omega Sentinel : ยอมแพ้ซะ เอ็กซ์เม็น หรือไม่ก็เผชิญชะตากรรมเดียวกับเจ้านี่

Storm : ไม่มีวัน!

สตอร์มใช้สายฟ้าของเธอจู่โจมเข้าใส่โอเมก้าเซนทิเนลตัวนั้นทันที



แต่เซนทิเนลตัวอื่นๆ ก็บุกเข้ามาในห้อง

Colossus : พวกเราอาจจะเจ็บปวด เซนทิเนล แต่พวกเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

Colossus : พวกเราเคยเผชิญอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่านี้--และพวกเราชนะมาแล้ว!

Sentinel : ทำลายเซนทิเนลไปหนึ่งตัว-- ทำลายเซนทิเนลไปพันตัว-- มันก็ไม่มีอะไรต่างกันหรอก พวกเรามีจำนวนมหาศาล

Sentinel : มนุษย์กลายพันธ์เอ๋ย ในที่สุดพวกเราก็จะชนะอยู่ดี


สตอร์มที่ไม่ทันระวังก็โดนอาวุธของเซนทิเนลเสียบทะลุอก โคลอสซัสที่สูญสิ้นพวกพ้องทั้งหมดหลั่งน้ำตาและกรีดร้องก่อนที่จะจู่โจมใส่เซนทิเนลจนมันกระเด็นออกไปนอกตึกแบกซเตอร์


ด้านนอกตึกแบกซเตอร์ ราเชลที่คอยดูแลร่างของเคธไว้รู้สึกได้ด้วยพลังจิตของเธอว่าสตอร์มและวูล์ฟเวอรีนตายไปแล้ว เธอรู้สึกได้ถึงความเดือดดาลของโคลอสซัส และแม้ว่าเธอต้องการจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเขาว่าจะอยู่ดูแลเคธ แต่เธอก็อยากจะเข้าไปช่วย แต่เพียงไม่เวลาไม่นานที่เธอกำลังตัดสินใจ เธอก็รับรู้ได้ว่าโคลอสซัสตายแล้วเช่นกัน

Rachel : ถ้าร่างของเคธตายอยู่ที่นี่ จิตของเธอจะติดอยู่ในอดีตรึเปล่านะ ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ชั้นหวังว่าเธอจะ... มีชีวิตที่มีความสุขกว่าชีวิตที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้

Rachel : เราได้ทำทุกอย่างที่พวกเราทำได้แล้ว เคธที่รัก ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเธอแล้วนะ


ในโลกอดีต เคธแอบตามเดสทินี่ไปโดยที่เดสทินี่ไม่รู้ตัว ซึ่งเคธคิดว่ามันคงเป็นผลจากการสับเปลี่ยนจิตของเธอจากอนาคตมายังยุคนี้ ทำให้พลังของเดสทินี่ไม่สามารถมองเห็นอนาคตในตอนนี้ที่มีเธออยู่ร่วมได้

ทางด้านวุฒิสมาชิกเคลลี่ที่ถูกเดสทินี่เอาปืนยิงธนูเล็งใส่อยู่ก็ไม่มีท่าทีหวาดกลัว

Kelly : การฆ่าผมไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรหรอก ประชาชนจะกลัวมนุษย์กลายพันธ์ เหมือนที่พวกเขากลัวพวกผู้ก่อการร้าย

Kelly : -- แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะยอมให้กับความกลัวนั้น พวกเขาจะสู้กลับ พวกเขาจะทำลายคุณซะ เดสทินี่!

Destiny : อาจจะเป็นไปได้นะ แต่นายก็ยังเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ดี

Destiny : แล้วก็อย่าพยายามคิดจะหลบธนูของชั้นละ ท่านวุฒิสมาชิก เพราะชั้นจะรู้ล่วงหน้าก่อนที่นายจะคิดมันขึ้นมาซะอีก

Kelly : ผมไม่ยอมให้คุณได้สะใจแบบนั้นหรอก ถ้ามือผมเอื้อมถึงคุณละก็ มนุษย์กลายพันธ์ ผมคงจะจับคุณหักคอไปแล้ว... แต่ผมจะไม่หนีเด็ดขาด


แต่ในขณะที่เดสทินี่จะยิงธนูของเธอใส่เคลลี่นั่นเอง เคธใช้พลังที่สามารถทะลุวัตถุของเธอแทรกเข้าไปในตัวของเดสทินี่และทำให้เธอยิงพลาด และภายในเสี้ยววินาทีที่ลูกธนูพลาดเป้าไปแล้วนั้นเองก็เกิดปฏิกริยาบางอย่างขึ้นกับเธอ


และสตอร์มก็เข้ามาในห้องนั้นพอดี

Storm : คิต-- ชั้นหมายถึงสไปรท์ (Sprite) เธอปลอดภัยนะ

Storm : ท่านวุฒิสมาชิกเคลลี่ คุณบาดเจ็บรึเปล่า ?

Kitty : สะ-สตอร์ม ? ที่-ที่นี่ที่ไหน ? นี่ไม่ใช่แดนเจอร์รูมหรอ ชั้น.... รู้สึก... โอ๊ยยย

Kelly : เธอเป็นใครกัน คุณผู้หญิง แล้วเด็กคนนี้ล่ะ ?

Storm : ชั้นคือสตอร์ม ผู้นำของเหล่าเอ็กซ์เม็น และ ชั้นว่า... เด็กคนนี้ก็คือคนที่เพิ่งจะช่วยชีวิตคุณนะสิ

ก่อนที่ศาสตราจารย์ซาเวียร์จะเข้ามาพร้อมกับดอกเตอร์มอยร่า สตอร์มจึงพาคิตตี้ ไพรด์บินออกไป ส่วนมิสทีคก็แอบดูอยู่และคิดในใจว่าเธอจะต้องช่วยพวกบราเธอร์ฮู้ดที่ถูกจับไปให้ได้


ทางด้านเหล่าเอ็กซ์เม็นก็เดินทางกลับไปยังโรงเรียนของผู้มีพรสวรรค์ของซาเวียร์ (Xavier's School For Gifted Youngsters)

Storm : เธอจำอะไรหลังจากที่สลบไปในแดนเจอร์รูมไม่ได้เลยหรอ ?

Kitty : ไม่เลย นอกซะจาก อืม ชั้นคิดว่าชั้นรู้สึกเหมือนใครบางคนจูบชั้นก่อนที่ชั้นจะตื่นขึ้นมาน่ะ

Storm : บางทีนั่นคงจะดีที่สุดแล้ว เพราะชั้นคิดว่าถ้าชั้นรู้อนาคตตัวเอง ชั้นคงใช้ทั้งชีวิตพยายามที่จะเปลี่ยนมันแน่ๆ

Kitty : คุณบอกว่าคุณอ่านใจตัวชั้น ศาสตราจารย์ คุณเจออะไรบ้าง -- เกี่ยวกับชั้น ชั้นหมายถึงตัวชั้นอีกคนน่ะ

Professer X : ว่าเคธ ไพรด์ เป็นคนที่ร่าเริงและน่าชื่นชมแบบเดียวกับที่คิตตี้ไพรด์เป็นยังไงล่ะ ส่วนที่เหลือเธอจะค้นพบเองเมื่อมันถึงเวลา

Angel : ศาสตราจารย์ พวกเราปกป้องวุฒิสมาชิกเคลลี่เอาไว้ได้ จิตของคิตตี้ก็กลับมาเข้าร่างเธอแล้ว

Angel : นั่นแปลว่าพวกเราเปลี่ยนอนาคตได้แล้วรึเปล่าครับ ?

Professer X : ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน วอร์เรน มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้


บทส่งท้าย

ผ่านไปหนึ่งเดือนหลังจากการพิจาราณาวาระเรื่องมนุษย์กลายพันธ์ของเคลลี่ และรายงานทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังประธานาธิบดี คืนหนึ่งในเดือนธันว่าคม เคลลี่และเพื่อนของเขา นักธุรกิจอุตสาหกรรม เซบาสเตียน ชอว์ (Sebastian Shaw) ผู้ซึ่งเป็นทั้งมนุษย์กลายพันธ์และสุดยอดวายร้ายโดยที่เคลลี่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลย (ตัวร้ายหลักในภาค X-Men: First Class นั่นแหละครับ) ทั้งคู่ถูกประธานาธิบดีเรียกเข้าไปพบที่ทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีได้ตัดสินใจก่อตั้โครงการลับเพื่อต่อต้านมนุษย์กลายพันธ์ที่ชื่อว่า โปรเจคไวด์อะเวค (Project Wideawake) และแนะนำผู้นำโครงการนี้ให้แก่ทั้งคู่รู้จัก นั่นก็คือ เฮนรี่ ปีเตอร์ ไกริช (Henry Peter Gyrich)

President : หน้าที่แรกของคุณ เฮนรี่ คือการทำงานร่วมกับชอว์อินดัสตรีเพื่อออกแบบและสร้างหุ่นเซนทิเนลรุ่นใหม่ให้ได้

Henry : ท่านจะได้ตามต้องการครับท่าน และผมให้คำสัตย์ว่า...

Henry : การโต้เถียงเรื่องปัญหามนุษย์กลายพันธ์จะต้องถูกแก้ไข และถ้าเราพบว่าพวกมันคุกคามต่อสาธารณชน-- คุกคามต่อโลกนี้-- คุกคามต่อมนุษยชาติ-- พวกมันจะต้องถูกกำจัด

Henry : แบบถอนรากถอนโคน


จบ

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          ก็มาถึงบทจบของ X-Men: Days of Future Past ของคอมมิคต้นฉบับในปี 1980 ที่ถูกนำมาดัดแปลงทำเป็นภาพยนต์ในปี 2014 นี้แล้วครับ ซึ่งตอนที่ผมสปอยล์นี้หนังเข้าโรงแล้ว แต่ผมเองยังไม่ได้มีโอกาสไปดูเลย แต่เนื้อเรื่องคงจะถูกดัดแปลงไปจากต้นฉบับคอมมิคให้ร่วมสมัยและมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างจากในคอมมิคไปมากทีเดียว แต่พอมาคิดว่านี่คือคอมมิคที่เขียนมาตั้งแต่ 30 กว่าปีก่อน ก็ถือว่ามีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากเรื่องนึงเลยละครับ

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 พฤษภาคม 2557 เวลา 08:15

    ขอบคุณคร๊าบ~ไม่มีเงินดูหนังเลยอ่านอันนี้แทน แต่สนุกมากๆเลยครับ
    ขอเรื่องต่อไปเร็วนะคร๊าบ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 พฤษภาคม 2557 เวลา 23:34

    อ่านจบแบบ งงๆ เฮียวูฟตายได้ไงหว่า ฮีลลิ่ง แฟคเตอร์ไม่ทำงานรึไง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ในคอมมิคยุคนั้นฮีลลิ่งแฟคเตอร์ยังเป็นแค่การรักษาแผลอย่างรวดเร็วกว่าคนธรรมดาครับ เพราะงั้นถ้าบาดเจ็บหนักๆที่ทำให้ถึงตายได้ แบบที่โดนเซนทิเนลปล่อยแสงใส่นี่ก็ตายเลยครับ แต่พอยุคหลังๆ มาร์เวลคงเห็นว่าความสามารถนี้ได้รับความนิยม เลยเพิ่มพลังให้ฮีลลิ่งแฟคเตอร์แทบจะเป็นพลังกึ่งอมตะไปแล้ว แผลอะไรก็รักษาหายได้หมด ต่อให้เป็นแผลขนาดทำให้ถึงตายได้ แป๊บๆก็ฟื้น.. ประมาณว่าเพิ่มพลังให้เว่อร์ๆ เอาใจคนอ่านน่ะ

      ลบ
  3. ยุคหลังๆ Wolverine ก็ตายคล้ายๆ กันแบบนี้เหมือนกันครับ
    ในจักรวาลอัลติเมท ตอนเหตุการณ์ Ultimatum (ช่วงปี 2008-2009)
    โดนแม็กนีโตบังคับพลังของ Iron Man กับ Cyclops ยิ่งใส่โลแกนเหลือแต่กระดูกก็เรียบร้อย
    แต่เฮียแกก็เสียบแม็กนีโตสำเร็จนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ในจักรวาลอัลติเมทค่อนข้างเน้นความสมจริงมากกว่าจักรวาลหลักด้วยแหละคับ เฮียแกเลยตาย แถมตายแล้วตายเลยไม่มีฟื้นอีกตะหาก แต่ถ้าเป็นจักรวาลหลักนี่ ต่อให้โดนหนักกว่านั้นมาร์เวลก็คงไม่ให้เฮียแกตายแน่ๆ

      ลบ