เมื่ออะเวนเจอร์ต้องการตัววายร้ายกลับใจอย่างแมกนีโต้เพื่อไปขึ้นศาลโลก
ในขณะที่ทีมซูเปอร์ฮีโร่ของรัสเซียก็ต้องการตัวแมกนีโต้ไปดำเนินคดีเช่นกัน
เหล่าเอ็กซ์เม็นจึงต้องต่อสู้กับทั้งสองฝ่ายเพื่อปกป้องพวกพ้องของพวกเขา!!
The X-Men vs The Avengers (1987)
Justice For All!
เรื่องโดย : Roger Stern
ภาพโดย : Marc Silvestri, Joe Rubinstein, Christie Scheele
วางจำหน่าย : 1 เมษายน 1987
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
ในขณะที่ทีมซูเปอร์ฮีโร่ของรัสเซียก็ต้องการตัวแมกนีโต้ไปดำเนินคดีเช่นกัน
เหล่าเอ็กซ์เม็นจึงต้องต่อสู้กับทั้งสองฝ่ายเพื่อปกป้องพวกพ้องของพวกเขา!!
The X-Men vs The Avengers (1987)
Justice For All!
เรื่องโดย : Roger Stern
ภาพโดย : Marc Silvestri, Joe Rubinstein, Christie Scheele
วางจำหน่าย : 1 เมษายน 1987
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
เปิดเรื่องมาในวันเสาร์ เวลา 12:30 น. เหนือท้องฟ้าแมนส์ฟิลด์ โอไฮโอช็อปปิ้งพลาซ่า กัปตันอเมริกา (Captain America) และดอกเตอร์ดรุย (Doctor Druid) สองฮีโร่ผู้ทรงพลังที่สุดในโลกลงมาจากยานอะเวนเจอร์ควินเจ็ท (Avengers Quinjet)
Captain America : คุณตรงนั้นนะ!ใครเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยที่นี่ ?
ตำรวจ : ผะ-ผะ-ผมคิดว่าผมเองนี่แหละครับ กะ-กะ-กะ-- ?
คุณตำรวจถึงกับตกอกตกใจพูดติดอ่างเมื่อได้เจอกับกัปตันอเมริกาตัวเป็นๆ
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
Captain America : ตั้งสติให้อยู่กับเนื้อกับตัวหน่อย พ่อหนุ่ม! เรามีสถานการณ์ฉุกเฉินที่นี่... เราต้องอพยพผู้คนในห้างและที่ลานกว้างในทีเดียว
กัปตันไปโบกรถบัสคันนึงให้จอด (คงตั้งใจจะให้รถรับคนจากห้างออกไปละมั๊ง) ส่วนทางด้านดอกเตอร์ดรุยก็ใช้เวทย์ของเขาสะกดจิตขาช็อปทั้งหลายให้รีบออกไปจากห้างแห่งนี้ทันที
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : ดอกเตอร์ดรุยนี่รู้สึกว่าเมื่อก่อนพี่แกจะเป็นจอมเวทย์ของอะเวนเจอร์แต่หลังๆก็โดนดอกเตอร์เสตรนจ์ที่ได้รับความนิยมมากกว่าขึ้นมาแทนที่ แถมยังเป็นหมอเหมือนกันด้วย แต่ดรุยเป็นจิตแพทย์ส่วนเสตรนจ์เป็นศัลยแพทย์ครับ แต่ตอนนี้พี่แกก็ตายไปแล้วล่ะนะ แต่ตายได้ไงผมก็ไม่รู้ ปัจจุบันลูกชายพี่แกใช้ชื่อว่าเดอะดรุย (The Druid) แล้วก็เป็นสมาชิกของทีมซีเคร็ทวอริเออร์ (Secret Warriors) ของนิคฟิวรี่ (Nick Fury) ด้วยนะ
ซึ่งเหตุฉุกเฉินที่ว่านั่นก็คือเศษอุกาบาตจำนวนมากที่เกิดจากการแตกตัวของอุกาบาตขนาดใหญ่ตามที่แบล็คไนท์ทำการคำนวนเอาไว้นั่นเอง โดยผู้ที่ออกไปรับมือกับอุกาบาตพวกนี้ก็คือผู้ที่ใช้ชื่อกัปตันมาร์เวลในตอนนั้น หรือ โมนิก้า แรมโบ (Monica Rambeau) โดยเธอใช้พลังของเธอเพื่อทำลายดาวตกขนาดใหญ่ให้แตกกระจายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ พอที่มันจะเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลกและสลายไปหมดก่อนจะถึงพื้นโลก แต่เนื่องจากเศษอุกาบาตมีจำนวนมากทำให้เธอไม่สามารถทำลายมันได้หมด จนเศษอุกาบาตชิ้นหนึ่งหลุดรอดผ่านเธอไป แต่ทันใดนั้นค้อนอันหนึ่งก็พุ่งมาทำลายอุกาบาตชิ้นนั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้น้อยไปในทันที
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : โมนิก้า แรมโบ เป็นหญิงสาวผิวสีผู้ได้รับพลังจากต่างมิติโดยอุบัติเหตุทำให้เธอสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นพลังงานในรูปแบบใดก็ได้แม้แต่แสง ในตอนนั้นเธอเป็นหนึ่งในอะเวนเจอร์ที่มีพลังสูงมาก และเคยเป็นถึงผู้นำทีมอยู่หลายครั้ง แต่หลังจากนั้นเธอได้สูญเสียพลังไปจนหมดในการต่อสู้หนึ่ง แม้ว่าหลังจากนั้นเธอจะค่อยๆได้รับพลังคืนมาแต่ก็ไม่เหมือนเดิมและนั่นก็ทำให้เธอต้องถอนตัวออกมาเป็นอะเวนเจอร์สำรองแทน และต่อมาเธอก็เปลี่ยนมาใช้ฉายาโฟตอน หลังจากที่เจนิส-เวล (Genis-Vell) ลูกชายของกัปตันมาร์เวลคนแรกมาเข้าร่วมทีมอะเวนเจอร์และใช้ฉายาว่ากัปตันมาร์เวลตามพ่อของเขา หลังจากนั้นเธอก็ยังเปลี่ยนฉายาเป็นพัลซาร์ (Pulsar) และสเปคตรัม (Spectrum) อีกด้วย โดยสถานะปัจจุบันเธอเข้าร่วมทีมอะเวนเจอร์ผู้ทรงพลัง (Mighty Avengers) ที่น่าจะเรียกว่าเป็นทีมอะเวนเจอร์ผิวสีของลุคเคจ (Luke Cage) เพราะทั้งทีมมีแต่สมาชิกผิวสีทั้งนั้น โดยเธอเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการกับชูม่า-โกราธ (Shuma-Gorath) ในช่วงอีเวนต์อินฟินิตี้ที่ทานอสยกทัพมาบุกโลกอีกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เทพเจ้าสายฟ้าของเรา ธอร์ (Thor) นั่นเอง (ชุดพี่ยุคนี้นี่เห่ยมากๆเลยนะครัช) พี่แกก็โผล่มาช่วยกัปตันมาร์เวลทำลายเศษอุกาบาต แต่เศษอุกาบาตที่ถูกธอร์ทำลายก็เกือบจะไปพุ่งชนยานควินเจ็ทที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่กี่ร้อยหลาเข้า แต่ยานก็สามารถปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาทำลายมันได้ทัน
ซึ่งผู้บังคับยานก็คือแบล็คไนท์ (Black Knight) และชีฮัลค์ (She-Hulk) นั่นเอง ซึ่งเธอก็บ่นว่าอยากออกไปทำลายพวกอุกาบาตนี้ด้วยตัวเองได้อย่างพวกธอร์และกัปตันมาร์เวล แต่บ่นได้ไม่ทันไร ยานก็ถูกอุกาบาตขนาดยักษ์พุ่งชนเข้าชนจนได้ กัปตันมาร์เวลจึงบอกให้ธอร์ไปคอยช่วยพวกเขา
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : แบล็คไนท์ หรือ เดน วิทแมน (Dane Whitman) เป็นทั้งนักฟิสิกส์และนักดาบฝีมือดี ปัจจุบันเค้าอยู่กับทีมเอ็กซ์คาลิเบอร์ (Excalibur) ในอังกฤษครับ
ส่วนกัปตันมาร์เวลก็ลงมายังพื้นดินเพื่อเตือนให้กัปตันเคลียร์คนออกไป เผื่อว่าธอร์ไม่สามารถหยุดยานควินเจ็ทที่กำลังจะตกเอาไว้ได้ แต่ธอร์ก็สร้างพายุขนาดย่อมๆด้วยการควงมโยเนียร์ชะลอความเร็วในการตกกระแทกพื้นของยานควินเจ็ทเอาไว้ได้ ทำให้แบล็คไนท์และชีฮัลค์ออกจากยานมาได้อย่างปลอดภัย
แล้วชีฮัลค์ก็โชว์เมพด้วยการยกเศษอุกาบาตที่พุ่งชนยานออกไป ทางด้านเจ้าหน้าที่จากสภาความมั่นคงแห่งชาติก็เดินเข้ามาคุยกับกัปตันมาร์เวลเกี่ยวกับเรื่องของอุกาบาต ซึ่งเธอและแบล็คไนท์ก็บอกว่าจากการตรวจสอบของพวกเขาจะมีอุกาบาตตกลงมาทั้งหมด 2 ลูกซึ่งลูกแรกก็คือที่พวกเขาทำลายทิ้งไปส่วนอีกลูกนึงน่าจะตกลงในเขตห่างไกลผู้คนของกัมพูชา แต่ในขณะที่พูดแบล็คไนท์ก็รู้สึกว่าเศษอุกาบาตนี้มีบางอย่างแปลกๆ
เขาจึงทดลองใช้อีโบนี่ซอร์ด (Ebony Sword) ฟันเศษอุกาบาตออก ซึ่งก็ปรากฎว่าเศษที่แตกออกพุ่งเข้าไปหาโลหะที่อยู่ใกล้กันทันที กัปตันอเมริกายังบอกว่าเศษอุกาบาตพวกนี้ยังดูเหมือนเป็นชิ้นส่วนเหล็กของอะไรซักอย่างมากกว่า ทำให้เจ้าหน้าที่จากสภาความมั่นคงแห่งชาติดูจะพอใจมากและบอกว่าพวกอะเวนเจอร์ได้ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ชาติแล้ว และเขาแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะบอกเรื่องนี้แก่พวกรัสเซีย ทำเอาพวกอะเวนเจอร์ที่ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรทำหน้างงกันเป็นแถบๆ
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาที่สหภาพโซเวียต (Soviet Uniuon) (ซึ่งหมายถึงรัสเซียในยุคนั้น) เกิดเหตุการณ์รถไฟชนกันเนื่องจากระบบสลับรางเกิดขัดข้องขึ้นมา
ในปี 1987 ที่คอมมิคเล่มนี้ตีพิมพ์ สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลายครับ บางทีเราก็เรียกว่ารัสเซียแทนชื่อสหภาพโซเวียต โดยการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเกิดขึ้นในปี 1991 (พ.ศ. 2534) และมีการแยกประเทศออกมาเป็นรัสเซีย ยูเครน อุซเบกิสถาน และประเทศอื่นๆ รวม 15 ประเทศ
เหล่าสุดยอดทหารของโซเวียต (Soviet Super-Soldiers) ซึ่งประกอบไปด้วยแวนการ์ด (Vanguard) ดาร์คสตาร์ (Darkstar) ไทเทเนียมแมน (Titanium Man) และเออร์ซ่าเมเจอร์ (Ursa Major) จึงออกปฏิบัติการทันที (ฉากเปิดตัวนี่ฮีโร๊ฮีโร่มากๆ เหาะกันมาแผงอย่างกับอุลตร้าแมนเลยทีเดียว)
แวนการ์ดผู้ถือเคียวและค้อนอันเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพโซเวียตเป็นอาวุธ (สร้างสรรค์สุดๆ ขอบคุณพระเจ้าที่หลังจากนี้มาร์เวลเปลี่ยนคอสตูมและอาวุธให้พี่แกซะใหม่) ใช้พลังของเขาหยุดรถไฟที่พุ่งเข้ามาเอาไว้ได้ แต่การหยุดรถที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงกะทันหันทำให้เกิดแรงเฉื่อยและทำให้ขบวนรถไฟพลิกคว่ำและน้ำมันกระฉอกออกมาและทำท่าจะระเบิด
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : แวนการ์ดเป็นหัวหน้าทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์ เขาเป็นมนุษย์กลายพันธ์ผู้มีความสามารถในการต้านทานพลังงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานจลน์ หรือแม้แต่แรงโน้มถ่วง ที่พุ่งตรงเข้าสู่ตัวเขาให้หยุดลงได้
ดาร์คสตาร์ จึงใช้พลังของเธอจำกัดการระเบิดเอาไว้ได้ ทางด้านไทเทนี่ยมแมนก็เหาะไปพาเหล่าคนงานออกมาจากกองไฟและยิงพลังใส่แทงค์น้ำที่อยู่ใกล้ๆ ให้น้ำไหลมาช่วยดับไฟ ทางด้านเออร์ซ่าเมเจอร์ก็ใช้พลังของเขายกตู้รถไฟขึ้นมา แต่มีเสียงหนึ่งเรียกเขามาจากด้านหลัง
??? : ขอให้ชั้นช่วยเถอะนะ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : ดาร์คสตาร์เป็นลูกพี่ลูกน้องของแวนการ์ด เธอเป็นสาวกลายพันธ์ผู้มีพลังดาร์คฟอร์ซ (Darkforce เป็นชื่อของพลังสมมติในจักรวาลมาร์เวล มีที่มาจากมิติซึ่งเรียกว่าดาร์คฟอร์ซไดเมนชั่น ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งที่คล้ายๆกับเนกาทีฟโซนนั่นแหละ)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : ไทเทเนียมแมน เป็นชื่อของชุดเกราะที่สหภาพโซเวียตสร้างขึ้นโดยบอริส บูลสกี้ (Boris Bullski) อดีตเคจีบีและอดีตเพื่อนร่วมงานของแบล็คไวโดว์ (Black Widow) หลังจากที่โทนี่ สตาร์คเปิดเผยไอร่อนแมน (Iron Man) ในฐานะบอดี้การ์ดของเขาแก่สาธารณชน (ตอนนั้นสตาร์คยังไม่เปิดเผยว่าตัวเองคือไอร่อนแมนครับ) สหภาพโซเวียตตั้งใจจะแสดงความเหนือกว่าอเมริกาโดยการสร้างไทเทเนียมแมนซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งกว่าเหล็กของไอร่อนแมน (ไอร่อนแมนในยุคแรกนั้นยังทำจากเหล็กล้วนๆครับ แต่ในปัจจุบันทำจากโลหะผสมหลายชนิดซึ่งรวมทั้งไทเทเนี่ยมด้วย) ในตอนนี้บอริส บูลสกี้นั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : เออร์ซ่าเมเจอร์เป็นสมาชิกคนแรกของทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์ เป็นมนุษย์กลายพันธ์ผู้มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นหมีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพโซเวียตนั่นเอง
เจ้าของเสียงก็คือผู้ครอบครองชุดเกราะคริมสัน ไดนาโม (Crimson Dynamo) เป็นคนที่ 5 หรือ ดิมิทรี่ บัคคาริน (Dmitri Bukharin) อดีตเคจีบีนั่นเอง
Crimson Dynamo : ชั้นดีใจที่นายยังรู้ว่านี่เป็นชุดเกราะใหม่ของชั้นนะ สหาย
Ursa Major : แกไม่ใช่ "สหาย" ของพวกเรา! แกเป็นเคจีบี!
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์กับเคจีบีถึงไม่ถูกคอกันนะครับ ทั้งๆที่เคจีบีก็เป็นหน่วยงานของสหภาพโซเวียต
Crimson Dynamo : ชั้นอาจจะทำงานให้กับความมั่นคงของรัญแต่ชั้นก็ยัง... อ๊ะ ? ไทเทเนียมแมน ? แต่ในรายงานบอกว่านายตายไปแล้วนี่นา
ทันใดนั้นชุดเกราะของไทเทนียมแมนก็เปิดออก เผยให้เห็นชายหัวล้านตัวเล็กคนหนึ่งอยู่ข้างในนั้น เขาก็คือเกรมลิน (Gremlin) หรือ คอนดราติ ยูริวิค โทโปลอฟ (Kondrati Yurivich Topolov) นั่นเอง
Gremlin : ค่อยอุ่นใจหน่อยที่ได้รู้ว่าเคจีบีไม่ได้รู้ไปหมดทุกเรื่องนะ ใช่แล้ว! ไดนาโม ชุดเกราะไทเทนียมแมนใหม่นี้คือผลงานสร้างสรรค์ของชั้นเอง
ถึงจะไม่เป็นที่ต้อนรับของทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์แต่คริมสันไดนาโมก็ขอให้พวกเขาลืมความบาดหมางในอดีตไปก่อนเพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่จะขอให้ทีมช่วยเกี่ยวกับอุกาบาตที่เพิ่งถูกตรวจพบว่าตกผ่านน่านฟ้าโซเวียตไป โดยเขาบอกว่านี่คือโอกาสในการล้างแค้นให้กับชาวโซเวียตที่ต้องตายไป ทำให้พวกโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์ตัดสินใจที่จะรับฟังสิ่งที่คริมสันไดนาโมจะพูด
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : เกรมลินเป็นลูกชายของกากอยล์ (Gargoyle) นักวิทยาศาสตร์โซเวียตซึ่งเกิดการกลายพันธ์จากรังสีและเป็นศัตรูคนแรกของฮัลค์ (Hulk) ในคอมมิค เกรมลินจึงเกิดมาเป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่มีสติปัญญาในระดับสูง
ทางด้านเอ็กซ์เม็นก็มาพักผ่อนกันอยู่ที่อ่าวเล็กๆแห่งหนึ่งในชายฝั่งแอตแลนติก สาวๆ ประกอบไปด้วยสตอร์ม (Storm) (นี่เจ๊ไว้ผมโมฮอร์คตั้งแต่ปี 1987 แล้วหรอเนี่ย!?) แดซเลอร์ (Dazzler) โร้ก (Rogue) (ทำไม๊หนูถึงใส่เสื้อยืดอยู่คนเดียวละ คนอื่นเค้าถอดเหลือแต่บิกินี่กันหมด) ส่วนหนุ่มๆ ก็มีป๋าวูล์ฟ (Wolverine) และตัวปัญหาของซีรีย์นี้ ป๋าเอริค หรือน้องแม็ก เอ๊ย แมกนีโต้ (Magneto) ของเรานี่เอง
ในขณะที่เอ็กซ์เม็นคนอื่นๆกำลังพักผ่อน ฮาวอค (Havok) ก็แยกตัวออกมาระบายอารมณ์ เพราะเค้ารู้สึกไม่พอใจที่ทุกคนในทีมยอมรับอดีตอาชญากรและศัตรูตัวร้ายอย่างแมกนีโต้มาเข่าร่วมทีมด้วยนั่นเอง ทำให้เค้านึกถึงพี่ชายของเขา สก็อต ซัมเมอร์ หรือ ไซคลอปส์ (Cyclops) ที่แยกตัวออกไปจากทีม (ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมไซคลอปส์ถึงแยกตัวออกไปนะครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเอ็กซ์เม็นตอนเก่าๆเหมือนกัน ใครรู้วานคอมเมนท์บอกที)
สตอร์มที่ได้ฟังข่าวจากทีวีเรื่องอุกาบาตตกในโอไฮโอซึ่งพวกอะเวนเจอร์หยุดยั้งเอาไว้ได้ พอข่าวรายงานถึงธอร์ ก็ทำให้เธออดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าพลังของเธอกลับคืนมา ระหว่างเธอกับธอร์ใครจะเป็นผู้ควบคุม ลม ฝน และสายฟ้าได้ดีกว่ากัน ก่อนจะโดดลงไปว่ายน้ำป๋อมแป๋มต่อ (อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าพลังของสตอร์มหายไปได้ยังไงนะครับ ใครรู้ก็วานคอมเมนท์บอกหน่อยนะ)
ส่วนทางด้านแมกนีโต้ที่ยินฟังข่าวต่อ ได้ยินข่าวพูดถึงเศษอุกาบาตที่แผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผิดปกติออกมา และอาจจะมีชิ้นส่วนอุกาบาตชิ้นอื่นที่ไปตกในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงแอบกลับไปใช้คอมพิวเตอร์ในยานแบล็คเบิร์ดเพื่อตรวจสอบจุดที่คาดว่าอุกาบาตจะตกว่าอยู่ในกัมพูชา และเขาคิดว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ และคิดที่จะไม่ให้เอ็กซ์เม็นเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้เพราะกลัวพวกเอ็กซ์เม็นจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขาเนื่องจากอาชญากรรมในอดีตที่เขาเคยก่อขึ้นมา เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเพียงลำพัง แต่ป๋าวูล์ฟก็แอบเห็นพอดี ป๋าวูลฟ์จึงเปิดสัญญาณเรียกรวมพลเอ็กซ์เม็นคนอื่นๆให้กลับมาที่ยานแบล็คเบิร์ด (ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงโทรศัพท์เรียกเอาก็ได้ ไม่ต้องเปิดสัญญาณเรียกให้หนวกหูอ่ะนะ)
เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน ป๋าวูล์ฟจึงบอกว่าแมกนีโต้จากไปแล้ว และจากการตรวจสอบของเขาพบว่าแมกนีโต้ออกไปตามหาเศษอุกาบาตที่ตกลงมาบนโลก และเขาคาดว่ามันน่าจะเป็นเศษชิ้นส่วนของแอสเตอร์นอยด์เอ็ม (Asternoid M) ซึ่งป๋าวูล์ฟกังวลว่าชิ้นส่วนที่ตกลงมานั้นมีขนาดใหญ่มากพอที่อาจจะมีอุปกรณ์เก่าๆของแมกนีโต้หลงเหลืออยู่ข้างในนั้นก้ได้
Rogue : แล้วนั่นเป็นเหตุผลให้ต้องกังวลเหรอ ?
Wolverine : ชั้นคิดว่ายังงั้นแหละ ตอนที่เขาปฏิบัติการอยู่บนแอสเตอร์นอยด์เอ็ม แมกนีโต้แทบจะควบคุมโลกได้ ถ้าเขาได้ครอบครองอุปกรณ์พวกนั้นอีกที... ใครจะไปรู้ว่าเขาจะทำอะไรกับมันบ้าง ?
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : แอสเตอร์นอยด์เอ็ม เป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกแมกนีโต้ดัดแปลงให้เป็นสถานีอวกาศในสมัยที่เขายังเป็นวายร้ายอยู่ครับ โดยมันถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง รู้สึกว่าครั้งล่าสุด (ก่อนเหตุการณ์ในเล่มนี้) มันถูกทำลายโดยวอร์ล็อค (Warlock) ตอนที่เขาหลบหนีมายังโลกครับ
ทางด้านอะเวนเจอร์ก็กำลังประชุมกันอยู่ที่ ไฮโดรเบส (Hydrobase) โดยกัปตันอเมริการบอกว่าเขาได้ข่าวจากแหล่งข่าวส่วนตัว (พี่มีแหล่งข่าวส่วนตัวด้วยเราะ ?) ว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติคิดว่าเศษอุกาบาตที่ตกลงมาเป็นชิ้นส่วนของแอสเตอร์นอยด์เอ็มของแมกนีโต้และทางซีไอเอได้ร่วมมือกับเคจีบีปล่อยข้อมูลเพื่อที่จะหลอกแมกนีโต้ให้ไปติดกับเพื่อที่จะหาทางกำจัดแมกนีโต้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : ไฮโดรเบส เป็นเกาะเทียมลอยน้ำที่สร้างขึ้นโดยสติงเรย์ (Stingray) นักสมุทรศาสตร์และซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งเขาใช้เป็นสถานที่วิจัยสมุทรศาสตร์ ต่อมาเมื่ออะเวนเจอร์แมนชั่นถูกพวกมาสเตอร์ออฟอีวิล (Masters of Evil) โจมตี เขาจึงยกไฮโดรเบสให้เป็นฐานชั่วคราว และถูกเรียกว่าอะเวนเจอร์ไอส์แลนด์ (Avengers Island) ซึ่งต่อมามันถูกทำลายโดยดอกเตอร์ดูม (Doctor Doom) และจมลงสู่ก้นทะเล ปัจจุบันมันถูกใช้เป็นที่นัดพบของเหล่าอิลูมินาติ (Illuminati) ในบางโอกาส
และก็มีการย้อนความถึงอาชญากรรมต่างที่แมกนีโต้เคยก่อไว้ในอดีต (ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็คลิ๊กที่รูปแล้วอ่านเอาเองนะ) ซึ่งกัปตันอเมริกาก็บอกว่านั่นก็มากพอที่จะตัดสินให้ขังแมกนีโต้ไว้ตลอดชีวิตได้แล้ว แต่ชีฮัลค์ซึ่งเป็นทนายก็เห็นด้วย ยกเว้นเสียแต่ว่าศาลโลกมองว่าการที่แมกนีโต้กลับไปเป็นทารกนั้นเป็นการถือกำเนิดใหม่ของเขาและทำให้อาชญากรรมต่างๆก่อนหน้านั้นของเขาถือเป็นโมฆะ ซึ่งกัปตันก็บอกว่านั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ ที่ไม่มีศาลไหนกล้าตัดสินความผิดของแมกนีโต้ เพราะหลังจากอะไรที่เรียกว่า "การถือกำเนิดใหม่" ของแมกนีโต้แล้ว แมกนีโต้ก็ยังคงมีการก่ออาชญากรรมอีกอยู่ดี
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : เรื่องที่แมกนีโต้กลายเป็นทารกนี่ เท่าที่ผมค้นข้อมูลมาคือเขาถูกอัลฟ่า (Alpha The Ultimate Mutant) มนุษย์กลายพันธ์ที่เขาสร้างขึ้นมาเองทำให้เขาและเหล่าภราดรภาพแห่งมนุษย์กลายพันธ์ผู้ชั่วร้าย (Brotherhood of Evil Mutants) กลายเป็นทารกไป และเขากลับมาเป็นปกติได้โดยความช่วยเหลือจากมนุษย์ต่างดาวเผ่าชิอะร์ (Shi'ar) ครับ ใครที่รู้ละเอียดๆ ก็คอมเมนท์มาบอกเล่ากันหน่อยนะ
และอาชญากรรมล่าสุดที่แมกนีโต้ก่อคือการจมเรือดำน้ำรัสเซียทำให้ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิตและใช้พลังในการควบคุมสนามแม่เหล็กทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดที่เมืองวารีคิโน (Varykino) และทำลายทั้งเมืองย่อยยับ และนั่นคือสาเหตุที่คริมสันไดนาโมต้องการความช่วยเหลือจากทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์เพื่อล้างแค้นแมกนีโตเพื่อชาวโซเวียตที่ตายไปจากเหตุการณ์นี้่นั่นเอง แม้แต่ชีฮัลค์ก็ยังพูดว่าบางทีอะเวนเจอร์ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้และปล่อยให้พวกโซเวียตจัดการกับแมกนีโต้ไปซะ แต่กัปตันมาร์เวลไม่เห็นด้วยเพราะมันจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาระหว่างมนุษย์และมนุษย์กลายพันธ์ กัปตันอเมริกาก็เห็นด้วยกับเธอและคิดว่าควรจะจับตัวแมกนีโต้มาเพื่อขึ้นศาลโลกมากกว่า
ที่กัมพูชา ในขณะที่แมกนีโต้กำลังตามหาจุดที่อุกาบาตตกอยู่นั้น ประกายแสงกลุ่มหนึ่งก็สาดส่องตรงหน้เขาจนตาพร่ามัว และแสงเหล่านั้นก็รวมตัวกันเป็นกัปตันมาร์เวลปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา
Captain Marvel : อย่าได้ไปไหนทั้งนั้นแมกนีโต้! ในนามของสหรัฐ นายอยู่ภายใต้การจับกุมแล้ว ยอมจำนนซะ จะได้ไม่ต้องมีการใช้กำลังโดยไม่จำเป็น
แต่มีหรือที่ป๋าแมกจะยอมให้จับง่ายๆ เขาใช้พลังเรียกแร่เหล็กใต้พื้นดินขึ้นล็อคตัวกัปตันมาร์เวลไว้ทันที แต่ปรากฎว่านั่นเป็นเพียงภาพโฮโลแกรมที่เธอสร้างขึ้นมาเท่านั้น ก่อนจะตามมาด้วยสายฟ้าของธอร์ และเหล่าอะเวนเจอร์คนอื่นๆที่เข้ามาสมทบ
ถึงจะถูกล้อมด้วยเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ป๋าแม็กก็ยังไม่ยอมแพ้ แต่ขณะที่กำลังจะฮึดสู้ ดอกเตอร์ดรุยก็ใช้เวทย์มนต์เพื่อจะทำให้เขาสงบลง ก่อนที่แบล็คไนท์จะนำกุญแจมือที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อควบคุมพลังของแมกนีโต้มาใส่ แต่มันก็ถูกทำลายไปซะก่อนด้วยพลังของแดซเลอร์ และทีมเอ็กซ์เม็นที่ตามมานั่นเอง
Wolverine : ถ้าแกมีปัญหากับแมกนีโต้ก็เท่ากับแกมีปัญหากับพวกเรา ปล่อยเขาไปซะ!
Captain Marvel : ไม่ แมกนีโต้เป็นนักโทษของเรา... นักโทษภายใต้การคุ้มครองของเรา!
Captain America : ถอยไปวูลฟ์เวอรีน อย่าพยายามทำอะไรโง่ๆ!
Wolverine : คนที่จะทำอะไรโง่ๆ มีแต่เจ้าพวกที่มาขวางทางชั้นเท่านั้นแหละ อยากจะลองวัดดวงดูหน่อยมั๊ยล่ะ ?
ป๋าวูล์ฟกางกรงเล็บอะดาแมนเทียมของเขาออกมาเตรียมเปิดศึก แต่ยังไม่ทันไร เขาและดอกเตอร์ดรุยก็สัมผัสได้ถึงการมาเยือนของคนอีกกลุ่มนึง เหล่าโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์และคริมสันไดนาโมมาถึงแล้ว!!
Titanium Man : คำเตือนถึงเจ้าพวกที่มาก้าวก่าย อย่าพยายามที่จะหลบหนี พวกเรามาเพื่อนำตัวแมกนีโต้ไป ส่งเขามาให้เรา และจะได้ไม่มีใครต้องเป็นอันตราย
Captain Marvel : ชั้นจะพูดซ้ำอีกเป็นครั้งสุดท้ายนะ... แมกนี้โต้เป็นนักโทษของอะเวนเจอร์ พวกเราตั้งใจที่จะให้เขาได้รับการพิจารณาคดีสำหรับอาชญากรรมที่เขาก่อ
Dark Star : นิโคไล ถ้าหากพวกอะเวนเจอร์พูดยังงั้นละก็-- ?
Vanguard : ไม่ เลย์เนีย เราต้องทำให้มั่นใจว่าแมกนีโต้จะได้ชดใช้อาชญากรรมที่เค้าก่อกับประชาชนของเรา
Captain America : ประเทศของพวกนายได้รับความโศกเศร้าอย่างรุนแรงจากชายคนนี้ แล้วทำไมถึงไม่มาร่วมมือกับพวกเราเพื่อนำเขาไปขึ้นศาลโลกล่ะ
Crimson Dynamo : ไม่! ส่งแมกนีโตมาให้พวกเราหรือไม่พวกเราจะจับกุมพวกนายทุกคนในข้อหาให้ที่พักแก่ฆาตกรสังหารหมู่!
Wolverine : ชั้นไม่ชอบน้ำเสียงแกเลยนะ พวก!
She-Hulk : ทนไว้ที่รัก! พวกเราจะจัดการเรื่องนี้เอง
Vanguard : ผู้หญิงคนนั้นทำท่าจะโจมตีแล้ว!
Vanguard : เตรียมตอบโต้ สหาย!
Crimson Dynamo : ความยุติธรรมแด่ประชาชน! ความตายแด่แมกนีโต้!
เหล่าโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์เตรียมปะทะกับอะเวนเจอร์แล้ว
จบเล่ม 1.
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายเล่ม
คอมมิคเล่มนี้เป็นเล่มแรกๆเลยที่ผมอ่าน ตอนที่เพิ่งเริ่มอ่านคอมมิคใหม่ๆ คือไม่ใช่ผมอ่านคอมมิคมาตั้งแต่ปี 1987 นะ ผมเริ่มอ่านคอมมิคตอนปลายปี 2013 เนี่ยแหละ เริ่มด้วยอีเวนต์ Avengers vs. X-Men ก่อนเลย หลังจากนั้นผมเลยลองไปค้นดูว่าก่อนหน้านี้อะเวนเจอร์กับเอ็กซ์เม็นเคยตีกันมาก่อนหน้าอีเวนต์นั้นมั๊ย จนมาเจออีเวนต์นี้เข้า ก็เลยลองอ่านดูซึ่งก็สนุกดีตรงที่ได้พบกับตัวละครแปลกๆ ที่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีบทบาท หรือ ถูกลดบทบาทลงไป (อย่างเช่นดอกเตอร์ดรุยที่ตอนนี้ตายไปแล้ว หรือแบล็คไนท์ ชีฮัลค์ และโมนิก้า แรมโบ ที่เป็นอะเวนเจอร์ทีมหลักในอีเวนท์นี้ ปัจจุบันก็ถูกลดบทบาทลงไป ซึ่งก็เป็นเรื่องของกระแสความนิยมในแต่ละยุคละน่ะ รวมถึงไม่ได้เห็นฮีโร่ตัวหลักๆของอะเวนเจอร์ในปัจจุบันอย่างไอร่อนแมนเลย ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าในช่วงเวลาของอีเวนต์นี้เฮียโทนี่แกหายไปอยู่ไหนเหมือนกัน) ทำให้ตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการทำสปอยล์เล่มนี้ แต่ปรากฎว่าใช้เวลานานกว่าที่คิดเพราะผมอยากเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับข้อมูลตัวละครคนอื่นๆ ที่ปรากฎในเล่มนี้ เช่น ทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์ ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันมากขึ้นด้วย ก็เลยเสียเวลาตรงนี้ไปพอสมควร แต่ก็หวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบกันนะครับ
ซีรีย์นี้ยังเหลืออีก 3 เล่ม ซึ่งเล่มต่อจากนี้ผมคงจะสปอยล์แบบสรุปสั้นๆแล้ว รวมถึงสปอยล์เรื่องอื่นๆที่จะทำต่อจากนี้ด้วย เพราะผมเองรู้สึกว่าตั้งแต่เริ่มทำเวบ Thai Spoil Comic นี้ขึ้นมา ทำให้มีเวลาพักผ่อนส่วนตัวน้อยลงไปเยอะเลย รวมถึงเวลาอ่านคอมมิคใหม่ๆ สำหรับตัวเองด้วย เพราะพอมีเวลาว่างก็เอามานั่งทำสปอยล์ซะจนหมด แทบไม่ได้อ่านคอมมิค หรือพาหมาไปเดินเล่นเลย ก็เอาเป็นว่าต่อไปจะพยายามทำสปอยล์ให้หลากหลายเรื่องมากขึ้น แต่อาจจะสปอยล์แบบย่อๆ ไม่ได้แปลละเอียดจนหมดอีกแล้ว (นอกจากบางเรื่องที่อยากทำจริงๆ) ถ้าใครอยากอ่านเพื่อเก็บใจความ ก็คลิ๊กที่รูปแล้วอ่านจากภาษาอังกฤษเอานะครับ
คอมมิคเล่มนี้เป็นเล่มแรกๆเลยที่ผมอ่าน ตอนที่เพิ่งเริ่มอ่านคอมมิคใหม่ๆ คือไม่ใช่ผมอ่านคอมมิคมาตั้งแต่ปี 1987 นะ ผมเริ่มอ่านคอมมิคตอนปลายปี 2013 เนี่ยแหละ เริ่มด้วยอีเวนต์ Avengers vs. X-Men ก่อนเลย หลังจากนั้นผมเลยลองไปค้นดูว่าก่อนหน้านี้อะเวนเจอร์กับเอ็กซ์เม็นเคยตีกันมาก่อนหน้าอีเวนต์นั้นมั๊ย จนมาเจออีเวนต์นี้เข้า ก็เลยลองอ่านดูซึ่งก็สนุกดีตรงที่ได้พบกับตัวละครแปลกๆ ที่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีบทบาท หรือ ถูกลดบทบาทลงไป (อย่างเช่นดอกเตอร์ดรุยที่ตอนนี้ตายไปแล้ว หรือแบล็คไนท์ ชีฮัลค์ และโมนิก้า แรมโบ ที่เป็นอะเวนเจอร์ทีมหลักในอีเวนท์นี้ ปัจจุบันก็ถูกลดบทบาทลงไป ซึ่งก็เป็นเรื่องของกระแสความนิยมในแต่ละยุคละน่ะ รวมถึงไม่ได้เห็นฮีโร่ตัวหลักๆของอะเวนเจอร์ในปัจจุบันอย่างไอร่อนแมนเลย ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าในช่วงเวลาของอีเวนต์นี้เฮียโทนี่แกหายไปอยู่ไหนเหมือนกัน) ทำให้ตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการทำสปอยล์เล่มนี้ แต่ปรากฎว่าใช้เวลานานกว่าที่คิดเพราะผมอยากเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับข้อมูลตัวละครคนอื่นๆ ที่ปรากฎในเล่มนี้ เช่น ทีมโซเวียตซูเปอร์โซลเยอร์ ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันมากขึ้นด้วย ก็เลยเสียเวลาตรงนี้ไปพอสมควร แต่ก็หวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบกันนะครับ
ซีรีย์นี้ยังเหลืออีก 3 เล่ม ซึ่งเล่มต่อจากนี้ผมคงจะสปอยล์แบบสรุปสั้นๆแล้ว รวมถึงสปอยล์เรื่องอื่นๆที่จะทำต่อจากนี้ด้วย เพราะผมเองรู้สึกว่าตั้งแต่เริ่มทำเวบ Thai Spoil Comic นี้ขึ้นมา ทำให้มีเวลาพักผ่อนส่วนตัวน้อยลงไปเยอะเลย รวมถึงเวลาอ่านคอมมิคใหม่ๆ สำหรับตัวเองด้วย เพราะพอมีเวลาว่างก็เอามานั่งทำสปอยล์ซะจนหมด แทบไม่ได้อ่านคอมมิค หรือพาหมาไปเดินเล่นเลย ก็เอาเป็นว่าต่อไปจะพยายามทำสปอยล์ให้หลากหลายเรื่องมากขึ้น แต่อาจจะสปอยล์แบบย่อๆ ไม่ได้แปลละเอียดจนหมดอีกแล้ว (นอกจากบางเรื่องที่อยากทำจริงๆ) ถ้าใครอยากอ่านเพื่อเก็บใจความ ก็คลิ๊กที่รูปแล้วอ่านจากภาษาอังกฤษเอานะครับ
Musashi
พวกนี้ตีกันบ่อยๆเพราะไม่คุยกันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วหรือนี่
ตอบลบขอบคุณที่แปลให้อ่านครับ สนุกมากขอบคุณครับ ติดตามผลงานอยู่นะครับ..
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
ลบขอบคุณสำหรับสปอยครับ
ตอบลบเกี่ยวกับพลังของสตรอม ถ้าจำไม่ผิดช่วงนั้นเธอถูกปืนสลายพลังมิวแทนส์ที่ Gyric ตั้งใจจะยิงโรคแต่ดันไปโดนเธอแทนครับ
โอ้! ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ
ลบเป็นกำลังให้ครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ลบรออ่านเล่ม 2 อยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบ