แครอลแยกทางกับพวกการ์เดี้ยนออฟเดอะกาแลคซี่และเดินทางต่อไปยังทอร์ฟา
ด้วยความตั้งใจที่จะพาทิคมาส่งและเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพในดาวดวงนี้
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาวนั้นไม่มีอะไรที่พลังของเธอจะช่วยเหลือได้เลย
Captain Marvel #3 (2014)
Higher, Further, Faster, More. Part Three
เรื่องโดย : Kelly Sue DeConnick
ภาพโดย : David Lopez, Lee Loughridge
วางจำหน่าย : 14 พฤษภาคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
ด้วยความตั้งใจที่จะพาทิคมาส่งและเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพในดาวดวงนี้
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาวนั้นไม่มีอะไรที่พลังของเธอจะช่วยเหลือได้เลย
Captain Marvel #3 (2014)
Higher, Further, Faster, More. Part Three
เรื่องโดย : Kelly Sue DeConnick
ภาพโดย : David Lopez, Lee Loughridge
วางจำหน่าย : 14 พฤษภาคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
ตอนก่อนหน้านี้ : การตื่นขึ้นมาของเหล่าผู้สร้าง (The Builders) ได้ทิ้งร่องรอยแห่งการทำลายดาวและวัฒนธรรมต่างๆ เหล่าผู้อพยพได้ย้ายถิ่นฐานไปยังทอร์ฟา (Torfa) ดาวที่เต็มไปด้วยพิษ เด็กสาวต่างดาวคนหนึ่งที่ชื่อ ทิค ได้เดินทางมายังโลกเพื่อขอความช่วยเหลือจากเดอะอะเวนเจอร์ และนั่นตกเป็นหน้าที่ของกัปตันมาร์เวลที่จะต้องนำเธอกลับบ้าน
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
แครอล เดนเวอร์ (Carol Danvers) หรือ กัปตันมาร์เวล (Captain Marvel) คลาดสายตาจากยานของเธอที่ถูกทิค (Tic) ขโมยไป แต่ทันใดนั้นยานของเธอก็ปรากฎขึ้นมาด้านหลังของเธอเอง
และยิงจู่โจมเธอทันที!! แต่พลาดไปโดนยานของพวกการ์เดี้ยนออฟเดอะกาแลคซี่ (Guardians of The Galaxy) แทน
Captain Marvel : นั่นมันบ้าอะไรนะ?!
Groot : ชั้นคือกรู้ท
Rocket Raccoon : เธอ (ทิค) หลบเข้าไปและโผล่ออกมาจากไฮเปอร์ไดรฟ์
Captain Marvel : ชั้นไม่เห็นรู้เลยว่ายานชั้นทำแบบนั้นได้ด้วย
Rocket Raccoon : มันก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาแบบนั้นหรอก
Rocket Raccoon : แม่สาวน้อยนั่นเทคนิคไม่เลวเลยล่ะ
Captain Marvel : ชั้นคงจั๊กจี๋พิลึกเลยล่ะถ้าเธอไม่ได้ใช้พรสวรรค์นั้นด้วยการพยายามจะฆาตกรรมชั้น นายสามารถอ่านค่าได้มั๊ยว่าที่ไหนที่คาดว่าเธอน่าจะปรากฎออกมาอีก ?
Groot : ชั้นคือกรู้ท
Star-Lord : ไม่ใช่คุณหรอก กัปตัน
Captain Marvel : ว่าไงนะ ?
Star-Lord : เป้าหมายเธอคือพวกเรา ไม่ใช่คุณ ไม่ว่าปัญหาของเธอกับสปาร์แท็ค (Spartax) จะเป็นอะไรก็ตาม เธอไม่ได้เข้าใจเลยว่าผมไม่ได้--
Captain Marvel : เฮ้ เธอโผล่มาอีกล่ะ
Captain Marvel : ร็อคเก็ตหยุดยิงก่อน!
Rocket Raccoon : ทำไมชั้นต้องทำงั้นด้วยล่ะ ?!
Captain Marvel : เพราะว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่และเธอกำลังสับสน
Captain Marvel : และเพราะว่านั่นมันยานชั้น--
Captain Marvel : --และแมวชั้นก็อยู่ในนั้น!
Captain Marvel : ถ้าชั้นสามารถเข้าใกล้ยานได้มากพอ คอมพิวเตอร์ในยานจะล็อคเข้ากับเครื่องส่งสัญญาณในหมวกชั้นและชั้นสามารถควบคุมยานได้อีกครั้ง
แต่ยังไม่ทันทำอะไร ทิคก็บังคับยานของแครอลพุ่งเข้าชนยานของพวกการ์เดี้ยนทันที แต่แครอลก็เอาตัวเองเข้าไปขวางไว้ได้ทัน
Drax : กัปตัน!
Rocket Raccoon : เจ็บแหงเลย
ภายในยานทิคกำลังเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายแครอลเลย
Tic : ไม่นะ ไม่ ไม่ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะ-- เธอหายไปไหนแล้ว?!
แต่แครอลไม่เป็นอะไรเลยซักนิด และตอนนี้เธอใช้เครื่องส่งสัญญาณในหมวกเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของยานได้แล้ว
Harrisson : จับคู่ถูกต้อง เชื่อมต่อได้ สวัสดีกัปตัน ดีใจจริงๆที่ได้ยินเสียงคุณอีก
Captain Marvel : ชั้นก็คิดถึงนายเหมือนกัน ฮาร์ริสสัน (ฮาร์ริสสันคือชื่อของคอมพิวเตอร์ในยานของแครอลครับ) ตอนนี้ปิดระบบควบคุมด้วยมือซะ ปิดล็อคห้องบังคับยานและเตรียมเปิดแอร์ล็อคหน่อยนะ...
Captain Marvel : คุณแม่กลับมาบ้านแล้ว
หลังจากยึดยานคืนมาได้ ทิคก็บอกว่าเป็นใครก็ต้องทำแบบนี้แหละ เพราะเจสันหรือราชาสปาร์แท็ค (J'son of Spartax) (เป็นพ่อของสตาร์ลอร์ด) พยายามบังคับให้พวกเธออพยพออกจากดาวทอร์ฟา เธอจึงคิดว่าถ้าเธอทำอะไรกับสตาร์ลอร์ดบ้าง เจสันจะได้เข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอซักที แต่สตาร์ลอร์ดกลับตอบว่าถ้าทำแบบนั้นมีแต่จะได้รับการ์ดขอบคุณแทนนะสิ (เพราะจริงๆแล้ว พ่อลูกคู่นี้ไม่ค่อยจะถูกกันนัก) และสตาร์ลอร์ดก็ยังข้องใจว่าอาณาจักรสปาร์แท็คจะต้องการอะไรจากดาวที่เต็มไปด้วยพิษอย่างทอร์ฟา บางทีเจสันอาจจะอยากช่วยชีวิตพวกทิคจริงๆก็ได้
ส่วนทิคที่พยายามอวดว่าตัวเองเป็นนักรบก็โดนแครอลเอ็ดว่าเธอไม่ใช่นักรบ เพราะนักรบที่แท้จริงจะไม่ฉวยโอกาสโจมตีลูกชายของศัตรูแบบที่ทิคทำหรอก จนทิคร้องไห้ออกมา
Star-Lord : คุณคงไม่ค่อยถูกกับพวกเด็กๆสินะ
Captain Marvel : ก็ไม่นะ แต่จริงๆแล้วบางครั้งชั้นก็เข้ากับพวกเขาได้นะ
Star-Lord : แต่ไม่ใช่ครั้งนี้
Captain Marvel : ไม่ใช่เอามากๆเลยแหละ
ส่วนแคร์รอลก็เข้าใจถึงสาเหตุที่ทิคแค้นราชาแห่งสปาร์แท็คนั้นเพราะว่าดาวของเธอถูกทำลายโดยเหล่าผู้สร้าง แม้แต่ยานของพวกผู้อพยพก็ยังถูกทำลายไปด้วย ทำให้พวกเธอต้องเร่รอนไปทั่วกาแลคซี่ แต่เมื่อสภาอวกาศให้พวกเธออพยพมายังทอร์ฟา ดาวที่พวกเธอจะเรียกว่าเป็นบ้านใหม่ได้ไม่นาน ผู้คนต่างล้มป่วยลงและสภาอวกาศก็ลงมติว่าพวกเขาคิดผิดที่อพยพพวกทิคมายังดาวดวงนี้และออกคำสั่งให้ย้ายพวกเขาอีกครั้ง (เจสันเป็น 1 ในสมาชิกระดับสูงของสภาอวกาศ)
สตาร์ลอร์ดบอกว่าอยากจะช่วยแต่เขาไม่สามารถเดินทางไปด้วยได้ ซึ่งแครอลก็บอกว่าดีแล้ว เพราะถ้าสปาร์แท็คเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย บางทีการมีสตาร์ลอร์ดไปด้วยอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
สัปดาห์ครึ่ง หลังจากนั้น แครอลไปถึงทอร์ฟาและพยายามแนะนำตัวกับชายที่มีเขาแพะซึ่งเป็นคนบนดาวดวงนั้น
Captain Marvel : สวัสดีค่ะ กัปตันมาร์เวลแห่งโลก เดอะอะเวนเจอร์และสมาชิกสภาอวกาศ
แต่กลับโดนต่อยเปรี้ยงเข้าให้ซะงั้น จนเธอต้องพยายามระงับอารมณ์และทิคก็เข้ามาช่วยประคองเธอลุกขึ้น
Tic : กิล นี่ทิคไง! หนูพาเดอะอะเวนเจอร์มาด้วย!
ตาเขาแพะและคนบนดาวคนอื่นๆดีใจที่ได้เจอทิคอีกครั้ง ส่วนแครอลก็พยายามเข้าไปทักทายอีกรอบเพราะคิดว่าเมื่อกี้คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ก็โดนต่อยเปรี้ยงเข้าอีกรอบ
จนเธอทนไม่ไหว ดีดตัวขึ้นมาจับตาเขาแพะกดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
แต่ก็มีมนุษย์ต่างดาวชราคล้ายกิ้งก่าปรากฎตัวขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน
??? : บอกข้าหน่อยซิ อะเวนเจอร์ว่านี่ใช่ประเพณีการทักทายทางการฑูตของที่ๆเจ้าจากมารึเปล่า ?
Tic : อีลีนนิเดส! (Eleanides) อีลีนนิเดส หนูกลับมาตามที่หนูบอกแล้ว!
Eleanides : ข้าเห็นแล้ว และเข้าก็ยินดีมากและนี่คงเป็นนักรบตามที่เจ้าสัญญาไว้... ?
Tic : ไม่ใช่ งี่เง่าน่า นี่คือกัปตันมาร์เวลนะ... หนูไปตามหาสไปเดอร์วูแมน (Spider-Woman) ต่างหากล่ะ
Captain Marvel : เดี๋ยวๆ ว่าไงนะ ? (เงิบเลยสิท่า)
Tic : แต่กัปตันมาร์เวลก็เป็นอะเวนเจอร์เหมือนกัน และหนูรู้ว่าเธอช่วยเราได้ มันจะต้องโอเคเหมือนที่หนูเคยพูดไว้
Eleanides : ลุกขึ้นได้แล้วเด็กน้อย มาให้ยายแก่คนนี้กอดหน่อย!
Tic : เอาเลยกัปตันบอกพวกเขาว่าเดอะอะเวนเจอร์มาอยู่นี่แล้ว ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
Captain Marvel : เอ่อ... งั้น... มันเป็นเกียรติที่ได้พบคุณค่ะ มาดาม... ประธานาธิบดี ? ชั้นไม่มั่นใจว่าคุณจะให้แทนตัวคุณว่าอะไร
แครอลยื่นมือออกไปให้จับ แต่ดูเหมือนอีลีนนิเดสจะเมินแครอลซะอย่างนั้นและขอให้ทิคไปทำอะไรให้เธอแทน
นั่นก็คือการให้ทิคกับกิล (Gil) หรือตาเขาแพะนั่นแหละให้ไปส่งฑูตจากสปาร์แท็ค (ที่น่าจะมาเจรจราเรื่องการอพยพ) กลับไปที่ยาน ฑูตสปาร์แท็คดูเหมือนจะไม่พอใจที่อีลีนนิเดสให้เด็กไปส่งเธอ แต่อีลีนนิเดสบอกว่าทิคไม่ใช่เด็กธรรมดาแต่เธอกล้าพูดได้ว่าทั้งวิจารญาณและสติปัญญาของทิคนั้นอยู่ระดับเดียวกับฑูตของสปาร์แท็คเลยทีเดียว และเมื่อให้ทิคไปส่งฑูตแล้ว อีลีนนิเดสจึงขอให้แครอลเดินคุยไปกับเธอ
Eleanides : เข้าใจกิลด้วยเถอะนะ ว่าเขามีเหตุผลที่ดีพอที่จะไม่เชื่อถือพวกสภาอวกาศ
Captain Marvel : ด้วยความเคารพนะค่ะ สภาอวกาศสู้กับพวกผู้สร้างซึ่งเป็นคนทำลายดาวบ้านเกิดของพวกคุณ สภาให้ดาวดวงนี้เป็นบ้านใหม่ของคุณในตอนที่พวกคุณไม่มีที่ไปแล้ว
Eleanides : ใช่ พวกเขาให้เรา และตอนนี้พวกเขากำลังจะชิงมันกลับไปด้วยกำลัง
คุยกันไปพลาง อีลีนนิเดสก็เก็บดอกไม้จากข้างทางมาให้แครอลช่วยถือ
Captain Marvel : มาดาม ถ้าสปาร์แท็คมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าพวกคุณไม่ปลอดภัยที่นี่ พวกคุณก็ไม่สามารถไปโทษพวกเขาได้หรอกนะค่ะ
Eleanides : พวกเราโทษพวกเขาไม่ได้งั้นเหรอ ?
Eleanides : ... ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ล่ะ ?
Captain Marvel : ชั้นมาส่งทิคกลับบ้านค่ะ
Eleanides : งั้นทำไมเจ้าถึงยังอยู่อีกล่ะ
Captain Marvel : เพราะว่าทิคผ่านเรื่องที่ไม่มีใครควรต้องเจอ โดยเฉพาะเด็กอายุขนาดเธอ และเธอออกเดินทางข้ามจักรวาลมาด้วยความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอนต่อคนของเธอ เพราะว่าทิคเชื่อว่าการให้ชั้นมาที่นี่อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง ชั้นคิดว่ายังงั้นนะค่ะ
Captain Marvel : ชั้นอยู่ที่นี่เพื่อช่วย
แครอลตอบไปอย่างมั่นใจเพราะเธอคิดว่าด้วยพลังของเธอจะต้องช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพในดาวทอร์ฟาได้แน่
แต่ดูเหมือนอีลีนนิเดสจะไม่คิดแบบนั้น
Eleanides : เจ้าพาหมอมาด้วยมั๊ย ? ยาล่ะ ? หรือยานอวกาศ ? กองกำลัง ? อาวุธ ? อะไรที่จะทำให้พวกเราพอจะมีอำนาจต่อรองกับพวกสปาร์แท็คและสภาอวกาศที่เหลือ บอกให้ข้าหยุดตอนที่ข้าพูดได้ใกล้เคียงนะ
Captain Marvel : ไม่ ชั้นไม่- ชั้น--
Eleanides : ไม่มีเหรอ ? เจ้า... เจ้าอะไรนะ ? เจ้าไม่ได้เอาอะไรพวกนี้มาเลย สำหรับเรื่องที่เจ้าพาเด็กหลงทางคนนึงที่พยายามจะเดินตามรอยพ่อที่ตายไปแล้วของเธอกลับมาให้ข้านั้น ข้าขอบใจมาก
Eleanides : แต่ที่เจ้ายังอยู่ที่นี่เพราะความจองหองของเจ้าที่เจ้าเชื่อว่าเจ้ามีความเข้าใจในสถานการณ์อันสลับซับซ้อนที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่วันนี้
Eleanides : เจ้าเชื่อว่าด้วยคำพูดสวยหรูไม่กี่คำ เจ้าอาจจะทำให้ข้าคิดว่าที่คนอื่นๆล้มป่วยลงเพราะยิ่งนานเท่าไหร่ที่พวกเราอยู่ในดาวนี้ยิ่งทำให้พวกเราต้องเสี่ยงกับสุขภาพของคนของพวกเรามากเท่านั้น แบบนั้นใช่มั๊ย ?
และคำพูดพวกนี้ดูเหมือนจะแทงใจดำแครอลจนถึงกับหน้าบึ้ง พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว (แถมยังแผ่แผงคอตอนพูดอีก ยิ่งสยองเข้าไปใหญ่)
หลังจากนั้นอีลีนนิเดสจึงพาแครอลมายังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่ของเหล่าคนป่วย ดอกไม้ที่เธอเก็บมาก็เพื่อเป็นดอกไม้เยี่ยมผู้ป่วยนั่นเอง
Eleanides : คามเจ็บป่วยเข้าเล่นงานคนของเราไปจำนวนมาก พวกเราเชื่อว่ามันเกิดจากพิษแต่ยังไม่รู้ที่มา ถ้าเรายังอยู่ที่นี่ต่อไป เราอาจจะสามารถหาแหล่งที่มาและสร้างยารักษาได้ แต่ถ้าเราอพยพออกไป คนป่วยพวกนั้นจะไม่สามารถไปกับพวกเราได้ และถ้าเราไปก็เท่ากับเราปล่อยให้พวกเขาตาย ข้าไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับเรื่องนั้น
Eleanides : แล้วเจ้าล่ะ ?
Captain Marvel : ไม่
Eleanides : ดี เพราะบางทีเจ้าอาจจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้อยู่
ที่แครอลเห็นอยู่เบื้องหน้าคือเตียงนอนของผู้ป่วยจากพิษในดาวทอร์ฟาจำนวนมาก จนเธอถึงกับตกใจทำดอกไม้ในมือร่วงลงไปจนหมด(ซึ่งผมก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันมากมายมหาศาลขนาดว่าทำให้ถึงกับตกใจจนทำดอกไม้หลุดมือขนาดนั้นเลยแฮะ)
จบเล่ม 3.
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรมาก แถมพวการ์เดี้ยนยังไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย โผล่มาแป๊บๆ แล้วก็แยกไปซะแล้ว >___<" เนื้อหาเหมือนพยายามจะสื่อถึงแครอลที่เป็นคนมั่นใจในพลังของตัวเองว่าพลังไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่างอะไรแบบนี้
เล่มนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรมาก แถมพวการ์เดี้ยนยังไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย โผล่มาแป๊บๆ แล้วก็แยกไปซะแล้ว >___<" เนื้อหาเหมือนพยายามจะสื่อถึงแครอลที่เป็นคนมั่นใจในพลังของตัวเองว่าพลังไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่างอะไรแบบนี้
ขอบคุณครับ ^ ^ เป็นกำลังใจให้นะครับ แครอลน่ารักสุดๆไปเลย
ตอบลบสนุกดีเเหะ ผมชอบเเนวออกอวกาสด้วย
ตอบลบ