22 ตุลาคม 2557

Deadpool Killustrated #1 (2013)

เดดพูลยังคงตามปลดปล่อยเหล่าฮีโร่และวายร้ายไปในทุกๆจักรวาล
แต่ดูเหมือนว่าการฆ่าจะยังไม่พอเพียงที่จะปลดปล่อยตัวละครเหล่านี้ไปตลอดกาล
เดดพูลจึงค้นหาไปยังต้นกำเนิดของคอมมิคฮีโร่ซึ่งนั่นก็คือเหล่าวรรณกรรมอมตะ
!!


Deadpool Killustrated #1 (2013)
เรื่องโดย : Cullen Bunn
ภาพโดย :Matteo Lolli, Sean Parsons, Veronica Gandini

วางจำหน่าย : 23 มกราคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ปี 1850

เดดพูล (Deadpool) กำลังนั่งอยู่บนเรือบดเล็กๆ ลำหนึ่ง พร้อมกับฉมวกในมือ เหมือนกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง และดูเหมือนสิ่งที่เขารอคอยได้ปรากฎตัวแล้ว

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



นั่นก็คือ โมบิดิก (Moby-Dick) ปลาวาฬสีขาวขนาดมหึมาซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับขนาดเรือของเขา และนั่นทำให้มันจมเรือของเดดพูลลงอย่างง่ายดายและกลืนเขาลงไปในท้องของมัน

โมบิดิก คือนวนิยายของ เฮอร์มัน เมลวิลล์ ในปี ค.ศ. 1851 เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางผจญภัยของกะลาสีชื่อ อิชมาเอล (Ishmael) ในเรือล่าวาฬพีโคด (Pequod) ใช้กลวิธีทางภาษา สัญลักษณ์ และการเปรียบเทียบต่างๆ ในการนำเสนอโครงเรื่องอันซับซ้อน ผ่านทางตัวละครหลัก โดยสื่อถึงเรื่องของชนชั้นและฐานะทางสังคม ความดี ความชั่ว และการมีอยู่ของพระเป็นเจ้าซึ่งสื่อออกมาด้วยความเชื่อส่วนตัวของอิชมาเอล และตำแหน่งของเขาในจักรวาล ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในนวนิยายภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุด และทำให้เมลวิลล์เป็นหนึ่งในนักเขียนชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล



 เดดพูล 
 ศิลปะแห่งการฆ่า 

เดดพูลฆ่าล้างจักรวาลมาร์เวลไปแล้ว

สิ่งที่บดบังสายตาของเขาไว้ได้ถูกกระชากออกไปและตอนนี้เขามองเห็นโลกอย่างที่มันเป็นจริงๆ : นิยาย เขาจึงถือว่ามันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องปลดปล่อยทุกคน ทั้งฮีโร่แหละวายร้ายให้เป็นอิสระจากพันธะของการเป็นเรื่องเล่าแห่งชีวิต

แต่งานของเขายังไม่จบแค่นี้



นิวยอร์คในอีก 163 ปี ต่อมา

5 วันก่อนหน้านี้

ท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองที่นองไปด้วยเลือดและมอดไห้มด้วยเปลวเพลิง ชายคนหนึ่งกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องพหุจักรวาล (Multiverse) โลกที่ความเป็นไปได้ต่างๆเกิดขึ้นได้มากมาย โลกที่มนุษย์ไม่เคยค้นพบไฟ โลกที่มนุษย์คือผู้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกที่ถูกปกครองโดยเหล่าฮีโร่ผู้ชั่วร้าย



และโลกที่ที่เขาสังหารทุกชีวิต

Deadpool : ตอนจบใกล้เข้ามาแล้ว

เดดพูลนั่งอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่าฮีโร่มากมายจากแต่ละจักรวาล (จะเห็นว่ามีศพกัปตันอเมริกาอยู่ 2 ศพ หมวกเปื้อนเลือดของไอร่อนแมนมากมายที่น่าจะมีหัวของโทนี่สตาร์คอยู่ข้างในนั้นด้วย และกองศพของสไปเดอร์แมนที่มุมห้อง)

Deadpool : แต่มันก็ไม่เคยจะมาถึงซักที ใช่มั๊ย ?

Deadpool : ทุกการสังหาร.. เข่นฆ่า...

Deadpool : ชั้นเดาว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างที่เป็นแนวคิดทั้งหมดของ "สิ่งดีๆที่มากเกินไป" พวกนี้

Deadpool : ชั้นฆ่า และฆ่า และฆ่า... แต่มันไม่เคยเพียงพอ

Deadpool : มันจะต้องมีสไปเดอร์คนอื่น... กัปตันอเมริกาคนอื่น... มิสมาร์เวลคนอื่น...

ซูเปอร์ฮีโร่... พวกมันก็เป็นเหมือนแมลงสาปพหุจักรวาลนั่นแหละ

เสียงในหัวของเดดพูลพูดขึ้นมา



Deadpool : ชั้นสังสัยว่า... นายคิดว่า... หลังจากทุกสิ่งที่ชั้นทำลงไป... พวกมันจะยอมให้ชั้นตายได้รึยัง ?

เหนี่ยวไกแล้วหาคำตอบดูสิ

เดดพูดเหนี่ยวไก มันสมองของเขาสาดกระจายติดอยู่บนกำแพง แต่เขาก็ยังไม่ตาย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเอามันสมองไปแจกกำแพงเล่นน่ะ ศิลปะระดับแจ็คสัน พอลล็อคเลยนะเนี่ย

แจ็กสัน พอลล็อก (Jackson Pollock) เป็นจิตรกรชาวอเมริกันยุคศตวรรษที่ 20 และเป็นผู้นำในการเขียนภาพแบบสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม (abstract expressionism) ซึ่งเป็นการทำงานศิลปะโดยการหยด สาด หรือเทสีลงบนผ้าใบ โดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบศิลป์ หรือแบบแผนใด ๆ แต่ปล่อยให้จิตสำนึกเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นนั้น

แต่... ถ้านายสามารถจัดการสายสัมพันธ์ของความมีอยู่ของตัวตนนายได้จริงๆแล้ว... บางทีนายอาจจะได้พักผ่อนไปตลอดกาลซักที




มันเหมือนกับว่านายจะฟื้นสภาพตัวเอง... หรือถูกโคลน... หรือกลับไปอยู่ในดักแด้จนนายมีตัวตนใหม่อีกครั้งอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม... หรือถูกปลุกขึ้นมาด้วยเวทมนต์ดำ... หรือ--

Deadpool : ชั้นเข้าใจ ชั้นเข้าใจน่า

Deadpool : ถ้าชั้นยอมแพ้ตอนนี้... ก็เท่ากับว่าชั้นยอมเอาจิตวิญญาณตัวเองไปขายให้กับเจ้าพ่อค้าพวกนั้นอีก

เดดพูลหมายถึงว่าถ้าเขายอมหยุดแค่นี้ก็เท่ากับเขายอมกลับไปเป็นตัวละครในคอมมิคให้มาร์เวลเอาไปใช้หากินได้อีก ประมาณนั้นอ่ะครับ

Deadpool : ถึงชั้นจะเป็นหุ่นเชิดที่ดื้อรั้นได้แล้ว แต่ชั้นก็ยังคงเป็นหุ่นเชิดอยู่ดี

เดดพูลออกเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง

มันไม่สำคัญหรอกว่านายจะปลดปล่อยตัวเองจากอิทธิพลของพวกมันได้แล้วรึเปล่า

ผู้ให้กำเนิดก็ยังจะเขียนเรื่องราวของนายต่อไปอีกอยู่ดีถ้าหากพวกมันมีโอกาสแม้เพียงซักครึ่งหนึ่ง

หนทางเดียวที่จะยุติเรื่องนี้คือนายต้องบุกฝ่ามิติความเป็นจริงต่อไปจนกว่านายจะค้นพบจุดกำเนิด...

...และฆ่ามันซะ

Deadpool : ตามนั้น... แผนบีแล้วกัน

และเขาก็เปิดประตูเข้าไปในห้องๆหนึ่ง



ซึ่งภายในห้องนั้นก็คือห้องที่เขาจับเหล่าวายร้ายนักวิทยาศาสตร์มากมายมาร่วมทำการค้นคว้าให้สิ่งที่เขาต้องการ (ที่เห็นๆก็มี ลีดเดอร์ (Leader), เอ๊กเฮด (Egghead), ดอกเตอร์ออคโทปุส (Doctor Octopus), วิซาร์ด (Wizard) แมดธิงเกอร์ (Mad Thinker) อาร์นิม โซล่า (Arnim Zola) และนักวิทยาศาสตร์จากเอม (A.I.M.)

Mad Thinker : ระ-เรา... เราได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ผมเชื่อว่าคะ-คุณจะต้องพอใจแน่ๆ
Deadpool : นี่ ชั้นมีคนอีกเพียบให้ต้องฆ่าแล้วก็มีความอดทนอยู่นิดเดียว เพราะงั้น... บอกชั้นมาซะที

Mad Thinker : เราได้พัฒนาทฤษฎีใหม่บางอย่างโดยใช้ความเชื่อของคุณที่ว่าพวกเราทั้งหมดเป็นแค่ตัวละครธรรมดาๆในนิยายเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นคว้า

Mad Thinker : โดยสมมติว่าเราทั้งหมดไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่า... ตัวละคร
Mad Thinker : พวกเราถูก... ออกแบบ... โดยเจ้าพวก... ผู้ให้กำเนิด... ที่ควบคุมในทุกด้านของชีวิตเราเพื่อการถ้ำมองอย่างสนุกสนานของพวกมันเอง

Mad Thinker : แต่คุณ... คุณเป็นผู้ตระหนักถึงตัวตน... สิ่งมีชีวิตที่คดโกงผู้ซึ่งมองเห็นถึงสิ่งที่ปกปิดไว้ของผู้สร้าง
Mad Thinker : เพื่อที่จะปลดปล่อยตัวคุณเอง... เพื่อที่จะปลดปล่อยพวกเราทั้งหมด.. คุณจะต้องกลายเป็น...

Mad Thinker : ผู้ชำระล้าง

ผู้ชำระล้าง - อันนี้ผมมั่วคำนะครับ เพราะภาษาอังกฤษใช้คำว่า Metacidal ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะที่เขาคิดขึ้นมาเองแล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะแปลมันว่าอะไรดี แต่ก็คงประมาณนี้แหละมั๊ง



หลังจากนั้นแมดธิงเกอร์ก็อธิบายทฤษฏีที่พวกเขาค้นพบว่า ถึงแม้เดดพูลจะพยายามฆ่าไปมากมายแค่ไหนในโลกแห่งความเป็นจริงที่นับไม่ถ้วนเพื่อพยายามหาผู้สร้างของพวกก็ตาม เหล่าผู้สร้างก็เพียงแต่เขียนอุปสรรคให้มากยิ่งขึ้นไปอีกในเส้นทางของเดดพูล และแม้แต่ความเป็นจริงเองก็ได้สร้างกลไกลการป้องกันตัวเองของมันขึ้นมาด้วยว่าจะไม่มีรูปแบบไหนของสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่จะถูกฆ่าอีกครั้งในรูปแบบเดียวกันอีก (นั่นหมายถึงว่าวิธีการที่เดดพูลใช้ฆ่าฮีโร่คนหนึ่งในจักรวาลหนึ่ง จะไม่สามารถนำมาใช้ฆ่าฮีโร่คนเดิมในอีกจักรวาลหนึ่งได้อีกแล้ว) ซึ่งจากทฤษฏีนี้หมายถึงเดดพูลได้วนเวียนอยู่ในวัฏจัรที่ไม่มีวันสิ้นสุดของการฆ่า

แต่พวกเขาได้ค้นพบรอยแยกของวัฏจักรนี้นั่นคือจักรวาลที่ซ่อนตัวอยู่ของเหล่าสิ่งไร้ชีวิตซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของนิยายในปัจจุบัน ซึ่งเป็นความเป็นจริงที่ซ้อนอยู่ข้างบนของความเป็นจริงอื่นๆ เมื่อทุกๆสิ่งเกิดขึ้นมาพร้อมๆกัน ทุกๆแนวคิดก็จะให้กำเนิดสิ่งอื่นๆต่อไปอีก ทุกๆความคิดก็จะแตกขยายต่อไป ซึ่ง "ตัวละคร" ในจักรวาลแห่งนี้ "ไอเดียเวิร์ส (Ideaverse)" ก็คือแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเหล่าฮีโร่และวายร้ายขึ้นมานั่นเอง



...และถ้าเราฆ่าแรงบันดาลใจซะ.. พวก "ฮีโร่" ก็จะไม่มีตัวตนอยู่อีก

Deadpool : อู้ววว ชั้นชอบนะ แต่นายรู้ว่านี่มันหมายความว่าไงใช่มั๊ย ? มันหมายความว่าชั้นต้องทำอย่างหนึ่งที่ชั้นไม่เคยอยากจะทำเลย มันหมายถึงการไปที่ๆหนึ่งที่ชั้นกลัว



ซึ่งนั่นก็คือห้องสมุด!!? เดดพูลกำลังนั่งอ่านวรรณกรรมคลาสสิคเพื่อค้นคว้าว่าเรื่องใดน่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเหล่าฮีโร่ขึ้นมา

Deadpool : น่าเบื่ออออออออออออ!! พอกันที! พอกันที! ชั้นทนไม่ไหวแล้ว! ให้ชั้นฆ่าสไปเดอร์แมนอีกซักล้านรอบยังดีกว่ามานั่งอ่านไอ้นี่อีกแม้แต่เล่มเดียว!

ถ้าเป็นแบบนี้ มันคงต้องใช้เวลาทั้งชาติที่จะแยกได้ความเกี่ยวข้องที่เฉพาะเจาะจงของตัวละครของวรรณกรรมคลาสสิคกับเป้าหมายของเรา

แต่จริงๆแล้วมันก็มีแค่ทางเลือกเดียวให้เราต้องทำนะน่ะ

Deadpool : ชั้นรู้ ชั้นรู้ ฆ่าพวกมันให้หมดเลย

หนังสือที่เดดพูลกำลังอ่านอยู่เป็นวรรณคลาสสิคชื่อ The Scarlet Letter ในปี 1850 ครับ



Mad Thinker : ย้ายฐานบัญชาการของคุณมายังโลกที่ประตูแห่งทุกความเป็นจริง (Nexus of All Realities) อยู่ในใจกลางตึกแบกซเตอร์ (Baxter Building) มันช่างเป็นการกระทำที่เปี่ยมด้วยกลยุทธิ์จริงๆ

Deadpool : นะ ชั้นแค่เกลียดหนองน้ำน่ะ มันอาจจะเหมาะกับแมนธิง (Man-Thing) แต่ชั้นเกลียดตอนที่เท้าชั้นเฉอะแฉะอ่ะ แต่พูดอีกหน่อยสิเรื่องความฉลาดในกลยุทธิ์ของชั้นน่ะ (อยากให้เค้ายอต่อสินะ)



Mad Thinker : เราใช้อุปกรณ์ของรีด ริชาร์ด (Mr. Fantastic) ในการสร้างช่องทางสู่ไอเดียเวิร์ส เวลาจะไม่คงที่ในไอเดียเวิร์ส คุณจะเดินทางผ่านกาล-อวกาศอย่างสุ่ม แต่กลไกในสายรัดข้อมือของคุณจะช่วยให้คุณควบคุมมันได้เมื่อคุณเดินทาง

Deadpool : นายทำได้ดีมาก ด็อก พวกนายทุกคน ชั้นดีใจที่เก็บพวกนายเอาไว้ และชั้นทิ้งของขวัญวันลาเอาไว้ให้พวกนายด้วยหลังจากชั้นไปแล้ว

Deadpool : สำหรับตอนนี้ ก็... ทำเรื่องเลวๆของนายต่อไปซะ ด็อก



Deadpool : แล้วชั้นก็จะทำของชั้น

เดดพูลก้าวเข้าไปประตูแห่งทุกความเป็นจริงและเดินหายไป ปล่อยเหล่าวายร้ายนักวิทยาศาสตร์เอาไว้เบื้องหลัง

Mad Thinker : เอาล่ะ ต่อไปก็แผน 2 ล่ะ
Egg Head : รีบเลย! มันไม่มีใครบอกว่าการล่มสลายแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวของไอเดียเวิร์สจะมีผลกระทบยังไงกับการคงอยู่ของพวกเรา แล้วก็ไม่มีใครบอกว่าเราจะมีเวลาเหลืออีกแค่ไหน!

Mad Thinker : อะไรที่เราทำอยู่ตอนนี้... จะทำให้เราเป็น... ฮีโร่

ที่แท้เหล่าร้ายนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายกำลังวางแผนจะตลบหลังเดดพูลด้วยการทำลายประตูแห่งความเป็นจริงทั้งมวลเพื่อให้เดดพูลติดอยู่ในนั้นไปตลอดกาลนี่เอง



Mad Thinker : ท่านสุภาพบุรุษ... ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามแผน... เราอาจจะสามารถปกป้อง...

แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ทำลายประตู หุ่นยนต์รูปร่างประหลาดก็ปรากฎขึ้นมา

Deadpool Robot : ได้เวลาสำหรับของขวัญวันลาแล้ว

Deadpool Robot : พวกนายทั้งหมดทำงานหนักมาตลอด ครายยยยยยอยากจะนวดหลังบ้าง ?



ลา มันช่า ประเทศเสปน ในปี 1610

เดดพูลที่เพิ่งตกลงมาจากประตูมิติก็มาโผล่กลางฟาร์มแห่งหนึ่ง

Deadpool : เอาล่ะ มาดูกันว่าชั้นอยู่ที่ไหนใครที่จะต้องตาย--

แต่ยังพูดไม่ทันจบเขาก็โดนอาวุธชนิดหนึ่งเสียบเข้ากลางหน้าอกทันที



นั่นก็คือดาบยาวแบบอัศวินของชายแก่บนหลังม้าผู้หนึ่ง ซึ่งหลงคิดว่าเดดพูลเป็นข้าศึกนั่นเอง

Deadpool : อ๊าคคค! นะ-นาย... รู้มั๊ย... ชั้นแบบว่า... เกลียดที่... นายจะต้องเป็นคนแรก

Deadpool : นายเป็นคนที่ชั้นชอบ

ซึ่งชายแก่คนนี้ก็คือ ดอนกิโฆเต้ (Don Quixote) ซึ่งเป็นลัวละครจากวรรณกรรมระดับโลกของนักเขียนชาวเสปน ชื่อ มีเกล เด เซร์บันเตส ซาเบดรา โดยถูกเขียนขึ้นเป็นนิยายเสียดสีล้อเลียนนิยายอัศวิน ถ้าอยากรู้ว่าทำไมชายแก่คนนี้ถึงเป็นคนที่เดดพูลชื่นชอบ ลองเข้าไปอ่านเนื้อเรื่องย่อๆของวรรณกรรมนี้ได้ได้ใน วิกิพีเดีย ครับ แล้วจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเดดพูลถึงชอบเขา

Don Quixote : มันเป็นยังงี้ได้ไงเนี่ย ? หรือว่ามันเป็นการละเล่นอะไรของพวกพ่อมดอีก ที่ทำให้เจ้าก็อบลินตัวนี้... ยังพูดได้อยู่ แม้ว่าชั้นจะใช้เลือดของมันโบกสะบัดราวกับธงศึกของชั้นแล้วก็ตาม



Deadpool : เสียใจสำหรับเรื่องนี้นะ ตาแก่ แต่นายมีอะไรติดลูกตาแหนะ

ก่อนที่ดาบคาตานะคู่กายของเดดพูลจะฟันลงไปยังดวงตาข้างหนึ่งของชายแก่ทันที ส่งผลให้ทั้งคู่ตกลงมาจากหลังม้า



ก่อนจะตามด้วยการตามไปเป่ากบาลอีก 1 นัด ส่งชายแก่ไปสู่สุคติ ก่อนที่ซานโช่ ปันซ่า (Sancho Panza) ชาวนาผู้เป็นเพื่อนกับดอนกิโฆเต้จะขี่ม้าตามมาเห็นพอดี

Sancho Panza : พระเจ้า! นาย... นายฆ่าเขาไปแล้ว

Deadpool : แกเป็นใครล่ะเนี่ย ?



Deadpool : คิดอีกที... ช่างมันเถอะ

ก่อนจะเป่ากบาลส่งซานโช่ไปสู่สุคติอีกคน



Deadpool : ต่อไปใครล่ะ ?

ปี 1850

บนเรือพีโคด (Pequoad) ซึ่งเป็นเรือล่าวาฬในนิยายเรื่องโมบิดิกนั่นเอง กะลาสีเรือคนนึงได้ส่องกล้องส่องทางไกลมองเห็นโมบิดิก กัปตันอาฮับจึงสั่งให้ลูกเรือเตรียมการล่ามันทันที แต่ปรากฎว่า... โมบิดิกตายไปซะแล้ว

Ahab : ไม่! มันเป็นเหยื่อของชั้น มันเป็นของของชั้น



และกัปตันอาฮับก็ได้เห็นใครคนนึงโผล่ทะลุออกมาจากตัวของโมบิดิค นั่นก็คือเดดพูล!!



พวกกะลาสีเห็นว่ามีคนแต่งตัวประหลาดๆรอดชีวิตออกมาจากท้องของโมบิดิกได้จึงโยนเชือกลงไปช่วยเดดพูลขึ้นมา

Deadpool : ขอบคุณที่ช่วยดึงขึ้นมานะ พวก

Deadpool : แต่... เอาจริงๆนะ... ใครซักคนน่าจะสอนพวกนายหน่อยเกี่ยวกับอันตรายของการรับคนแปลกหนะ... รอแป๊บนะ นี่ชั้นไปเอาเจ้าตัวน้อยนี่มาจากไหนนะ ?

ในมือของเดดพูลมีหุ่นไม้ตัวนึงติดมาด้วย แหงล่ะว่ามันคือพินอคคิโอ (Pinocchio) ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดตามบทประพันธ์แล้วก็มีเหตุการณ์ที่พินอคคิโอไปติดอยู่ในท้องปลาวาฬอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ปลาวาฬตัวนั้นไม่ใช่โมบิดิกแค่นั้นเอง



มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

Deadpool : นายไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่นี่นา นายมาอยู่ผิด--

ทันใดนั้นเดดพูลก็เห็นหน้าตาหุ่นพินอคคิโอเปลี่ยนรูปร่างไป

Deadpool : --ที่ อ๊ะ! วิชั่น ?

ดูเหมือนว่าพินอคคิโอที่เป็นหุ่นไม้มีชีวิตจะเป็นไอเดียต้นกำเนิดของวิชั่น (Vision) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์นั่นเอง เมื่อพินอคคิโอไม่มีแล้วก็เท่ากับต่อไปจะไม่มีวิชั่นอีกแล้วประมาณนั้นแหละ



Deadpool : อู้... นั่นมัน... ต่างไปแฮะ

Ahab : นายอยู่บนเรือพีโคดตอนนี้ ชั้นชื่อกัปตันอาฮับ ขอต้อนรับ แล้วนายเป็นใครกันล่ะ ?

Deadpool : เรียกชั้นว่า... อิชมาเอล

กะลาสีหนุ่มคนหนึ่งจึงพูดแทรกขึ้นมา

Ishmael : แต่นั่น... นั่นมันชื่อของชั้น

Deadpool : อู้วว ได้ตัวล่ะ! มาดูกันดีกว่าตอนนี้เรามีอะไรกันอยู่บ้าง หืมม ? ยกตัวอย่างเช่น... ตอนนี้ชั้นมีมีดอยู่ในมือเล่มนึง

แล้วเดดพูลก็หมุนตัวกลับไปแทงอิชมาเอลทันที

Deadpool : แล้วนายก็มีแผลที่ปอดหนึ่งแผล

Ishmael : อ๊าคค--

ก่อนที่เขาจะหันไปเตรียมจัดการกับเหล่ากะลาสีดวงซวยต่อไป



ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ปี 1895

ข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์พูดถึงเหตุการณ์ชั้นบรรยากาศเกิดการปั่นป่วน ชายหัวล้านไว้หนวดคนหนึ่งกำลังคุยกับชายในเสื้อคลุมสีแดงอีกคนหนึ่งโดยมีตำรวจสก็อตแลนยาร์ดสองคนยืนเฝ้าดูอยู่ข้างๆ ซึ่งเมื่อดูจากสถานที่ซึ่งเป็นลอนดอน ประเทศอังกฤษและช่วงเวลาในปี 1895 แล้ว แน่นอนว่าชายหัวล้านคนนี้คือ สารวัตรเลสเตรด (Inspector Lestrade) ตัวละครจากบทประพันธ์อมตะตลอดกาลของเซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ (Arthur Conan Doyle) นั่นเอง

Lestrade : นายจะทำยังไงกับมันล่ะ ? นายเคยเห็นอะไรแบบ--

??? : ไม่ และผมก็ว่าไม่มีใครเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนแน่ คุณคิดถูกแล้วที่นำมันมาให้ผม

Lestrade : งั้น เจ้านี่มันควรจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ?

ชายในเสื้อคลุมสีแดงหันหลังมาเผยให้เห็นอุปกรณ์ลักษณะแปลกประหลาดชิ้นหนึ่งที่เขาอุ้มอยู่ในมือ

??? : มันคือข้อความไงล่ะ ท่านสารวัตรเพื่อนรัก



และแน่นอนว่าชายคนนี้ก็คือนักสืบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกวรรณกรรมเคยมีมา วิลเลียม เชอร์ล็อก สกอตต์ โฮมส์ หรือ เชอร์ล็อก โฮมส์ (Sherlock Holmes) นั่นเอง

Sherlock Holmes : เกมกำลังจะเริ่มแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป...


จบเล่ม 1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          ได้ฤกษ์สปอยล์ออกมาซักทีหลังจากดองไว้นาน หวังว่าจะยังคงมีคนรออ่านกันอยู่นะครับกับ Deadppol Killustrated ซึ่งเป็นภาคต่อของ Deadpool Kills The Marvel Universe นั่นเอง โดยเนื้อหาในซีรีย์นี้จะพูดถึงเดดพูลที่รู้ตัวแล้วว่าตัวเองรวมทั้งฮีโร่และวายร้ายคนอื่นๆเป็นเพียงตัวละครในคอมมิค และเขาไม่ต้องการให้ทุกคนมีชีวิตเพียงเพื่อเป็นความบันเทิงของใคร เขาจึงคิดจะปลดปล่อยทุกคนด้วยการฆ่านั่นเอง แต่ในพหุจักรวาลซึ่งมีโลกคู่ขนานไม่สิ้นสุดนั้น เดดพูลจึงรู้ตัวว่าเขาไม่มีทางฆ่าทุกคนได้หมดแน่ๆ เขาจึงมองหาหนทางใหม่ด้วยการไปฆ่าเหล่าตัวละครในวรรณกรรมอมตะทั้งหลายซึ่งเป็นต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ตัวละครในวรรณกรรมยุคปัจจุบันรวมถึงตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ด้วยนั่นเองครับ ด้วยความเชื่อว่าเมื่อไม่มีเหล่าตัวละครในวรรณกรรมอมตะเหล่านี้เป็นต้นแบบแล้วเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ก็จะไม่ถือกำเนิดมาและเป็นการปลดปล่อยพวกเขาไปตลอดกาลนั่นเอง

สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน Deadpool Kills The Marvel Universe ซึ่งเป็นบทนำของซีรีย์นี้ สามารถอ่านได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับ

Deadpool Kills The Marvel Universe ตอนที่ 1
Deadpool Kills The Marvel Universe ตอนที่ 2
Deadpool Kills The Marvel Universe ตอนที่ 3
Deadpool Kills The Marvel Universe ตอนที่ 4

Musashi

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22 ตุลาคม 2557 เวลา 15:50

    มันม๊วกกกก / ขอบคุณน่ะค้าบบบ

    ตอบลบ
  2. เจอกับเชอร์ร๊อก ต้นแบบ แบตแมนเลยนะครับ

    ตอบลบ
  3. การอ่านเรื่องแบบนี้มันสนุกและดีตรงที่ทำให้นักอ่านได้ต่อยอดไปอ่านเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้อีกนี่แหละนะ ^_^

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ18 พฤษภาคม 2558 เวลา 13:57

    ตอนไหม่จะออกเมื่อไหร่คับ

    ตอบลบ
  5. Metacidal น่าจะแปลคร่าวๆ (จากการแยกศัพท์ meta กับ cidal) ว่าหมายถึง beyond killing คือ ก้าวพ้นการฆ่า(แบบทั่วๆไป)ไปแล้วนะฮับ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ29 มีนาคม 2559 เวลา 19:16

    รออ่านต่อครับ สนุกมากๆ

    ตอบลบ