Superman: Futures End #1 (2014)

หลังจากที่ตัวตนที่แท้จริงของซูเปอร์แมนถูกเปิดเผยโดยบังเอิญต่อหน้านักข่าวสาวเมโทรโพลิส ลูอิสเลน เธอได้ไปถามกับซูเปอร์แมนโดยตรงแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่พอใจ เธอจึงได้นำข่าวเรื่องนี้ไปลงหนังสือพิมพ์ซะ! แต่แล้วเธอจะทำยังไงให้ได้ความจริงเกี่ยวกับซูเปอร์แมนกัน?

Superman: Futures End #1 (2014)
Haunted
เรื่องโดย : Dan Jurgens
ภาพโดย : Lee Weeks, Dave McCaig
วางจำหน่าย : 24 กันยายน 2014
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ผู้สปอยล์ : Fareya

เริ่มเรื่องที่อนาคตในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่นี่คือเมโทรโปลิส (Metropolis) ได้เกิดเหตุชายปริศนาจับนักท่องเที่ยวโยนให้รถไฟชนราวกับต้องการเรียกให้ใครบางคนปรากฎตัวออกมา

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)

ตัดไปอีกด้านของเซ็นทรัลพาร์คที่มีเหตุไฟไหม้  ซูเปอร์แมน (Superman) ได้โผล่ออกมาช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในตึก

แต่แล้วก็มีคนออกมาพูดว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ซูเปอร์แมนก็ไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็บอกพวกเขาได้อ่านข่าวของลูอิส เลน (Lois Lane) แล้ว เรื่องที่ว่าซูเปอร์แมนคนนี้ไม่ใช่ซูเปอร์แมน ทางซูเปอร์แมนเองก็อารมณ์เสียที่กลุ่มคนทำตัวแย่ใส่คนที่พึ่งจะช่วยพวกเขาเลยบินหลบปัญหา

ทางลูอิสที่เป็นคนเขียนข่าวนั่นก็ออกตามหาคนคนนึงเพื่อที่จะถามความจริงเรื่องซูเปอร์แมน เมื่อเปิดประตูเข้าไป

ลูอิส: ได้โปรดอย่าพึ่งปิดประตูใส่หน้านะ
???: ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะทำมันนะ
ลูอิส: ฉันคิดว่าเธอคิดว่าฉันทำลายชีวิตของเธอ แต่มันจะต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ถ้าอยากจะบอกอีกด้านของเรื่อง นี่เป็นโอกาสของเธอ...

ลูอิส: --บิลลี่ แบทสัน (Billy Batson)

บิลลี่เองก็ถามมาหาเขาทำไม แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ แล้วบิลลี่ก็เปิดข่าวที่เป็นข่าวแฉสะบัดของลูอิส เรื่องที่ว่าซูเปอร์แมนในช่วง 5 ปีนี่ที่แท้คือชาแซม (Shazam) แต่ลูอิสก็รู้ว่ามันไม่ค่อยจะดีนักเรื่องนี้เลยบอกให้ปิด

บิลลี่: คุณโชคดีที่ได้รู้เรื่องที่ไม่ควรรู้
ลูอิส: ใช่ ฉันเห็นสายฟ้านั่นเปลี่ยนเธอ (ในเล่ม Futures End #17) แต่ฉันมีอาชีพนักข่าว มีหน้าที่เขียนข่าวความจริงให้คนได้รับรู้

ลูอิส: นี่เป็นโอกาสที่จะบอกให้โลกได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและทำไม ทำไมเธอถึงรู้สึกต้องตอบแทนโลกด้วยการทำตัวเป็นซูเปอร์แมน

บิลลี่: ไม่ใช่โลกที่ฉันต้องตอบแทน... แต่เป็นตัวซูเปอร์แมนเลยต่างหาก

บิลลี่เลยเล่าให้ฟังตอนช่วงสงคราม สงครามที่มีวายร้ายมาช่วยเพราะพวกเขาต้องการกำลังทั้งหมดที่มี สงครามที่พวกเขาคิดว่าอาจจะแพ้

สงครามนี้พวกเขาต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับกองทัพดาร์กไซด์ถึง 3 วัน ถึงแม้บิลลี่จะมีความอดทนของแอตลาสแต่เขาก็ยังคงเป็นบิลลี่ เขาโดนทหารคนนึงยิงเข้าที่หลังตอนเผลอ แบล็คอดัม (Black Adam) ที่เห็นก็ไม่เข้าไปช่วยเพราะรอฉวยโอกาส

แบล็คอดัมยังคงต้องการพลังของสายฟ้ามีชีวิตที่อยู่ในตัวบิลลี่ เลยจะฆ่าชาแซมเพื่อให้ได้พลังนั้นมา แต่ก็มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน

คนที่เข้ามาช่วยก็คือซูเปอร์แมนนั่นเอง... ซูเปอร์แมนจับแบล็คอดัมขังไว้ในแฟนธ่อมโซน (Phantom Zone) แล้วบอกให้บิลลี่ออกไปพัก

ถึงแม้บิลลี่จะอยากช่วยแต่ซูเปอร์แมนก็บอกไม่ เพราะมันเป็นเรื่องของเขาคนเดียว ตามที่ "ชายคนนึง" บอกเขา นั่นคือครั้งสุดท้ายที่บิลลี่ได้เห็นซูเปอร์แมน

บิลลี่ไม่รู้ว่าซูเปอร์แมนจะกลับมาเมื่อไหร เพราะไม่มีข่าวคราวอะไรเลย รู้เพียงแต่ว่าเขามีภารกิจคือการเป็นกุญแจที่ทำให้ชนะสงคราม

ลูอิส: ภารกิจคืออะไร เขาถูกบอกให้ทำอะไร ?

แต่บิลลี่ก็บอกไม่รู้ และคนที่รู้ก็ไม่ยอมบอก และทีมจัสติคลีคคิดว่าสัญลักษณ์ S เป็นสัญลักษณ์ที่มีทรงพลังเกินกว่าจะสูญเสียไปได้ ดังนั้นเขาจึงก้าวเขามาทำหน้าที่นี้แทน แม้จะต้องยอมสูญเสียตัวตนของตัวเขาเองก็ตาม เพราะว่าเขาได้ติดหนี้ซูเปอร์แมนอยู่ บิลลี่เองก็คิดว่าตัว S นั้นมาความหมายมากกว่าสัญลักษณ์สายฟ้าของเขา

ลูอิส: เธอจะปล่อยให้ตัวตนของตัวเองเหลือเพียงความทรงจำไม่ได้นะบิลลี่ แล้วเธอจะได้กลับเป็นตัวตนของตัวเองเมื่อไหรกันล่ะ

ลูอิส: ฉันรู้ว่าเธอยังโกรธฉันอยู่และไม่อยากจะพูด
บิลลี่:  ที่ทำให้ผมดูเหมือนไอ้โง่อ่ะนะ?
ลูอิส: ขอให้ฉันทำหน้าที่เป็นเพื่อนสักนาทีหน่อยเหอะ

ลูอิส: มันมีจุดๆ หนึ่งที่ทุกคนจะต้องเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่เธอทำนั้นดี แต่เธอก็ไม่ควรจะเสียสละตัวตนของตัวเองเพื่อพยายามเป็นใครคนอื่น
บิลลี่: เพราะงั้นมันถึงเรียกว่าตัวตนลับไงล่ะ

แต่แล้วก็มีไฟไหม้พุ่งขึ้นมา บิลลี่จึงกล่าวชาแซมแล้วกลายเป็นซูเปอร์แมนออกไปดู

และคนที่ทำก็คือไอแบค (Ibac) นั่นเอง เขาดูข่าวเรื่องซูเปอร์แมนคือชาแซมเลยตามมาที่นี่ และผู้หญิงคนหนึ่งโยนเข้าใส่บิลลี่ทันที

แต่บิลลี่รับได้ทันแล้ว ไอแบคก็บอกว่าเขาตามหาบิลลี่มาเป็นปีจนเขาเห็นข่าวนั่น

Ibac: ฉันตามหาแกมาเป็นปีๆ ชาแซม... รู้ไหมว่ามันทำฉันใจสลายแค่ไหนที่คิดว่ามีคนจัดการแกได้ แต่แล้วฉันก็พบว่าแกสวมหน้ากากเป็นซูเปอร์แมน งั้น ฉันมีข่าวมาบอกแกนะ...แกไม่ใช่ซูเปอร์แมน!!

ซูเปอร์แมนบิลลี่: พนันกันมั๊ยล่ะ ?

บิลลี่ไม่รู้ว่าไอแบคมานี่ได้ยังไง แต่คงเป็นเวทมนตร์เช่นเคย ไอแบคที่เห็นว่าสู้เพียวๆ เขาแพ้แหงม เลยเล่นสกปรกโยนรถไฟใส่ประชาชนโดยรอบ เป็นเหตุให้บิลลี่ต้องไปรับ

จังหวะนั้นเองไอแบคก็จุดไฟใส่น้ำมันให้รถไฟระเบิดเพื่อหวังจะจัดการบิลลี่ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก

บิลลี่พุ่งออกมาจากกองไฟ แล้วเหาะขึ้นฟ้าไปพร้อมไอแบคแล้วปล่อยให้ร่วงลงมา

ตอนนั้นเองลูอิสก็มาถึง

ลูอิส: เธออาจไม่ใช่ซูเปอร์แมน แต่ก็มีพลังพอๆ กัน
บิลลี่: แปลกมาก หมอนี่มาตามหาฉันจริงๆ ไม่ใช่ตามหาซูเปอร์แมน พวกเราตรวจเช็คให้แน่ใจแล้วนะตอนจบสงคราม

ลูอิส: เธอจะใส่ชุดเป็นซูเปอร์แมนต่อไปก็ได้ ไม่ว่าเขาจะอยู่ไหนเขาจะต้องรู้สึกเป็นเกียรติแน่ๆ กับสิ่งที่เธอทำ
บิลลี่: ผมไปคิดมาแล้ว...รู้ไหม คุณพูดถูกลูอิส บางครั้งตัวเราก็จำเป็นจะต้องเป็นตัวตนเราเอง

แล้วบิลลี่ก็กล่าว THE MAGIC WORD

บิลลี่: SHAZAM!

ชาแซม: ฉันจะทำสิ่งที่ฉันทำได้เพื่อให้คนไม่ลืมตัวตนของซุปเปอร์แมน แต่ก็ไม่ควรจะมีฮีโร่หลายคนเนอะ บางทีพวกเขาก็ควรรู้ว่ายังมีคนที่สามารถทำในสิ่งที่ซุปเปอร์แมนทิ้งไว้ได้

ลูอิส: ในที่สุด นี่แหละข่าวที่ฉันจะเขียน

จบเล่ม1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          เล่มนี้เป็นหัวของ Future’s End เหตุการณ์หลังจากสงครามกับโลก Earth 2 เป็นเล่มที่อธิบายต่อจากเล่มหลัก Future’s End #17 เรื่องตัวตนภายใต้ชุดสวมหน้ากากของซุปเปอร์แมน ที่หยิบเล่มนี้มาทำเพราะว่าเป็นเล่มเกี่ยวกับ Shazam (ความชอบส่วนตัว เอิ้กๆ)

ปล. พี่ซุปตัวจริงดูเหมือนจะไปเป็นชาวนาอยู่แถวที่ห่างไกลเพราะเหตุการณ์จากสงคราม (ยังไม่เฉลยว่าพี่แกนอยเรื่องอะไร)

 Fareya

------------------------------------------------------------------------------------------

          ผลงานสปอยล์ชิ้นนี้ก็เป็นผลงานของนักสปอยล์สาวคนใหม่ของเวบเรานะครับ ซึ่งผมเป็นคนโพสต์ให้ ก็มีปรับปรุงบางประโยคนิดหน่อยให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่พยายามคงรูปแบบตามที่เธอทำส่งมาให้ ผมเองก็ไม่ค่อยได้อ่านดีซีเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ถ้าเพื่อนๆถูกใจหรือมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม ก็คอมเมนท์ติชม ให้กำลังใจเธอกันมาเลยนะครับ แล้วรอพบกับสปอยล์ต่อๆไปของเธอกัน และสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะลองทำสปอยล์บ้าง ก็ลองมาคุยกันได้ที่ http://www.facebook.com/thaispoilcomic หรืออีเมล์ musashimaru00@gmail.com นะครับ

ปล. แถมพิเศษกับหน้าปกแบบ 3-D Motion Edition ของเล่มนี้

Musashi