18 ตุลาคม 2557

Bucky Barnes: The Winter Soldier #1 (2014)

Man on The Wall หรือ นิค ฟิวรี่ คือ ผู้พิทักษ์โลกอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด
และเมื่อนิค ฟิวรี่ได้จากไปแล้ว มันจำเป็นต้องมีใครซักคนมาทำหน้าที่นี้แทน
และชายคนนั้นก็คือมัจจุราชอหังการที่ชื่อ บัคกี้ บาร์น!!



Bucky Barnes: The Winter Soldier #1 (2014)
The Transmigration of Bucky Barnes
เรื่องโดย : Ales Kot | ภาพโดย : Marco Rudy
วางจำหน่าย : 1 ตุลาคม 2557
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Venom, Musashi


ดาวเคราะห์: ไซโร

 ช่วงสงครามเย็น มันมีทฤษฎีอยู่ 

 หนึ่งสายลับ ผู้อยู่ถูกที่ ถูกเวลา... 

Alien : บักกี้ บาร์น วินเทอร์โซลเยอร์ ผู้ถูกเรียกขานด้วยหลากหลายนามเอ๋ย เจ้าไม่ได้มาด้วยสันติ

 ...กับความสามารถที่เพรียบพร้อม 


Alien : เราไม่รู้หรอกนะว่าเจ้ามาที่ดาวดวงนี้ด้วยเหตุอันใดกัน แต่เราสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากตัวเจ้า

 ...ทรงพลังยิ่งกว่าทหารทั้งกองทัพ 

Alien : การสังหารไม่ได้รับอนุญาตบนดาวดวงนี้

 เกี่ยวกับสงครามนะรึ ? 

Alien : เจ้าจะต้องถูกย้ายวิญญาณ

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)


 ผมรู้ว่ามันไม่มีวันจบ 

Alien : เจ้าจะถูกย้ายวิญญาณไปยังสัตว์ตัวน้อยที่ไม่อาจสังหารสิ่งใดได้อีก เจ้าจะได้พบกับชีวิตใหม่ปราศจากอดีต

ภารกิจ : ความลับ

ผู้สูงสุด : อีโนเชียน คัพ-ควาร์ก  ผู้คุมกฎสูงสุดแห่งไซโร



Enochian : เอาละ จงมองเรซเนอร์อันศักดิ์สิทธิ์ (The Sacred Reznor)

 ทุกๆสงครามมีองค์ประกอบสามอย่าง 

Enochian : เรายังรู้อีกว่าดวงดาวที่เจ้าจากมานั้นมีแต่การเข่นฆ่า สุดท้ายเจ้าอยากจะกล่าวสั่งเสียสิ่งใดก่อนที่การย้ายวิญญาณจะเริ่มขึ้นหรือไม่

 บางส่วนนั้นเกิดขึ้นอย่างเปิดเผย 

Winter Soldier : แค่อย่างเดียว

Winter Soldier : พวกแกไม่เคยตรวจสอบด้านหลังของดวงจันทร์ดวงที่สามของดาวพวกแกเลยใช่ไหมละ

 บางส่วนนั้นเกิดขึ้นในเงามืด... 


 และส่วนนั้นแหละ ยอดเยี่ยมที่สุด 

คาซัวร์ ไรเฟิล สไนเปอร์ มีเพียงกระบอกเดียวในกาแลคซี่ ถูกขโมยมาเมื่อสามสัปดาห์ก่อนโดย วินเทอร์โซลเยอร์ และ เดซี่ จอห์นสัน

นี่คือเดซี่ จอห์นสัน อดีตเจ้าหน้าที่ชิลด์ หัวหน้าปฏิบัติการภาคสนาม

นี่คือกระสุนที่ทำจากไวเบรเนี่ยม

นี่คือพันธนาการที่จับบักกี้

นี่คือ เป้าหมาย

กระสุนถูกยิงออกไประเบิดหัวของอีโนเชี่ยนกระจุยไปทันที


 ...และส่วนที่เหลือ ก็เป็นส่วนที่ดำสนิท 

เหล่าประชากรของไซโรเมื่อเห็นผู้นำของตัวเองตาย ก็ก้มลงคุกเข่ายอมจำนนทันที

Winter Soldier : ชั้นจะพูดไงดีล่ะ ?

Winter Soldier : ไม่มีพันธนการใดจะหยุดชั้นได้-- ยังไงก็เหอะ ชั้นเคยเจอแบบนี้มาก่อนแล้ว พวกนายอยากให้ชั้นเป็นราชาคนต่อไป ชั้นพูดถูกใช่มั๊ย ? ชั้นพูดถูกสินะ

Winter Soldier : ขอบคุณ แต่ไม่ละ ขอบคุณ พวกเราจะให้ประชาธิปไตยแก่พวกนายดีกว่า

Alien : แต่ว่า-- นี่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงเกินไป พวกเราละทิ้งมันไปนานแล้ว มันพิสูจน์แล้วว่าค่อนข้างจะผิดพลาด แล้วจะให้พวกเราทำยังไงดีตอนนี้ ?

Winter Soldier : นั้นไม่ใช่เรื่องของชั้น การเปลี่ยนแปลงก็เหมือนกับภาพมายานะแหละ เล่นกับมันดีๆแล้วกัน


บัคกี้ บาร์น
เดอะ วินเทอร์ โซลเยอร์

บทที่ 1
การย้ายสมรภูมิของบัคกี้ บาร์น



สถานที่ : ไม่ระบุ

วัตถุประสงค : ไม่ระบุ

"ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปเสมอ"

"ชั้นกลับมาและทำงานนี้ ชั้นเอาสิ่งที่จำเป็นมาอย่างยานลำเล็ก แล้วก็เวลาที่ไม่เคยคอยใคร

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวชั้นเอง"

"ความเรียบง่าย ความอดทน ความเห็นใจ"

"สามสิ่งที่เป็นสมบัติอันยอดเยี่ยม"

"เรียบง่ายในการกระทำและความคิด อดทนต่อเพื่อนพ้องและศัตรูกับ ยอมรับในสิ่งที่เป็นไป"

"เห็นอกเห็นใจต่อตัวเอง ประนีประนอมต่อโลกใบนี้"

"นั้นเป็นคำพูดของเล่าจื๊อ หรือเต้าเต๋อจิงนะ ? ชั้นคิดว่าชั้นจำถูกนะ แต่ความจำชั้นมันไม่เหมือนที่มันเคยเป็นแล้ว..."

Daisy : นี่มันอะไรกัน


ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว : ดาวเทียมลับของนิค ฟิวรี่

ปัจจุบัน : มันกลายเป็นสมบัติของบัคกี้แล้ว

Winter Soldier : นี่คือการสืบทอดไง

Daisy : แต่นั่นมันไม่ใช่ความรับผิดชอบของนายซักหน่อย ยกเว้นแต่ว่านายอยากจะทำ

Winter Soldier : แล้วเห็นใครที่อยากจะทำงานนี้มั๊ยล่ะ ?

Daisy : แล้วนายจะเรียกตำแหน่งนี้ว่าไงละ ?

Winter Soldier : ไม่รู้สิ มือสังหารไม่รับจ้างแห่งอวกาศ มั้ง ?

Daisy : ชั้นโอเคนะที่ได้ช่วยนายที่ไซโรนะ แต่สรุปแล้วนายต้องการอะไรกันแน่

Winter Soldier : ชั้นต้องการคู่หู (Sidekick) เดซี่

Daisy : ชั้นไม่ใช่คู่หูของนาย

Winter Soldier : ดี เพราะชั้นก็ไม่ใช่คู่หูของเธอ

อะไรที่ชั้นต้องการจริงๆคือ ผู้ประสานงาน (Cllaborator) ใครซักคนที่ฟิวรี่เชื่อใจ ใครซักคนที่ชั้นจะมองตาด้วยได้ ใครซักคนที่จะยอมทำอะไรก็ได้ที่จำเป็นเพื่อให้โลกปลอดภัย

Daisy : โดยการฆ่าคนอะนะ ?

Winter Soldier : ไม่ใช่แค่คน จะดวงดาว เทพเจ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามารุกรานเรา

Winter Soldier : ชั้นอ่านไฟล์ของฟิวรี่แล้ว อ่านไปเยอะมากแต่ก็ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของยอดภูเขาน้ำแข็งแค่นั้น หมอนั่นทำหน้าที่นี้มานานแสนนาน และชั้นก็เพิ่งจะอ่านข้อมูลไปได้แค่ 2% เองจากทั้งหมดและนั่นชั้นใช้เวลาไป 3 อาทิตย์เลยนะ แล้วชั้นต้องทำกับข้าวกินเองตั้ง 3 อาทิตย์เหมือนกัน ครั้งสุดท้ายที่ชั้นทำกับข้าวกินเองเนี่ย--

Daisy : ชั้นจะไม่ทำกับข้าวให้นายกินแน่นอน

Winter Soldier : ก็ไม่ได้มีใครบอกให้เธอทำซักหน่อย บางทีชั้นอาจจะทำกับข้าวให้เธอเองเลยก็ได้ แต่ตอนนี้ชั้นได้ข่าวมาว่ามียานดีๆอยู่ที่สถานีเฮอร์ซ็อก (Herzog Station) ใกล้ๆกับดาวอังคาร

Daisy : นายไม่มีทางเอาอาหารมาติดสินบนให้ชั้นช่วยนายได้หรอกน่า

Winter Soldier : รู้น่า รู้น่า




ไม่นานนักหลังจากนั้น

สถานีเฮอร์ซ็อก ในวงโคจรของดาวอังคาร

บัคกี้พูดถึงสิ่งที่ฟิวรี่ทำมาตลอด การเป็นคนบนกำแพง (Man on The Wall) ผู้พิทักษ์โลกโดยการฆ่าเหล่าผู้รุกรานก่อนที่มันจะฆ่าพวกเรา แม้ว่าบัคกี้จะไม่ได้มีความสุขกับการที่ต้องทำทุกสิ่งที่เขาต้องรับช่วงมาทำต่อจากฟิวรี่ แต่เขาก็รู้ว่ามันต้องมีใครบางคนยอมทำหน้าที่นี้

Daisy : ถามอีกอย่าง ทำไมนายถึงขโมยสิ่งนั้นมาจากดาวของพวกเขาด้วยละ ?
Daisy : เพราะว่าชั้น อืม เห็นน่ะ นายซ่อนมันเอาไว้ใต้ผ้คลุม แล้วก็คอยดูแลมันอยู่ตลอดเวลา

Winter Soldier : เธอกำลังจะพูดว่าชั้นขโมย The Sacred Reznor มาใช่มั๊ย เดซี่ ?
Winter Soldier : ถ้าใช่ละก็ เธอพูดถูกแล้ว มันดูโดดเดี่ยว ศักดิ์สิทธิ์ และดูเหมือนว่า...


"...ชั้นก็มีด้านที่อ่อนโยนอยู่เหมือนกัน"

??? : เจ้าหญิงเวนโทลิน (Ventolin) ท่านเห็นสิ่งใดหรือ

จากที่ผมเดาคิดว่า The Sacred Reznor น่าจะหมายถึงสัตว์ที่ตอนแรกเอโคเชี่ยนจะใช้มันให้บัคกี้ย้ายวิญาณไปละมั๊งครับ


ดาวเคราะห์ : เมอร์-ซี-โบว์
ภูมิภาคที่ 6

Ventolin : หลุมขาวที่ปรากฏออกมาจากหลุมดำนะสิ


Ventonin : โลกใหม่ถือกำเนิดแล้ว

??? : แล้วมีผู้ใดผ่านมาหรือไม่

Ventonin : แค่ยานลำนึง แต่มันไม่เหมือนยานลำไหนที่ข้าเคยเห็นมาก่อนใน Exai

??? : มันอาจจะข้ามเวลามาก็ได้ ไม่สำคัญกับเวลานี้หรอก

Vwntonin : ใช่แล้ว Rossz Csillag ที่รัก นั้นแหละทำให้ข้าอยากสละบัลลังก์เหลือเกิน

Rossz : อีกแล้วหรือ ท่านหญิง ไม่นะ ถ้าไม่มีท่านระบบจะเสียสมดุลท่านคือผู้ที่ถูกเลือกมา

Ventonin : ข้าไม่ได้ถูกเลือก มองดูข้างนอกสิ เราอยู่ร่วมกับธรรมชาติดูแลพวกเขา เราสำรวจทุกอย่างมายาวนานแต่ก็ไม่ได้อะไรเลย

Ventonin : เมืองของเราเติบโตบนของเหลวพวกนั้น ถูกทำลายและซ่อมแซม เชื่อมเป็นหนึ่งกับพวกเขา

Ventonin : จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราไม่ยอมรับมัน ข้าไม่อาจคาดเดาได้เลย ความวุ่นวายมันเป็นแค่เศษเสี้ยวของเรื่องทั้งหมด

Ventonin : ถ้าหากว่าเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่างๆได้เฉกเช่นกับสิ่งแวดล้อมนี้


"บางทีเราอาจจะเอาชนะความกลัวที่สืบทอดมาก็ได้"

มหาสมุทรแปซิฟิค
ใกล้กับร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา

นามอร์และบัคกี้ได้เข้าประทะกับรถไฟดำน้ำ!? พร้อมกับถามสารทุกข์สุขดิบกันไปด้วย

Winter Soldier : นี่นายโสดอีกครั้งมานานแค่ไหนแล้วนะ ? นายมีปัญหาอะไรอยู่รึเปล่า ?

Namor : ชั้นคือนามอร์ นะ ข่าวบอกว่าชั้นเป็นผู้ก่อการร้ายเพราะงั้นชั้นก็ต้องเป็นพวกมีปัญหาอยู่แล้วละ อย่าไปเชื่อพวกข่าวโคมลอยแบบนี้ล่ะ มันยิงมาแล้ว หลบ

Winter Soldier : รู้แล้วน่า


ซึ่งทั้งคู่ก็จมมันได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร

??? : ไม่เอาน่า นามอร์ พวกเราแค่ลักลบขนยาเองนะ ไม่ได้จะทำอันตรายใครซักหน่อย นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย

Namor : จงหยุดรถไฟขบวนนี้ซะ หรือจะชิมกับหมัดเหล็กของนามอร์

แล้วพี่แกก็ชกรถไฟใต้น้ำคว่ำทันที

Namor : เอาละ ชั้นไม่ได้โสดฟะ

Winter Soldier : ใครกันละผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นนะ

Namor : ตอนนี้ก็มีสี่อะนะ เบรนด้า (Brenda) เป็นสนมเอก

Winter Soldier : สนมเอก ?

Namor : เธอเป็นสนมเอก แล้วก็อูราลูเม่ (Ulalume), ฟรานซิส (Francis) และไชน่า (China)

Winter Soldier : โว้ Imperius--

Namor : อย่าได้พูดออกมาเชียว

Winter Soldier : --Sex

Namor : อ้ากกก นามอร์อาจจะเป็นเพื่อนแก แต่อย่าได้ทำแบบนี้

เผื่อบ้างคนไม่รู้ นามอร์มีประโยคประจำตัวว่า Imperius Rex นะครับ


เสร็จแล้วก็ไปลากตัวคนร้ายมาสอบสวน

Namor : ขอบใจมากสำหรับความช่วยเหลือวะ

Winter Soldier : ไม่เป็นไร ยังไงนายก็เป็นเพื่อนชั้น อีกอย่างนี่ก็อยู่ในลิสต์สิ่งที่ต้องทำของฟิวรี่ด้วย

Namor : ลิสต์สิ่งที่ต้องทำของฟิวรี่ ?

แล้วบัคกี้ก็อธิบายเรื่องทั้งหมดให้นามอร์ฟัง (หาอ่านได้จากอีเวนต์ Original Sin นะครับ) แล้วกลับมาจัดการคนร้ายต่อ

คนร้าย : ผมยอมแล้ว ผมจะบอกทุกอย่างเลย



Winter Soldier : งั้นก็ได้โปรดบอกทั้งหมดที่นายรู้ เดี๋ยวนี้เลย

คนร้าย : โลกิ

Winter Soldier : อะไรนะ ?

คนร้าย : โลกิเป็นคนกลางของพวกเรา


"นายจะเข้าใจเอง"

"นายจะเห็นจุดประสงค์นั้น"

"นายจะขอบคุณชั้นด้วยซ้ำ"

Winter Soldier : โลกิ แกติดต่อกับโลกิโดยตรงเลยรึเปล่า ?
คนร้าย : ใช่ เขาบอกว่าใครบางคนอาจจะพยายามมาหยุดรเา เขาบอกว่ามันจะมีบางอย่างที่เราควรจะพูดถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น-- ถุงมือที่สาปสูญเป็นดั่งความหรรษา (The Lost Glove is Happy)

"กับสิ่งที่ชั้นทำเพื่อมาแทนที่นาย"

และทันใดนั้นก็มีใครบางคนยิงเข้าใส่บัคกี้จากที่ไหนซักแห่ง

Winter Soldier : อ้าาาา!



นั่นคือจากอวกาศ!! ใครบางคนในชุดอวกาศที่ดูเหมือนชุดที่นิค ฟิวรี่ใส่ในการทำหน้าที่ชายบนกำแพงยิงเข้าใส่บัคกี้จากอวกาศเพื่ออะไรกันแน่

??? : ตานายแล้ว"


ตอนหน้า : แอสการ์ด



จบเล่ม 1.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเล่มแรก ถ้าแปลผิดหรืองงยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ  เนื้อหาก็จะเป็นการเปิดตัวบัคกี้สำหรับหน้าที่ใหม่ ซึ่งตอนหน้าเราอาจจะได้เห็นบัคกี้กับโลกิปะทะกันก็ได้ ส่วนผู้ชายที่ยิงบัคกี้ท้ายเล่มคือใครกัน? แต่ดูแล้วก็คล้ายๆฟิวรี่อยู่เหมือนกัน ส่วนจะแปลไปตลอดหรือไม่นั้นก็ยังไม่แน่นะครับเพราะตอนนี้ทั้ง มาเวลกับดีซี เปิดหัวใหม่หลายหัวเลยผมเลยว่าจะหยิบมาลองทำดูหลายๆเรื่องใครชอบเล่มไหนก็บอกกันด้วยนะครับ

Venom

          สำหรับเล่มนี้ผมก็มาช่วยแอดมิน Venom เรียบเรียงสปอยล์ให้อ่านง่ายขึ้นและเพิ่มเติมเนื้อหาสปอยล์บางจุดเข้าไปเล็กน้อยนะครับ โดยส่วนตัวคิดว่างานภาพเล่มนี้อาร์ตมากๆ ทั้งการลงสี การแบ่งช่อง และใช้การเล่าเรื่องค่อนข้างมีชั้นเชิง บทพูดก็เยอะ ซึ่งทำให้ทำสปอยล์ค่อนข้างยากนะ แต่ Venom ก็ยังอุตส่าห์ทำออกมาได้ ก็ต้องดูต่อไปว่า Venom จะขยันทำเล่ม 2 ออกมารึเปล่า แต่ถ้าไม่ได้ทำ เพื่อนๆก็ไม่ต้องกังวลเพราะผมคิดว่าซีรีย์หัวนี้ยังไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรต่อจักรวาลมาร์เวลในตอนนี้มากนัก ถึงไม่ได้อ่านก็คงไม่เป็นอะไรหรอก ฮ่าๆๆ.. แต่ถ้าใครอยากอ่าน ไว้เล่ม 2 ออกมาแล้วลองไปหาต้นฉบับภาษาอังกฤษมาลองอ่านดูเลยครับ จะได้ฝึกภาษากันไปในตัวด้วย

Musashi

6 ความคิดเห็น:

  1. ตรงหน้าสุดท้าย
    "ตานายแล้ว" ครับ ไม่ใช่ "ตายนายแล้ว"
    ยังไม่ทันไรเลย ตายเฉย 555555555555

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ27 ตุลาคม 2557 เวลา 11:46

    "ถุงมือที่สาปสูญเป็นดั่งความหรรษา (The Lost Glove is Happy)" ชอบการใช้คำมากเลยครับบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนพิมพ์ยังคิดอยู่เลยว่า มันจะลิเกไปรึเปล่าน๊อ คำนี้.. ฮ่าๆๆ ดีใจที่ชอบครับ

      ลบ
  3. หน้าปกนี่มัน Total Recall เวอร์ชั่นปี 1990

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมก็ว่าลักษณะหน้าปกมันคุ้นๆ พี่เมนต์มานี่ร้องอ๋อเลย.. แต่ผมไม่เคยดูนะ Total Recall ตอนนั้นยังเด็กมากแต่พอจำชื่อกับโปสเตอร์หนังได้ลางๆ

      ลบ