24 เมษายน 2558

Thor #6 (2015)

โอดินสันยังคงสงสัยว่าใครกันแน่คือธอร์หญิงคนใหม่
ส่วนโอดินเองก็ได้ส่งอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของแอสการ์ดออกไป
เพื่อทวงมโยลเนียร์คืนมาให้ได้... ไม่ว่ายังไงก็ตาม



Thor #6 (2015)
Who Holds the Hammer? Who is Thor pt 1
เรื่องโดย : Jason Aaron
ภาพโดย : Russell Dauterman | Matthew Wilson
วางจำหน่าย : 11 มีนาคม 2558
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

ใครคือผู้ถือค้อน ?


(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)






"พ่อของชั้นเป็นคนที่ร่ำรวยมาก"

"เขาเป็นเจ้าของเกาะในทะเลอีเจียน*ซึ่งครอบครัวของเราใช้พักผ่อนในวันหยุด"

"พ่อและแม่ของชั้น พี่ชายและพี่สาว ลุงๆ ป้าๆ ญาติๆอีกมากมาย"

"พวกเขาต่างเสียชีวิตลงบนเกาะแห่งนั้น"

*เกาะที่ว่าก็คือเกาะครีต (Crete Island) ซึ่งตามเทพปกรณัมกรีกนั้นเป็นที่ตั้งของทางวงกต (Labyrinth) ซึ่งกักขังมิโนทอร์เอาไว้ แต่เกาะครีตตามเทพปกรณัมกรีกนั้นอาจเป็นคนละเกาะกับเกาะครีตในปัจจุบัน






"ทุกคน ยกเว้นชั้น"

A : มีคนนึงกำลังหนีว่ะ

B : อ๊า มันแค่เด็กผู้ชายเองแล้วก็ไม่มีที่ไหนให้มันหนีไปได้หรอก เกาะนี้เป็นของพวกเราแล้ว!


"พวกโจรสลัดบุกเข้ามาในคืนนั้น คืนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นคืนที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของชั้น"

"ชั้นเพิ่งจะอายุเก้าขวบ"

B : มาเหอะ มาสนุกกันก่อนดีกว่า พวกเราจะไปฆ่าไอ้เด็กนั่นพรุ่งนี้เช้า







"ชั้นไม่เคยอธิษฐานมาก่อนเพราะชั้นไม่เคยเห็นว่ามันได้ผล"

"แต่ชั้นอธิษฐานในคืนนั้น"

"ชั้นอธิษฐานขอความตายและพลังและการแก้แค้น"

"ชั้นอธิษฐานจนกระทั่งกระดูกชั้นปวดเมื่อยและดวงตาชั้นแดงก่ำ"


A : ไอ้ถ้ำบ้านี่อย่างกับทางวงกตเลยว่ะ






"คำอธิษฐานของชั้นได้รับการตอบรับ"


B : ชั้นเห็นมันแล้ว! มันอยู่ตรงนี้!

A : ยิงมันซะแล้วไปหาข้าวเช้ากินกันดีกว่า


"แต่มันไม่ใช่เสียงของพระเจ้าที่ชั้นได้ยินในหูของชั้น"


B : อะ... อะไรน่ะที่อยู่บนหัวของเจ้าเด็กนี่ ? ดูอย่างกับ...







"มันเป็นเสียงคำราม"

"เสียงคำรามที่สุดท้ายชั้นก็ได้ตระหนัก..."

"...ว่ามันดังออกมาจากริมฝีปากของชั้นเอง"


??? : และข้าก็ว่าเจ้าคงคำรามมาตลอดนับตั้งแต่นั้นสินะ ใช่มั๊ย มิสเตอร์แอคเกอร์ ?

Dario Agger : บางครั้งบางคราวนะ

??? : แต่เจ้าไม่ได้ฆ่าเจ้าโจรสลัดพวกนั้น ?

Dario Agger : ไม่







เกาะร็อกซอน
ปัจจุบัน

Dario Agger : ชั้นตัดสินใจว่าชั้นชอบตอนพวกมันมีชีวิตอยู่มากกว่า

Malekith : มันคงต้องจ่ายแพงอย่างแรงที่จะเก็บพวกมันไว้แบบนี้สินะ

Malekith : ข้าขอปรบมือให้กับพันธกรณีแห่งความซาดิสม์ของเจ้านะ







Malekith : แต่ข้าสงสงสัยว่าเจ้าเตรียมพร้อมแล้วจริงๆหรือสำหรับผลลัพธ์ที่เกิดจากการต่อรองเล็กๆน้อยๆของเจ้าในถ้ำแห่งนั้น นั่นเป็นเทพเจ้าโบราณซึ่งกราดเกรี้ยวที่เจ้าได้ขายวิญญาณให้ไป

Dario Agger : พ่อของชั้นครอบครองเกาะ ชั้นจะครอบครองโลก นั่นคือผลลัพธ์เดียวที่ชั้นให้ความสนใจ

Malekith : อ๊า แต่ข้าไม่เชื่อว่าโลกเพียงใบเดียวจะเพียงพอสำหรับเจ้าหรอก ใช่มั๊ย ดาริโอ แอคเกอร์แห่งร็อกซอน

Dario Agger : แล้วมันเพียงพอสำหรับนายด้วยรึเปล่าละ มาเลคิธ ?

Malekith : สงครามเป็นดั่งสัตว์ร้ายที่หิวโหยและข้าเพียงหวังว่าจะเลี้ยงดูมันให้อิ่มหมีพีมันได้

Malekith : เจ้าล่ะกำลังคิดอะไรอยู่กับการเล่าเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟัง ? ถ้าเจ้ากำลังหวังว่าจะขู่ให้ข้ากลัวละก็ ข้าว่าเจ้าต้องใช้มากกว่าศรีษะพวกนี้กับเทพมีเขาแล้วล่ะ






Dario Agger : กะโหลกของราชาแห่งยักษ์น้ำแข็งไง สิ่งเดียวที่นายพยายามจะขโมยจากชั้น มันเป็นของนายแล้ว เชิญทำตามที่นายพอใจได้เลย

Malekith : และข้าขอบังอาจถามว่าอะไรที่เจ้าต้องการเป็นการแลกเปลี่ยน ?

Dario Agger : อาณาจักรของนาย สวาทัลฟ์ไฮม์ (Svartalfheim) ชั้นได้ยินมาว่ามันเป็นโลกแห่งหนองน้ำและป่าดงดิบ

Malekith : ใช่ หนองน้ำที่ใหญ่พอๆกับทะเล ทั้งหมดเต็มไปด้วยหมีบ็อก ฉลาดมัคค์ และปลาหมึกทะเลทราย

Dario Agger : ชั้นไม่ได้สนใจในวิถีชีวิตสัตว์ป่าของพวกนาย แค่สนใจในอะไรที่พวกมันจะกลายเป็นหลังจากการเน่าเปื่อยในช่วงไม่กี่ล้านปีที่ผ่านมานี่

Dario Agger : บอกชั้นสิ ราชามาเลคิธ...

Dario Agger : พวกเอลฟ์นี่เคยขุดเจาะน้ำมันกันรึเปล่า ?






แอสการ์เดีย

Odinsion : เจ้าต้องเห็นอะไรบ้างสิ







โอดินสันกำลังพยายามถามเฮมดัล (Heimdall) ถึงตัวตนที่แท้จริงของ(เ)ธอร์ แต่เฮมดัลบอกว่าอย่างที่เขาได้ตอบโอดินไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นผู้ตรัสรู้และหน้าที่ที่เขาสาบานว่าจะทำนั้นคือการตรวจตราเพื่อปกป้องอาณาจักรแห่งนี้จากภัยคุกคาม และไม่ว่า(เ)ธอร์คนนั้นจะเป็นใคร เธอไม่ได้เป็นภัยคุกคามใดๆต่อแอสการ์เดียแน่นอน

Odinson : ข้าเองก็คงไม่มอบนามของข้าให้นางถ้าหากข้าคิดเป็นอย่างอื่น แต่ข้ายังคงอยากรู้ว่านางคือใคร และทำไมนายถึงคู่ควรในขณะที่ข้าไม่




โอดินสันยังคงเชื่อว่า(เ)ธอร์นั้นจะต้องเป็นคนที่เขารู้จักและรู้จักเขาเป็นอย่างดี และยังคงตื้อขอให้เฮมดัลมองไปยัง(เ)ธอร์และบอกเขาหน่อยว่าเห็นอะไรบ้าง เฮมดัลจึงตอบกลับไปว่าอยากรู้หรือว่าเขาเห็นอะไร เขาเห็นมาเลคิธกำลังเตรียมการที่จะเป็นอันตรายแก่ทุกอาณาจักร เขามองเห็นพวกโทรล์ยังคงหลบซ่อนอยู่ในมิดการ์ด (โลก) เขามองเห็นสงคราม








Odinson : เฮ่อ ข้าลืมไปแล้วว่าอะไรที่สร้างมาจากอูรุ (Uru) สหายเอ๋ย แขนของข้าหรือหัวของท่านกันแน่ (โอดินสันพูดประชดเฮมดัลที่หัวแข็งเหลือเกิน ยังไงก็ไม่ยอมบอกว่า(เ)ธอร์เป็นใคร)

Odinson : เอาตามที่ท่านว่าก็ได้ เฮมดัลผู้เกรียงไกร เตรียมสะพานสายรุ้ง (Bifrost) ให้พร้อมแล้วกัน...






"และพาบุตรแห่งโอดินไปหาพวกโทรลล์นั่นหน่อย"


โอดินสันเดินทางด้วยไบฟรอสต์ไปยังที่ซ่อนตัวของพวกโทรลล์บนโลก อัดพวกมันไปก็บ่นกับตัวเองไปว่า(เ)ธอร์คือใครกันแน่ และคิดว่าบางทีมโยลเนียร์อาจจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ เช่น เปลี่ยนสีผมของเธอก็ได้ เขายังคงคิดว่า(เ)ธอร์น่าจะเป็นเลดี้ซิฟ (Sif) หรือบางทีอาจจะเป็นพี่สาวของเขา แองเจล่า (Angela) ก็ได้ หรือบางทีอาจจะ...

Odinson : บัดซบเอ๊ย ไปลงนรกให้หมดเลย! นางเป็นใครกันแน่! ข้าต้องรู้ให้ได้

Troll : ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย!!!






ต่อมาโอดินสันจึงกลับไปที่ดวงจันทร์ในจุดที่มโยลเนียร์เคยตั้งอยู่ตรงนั้น ในตอนแรกเขาคิดว่าคนที่จะออกมายังอวกาศและยกมโยลเนียร์ขึ้นได้บนดวงจันทร์นี้จะต้องเป็นเทพแน่นอน แต่เมื่อเขาคิดดูอีกทีว่าที่นี่คือเขตบลูแอเรีย (Blue Area) ของดวงจันทร์ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เฝ้ามอง (The Watcher) และมีอากาศอยู่ เพราะฉะนั้นคนที่จะหยิบมโยลเนียร์ไปนั้นจะเป็นใครก็ได้ แม้แต่มนุษย์ธรรมดา

ก่อนที่เขาจะบ่นกับตัวเองถึงเรื่องที่นิค ฟิวรี่ กระซิบบอกกับเขาจนทำให้เขากลายเป็นผู้ไม่คู่ควรกับมโยลเนียร์ และคิดว่าทำไมเขาถึงต้องได้ยินในสิ่งที่ฟิวรี่บอกด้วย และเขายังคงไม่เชื่อว่าสิ่งที่ฟิวรี่บอกนั้นเป็นเรื่องจริง ก่อนที่โวลสแตกก์ (Volstagg) จะมาบอกว่าโอดินสันมีคนที่ควรจะรีบไปพบก่อนที่จะสายเกินไป






นั่นก็คือ เจน ฟอสเตอร์ (Jane Foster) ซึ่งตอนนี้กำลังรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งหน้าอกอยู่ในแอสการ์เดีย (อ้าว! เจ๊แกป่วยอยู่นี่หรอ คือคนแปลก็ไม่ได้อ่านเรื่องของธอร์ก่อนหน้านี้มาก่อนเหมือนกัน ก็นึกว่าเจ๊แกอยู่ดีมีสุขที่ไหนซักแห่ง เลยเดาเลยว่าเจ๊แกต้องเป็น(เ)ธอร์หญิงคนใหม่แน่นอน ยังงี้ตัดผู้ต้องสงสัยไปได้อีกคนนึงล่ะ) โดยนางพยาบาลบอกว่าเจน ปฏิเสธการรักษาด้วยเวทมนต์ของแอสการ์ด ทำให้เหล่าผู้รักษาต้องใช้ยาของมิดการ์ดแทน แต่ด้วยเหตุผลที่พวกนางก็อธิบายไม่ได้ ยาเหล่านั้นกลับไม่ได้ผลอะไรเลยกับเจน โอดินสันจึงบอกว่าเขาจะพูดกล่อมให้เจนยอมเอง






Jane : คุณพยาบาล บอกความจริงชั้นหน่อยสิ... มีเทพสายฟ้าเสื้อผ้าไม่ใส่อยู่ต่อหน้าชั้นจริงๆมั๊ย ? หรือชั้นเพิ่งตายและมาอยู่ที่วัลฮัลลา (Valhalla) แล้ว ?






แต่เจนก็ยังไม่ยอมและยังพูดเล่นว่าขนาดเดทกับธอร์ เธอยังรอดชีวิตมาได้เลย นับประสาอะไรกับแค่ก้อนเนื้อเล็กๆในหน้าอกเธอจะมาทำให้เธอตายได้ และให้เหตุผลว่าเวทมนต์มากับราคาที่ต้องจ่ายเสมอ และยังพูดเล่นกับโอดินสันถึงเรื่องแขนเหล็กของเขาอีกด้วย

Jane : นี่ปกติคุณมีแขนเหล็กอยู่ตลอดแล้วชั้นไม่เคยสังเกตุเลยรึเปล่าเนี่ย ?

Odinson : แขนนี่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุดสำหรับอะไรที่ข้าสูญเสียไป และข้าจะไม่ยอมสูญเสียเจ้าไปเช่นกัน

Jane : ไม่ คุณไม่เสียชั้นไปหรอก






Jane : ได้โปรดบอกชั้นสิว่าคุณไม่ได้หันมาเรียกตัวเองว่าโอดินสันแล้วจริงๆ คุณเป็นอะไรมากกว่าแค่เด็กน้อยของพ่อคุณนะ ชั้นหวังว่าคุณจะรู้เรื่องนั้น

Odinson :เมื่อเจ้าหายดีแล้ว เจ้าจะเรียกข้าว่าอะไรก็ได้ตามที่เจ้าต้องการเลย

Jane : ชั้นจะจำเอาไว้ว่าคุณพูดแบบนั้นนะ พ่อเทพเจ้ากางเกงสายฟ้า


และโอดินสันก็ขีดฆ่าชื่อของเจนออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยเป็น(เ)ธอร์ที่เขาทำขึ้นมา






และในรายชื่อนั้น โอดินสัน วงกลมรอบชื่อๆหนึ่งไว้ นั่นก็คือ รอซ โซโลมอน (Roz Solomon)* ก่อนที่เขาจะหาเอเจนท์โคลสันบนเฮลิคาริเออร์ของหน่วยชิลด์ เพื่อถามโคลสันว่ารู้อะไรเกี่ยวกับ(เ)ธอร์บ้าง ซึ่งโคลสันบอกว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอเป็นใครกันแน่ๆ มีเพียงภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดและดาวเทียมซึ่งเมื่อนำไปหาในฐานข้อมูลใบหน้าของชิลด์แล้วก็ยังไม่พบว่าเธอเป็นใครกันแน่ และทางเขาเองก็หวังว่าโอดินสันต่างหากที่จะสามารถบอกเขาได้ว่าเธอเป็นใคร

*รอซ โซโลมอน เป็นเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของชิลด์ ปรากฎตัวครั้งแรกใน Thor: God of Thunder #12 - Once Upon a Time in Midgard (2013) และยังเคยเดทกับโอดินสันด้วย ซึ่งซีรีย์ที่แล้วของธอร์นั้นผมเองก็ไม่เคยอ่านถึงเล่มที่เธอปรากฎตัวเหมือน กัน เลยเล่าอะไรได้ไม่มากนะครับ







ทำให้โอดินสันโมโหจนฟาดจาร์นบีจอน (Jarnbjorn) เข้าใส่แผงควบคุมของเฮลิคาริเออร์ และถามหาเอเจนท์โซโลมอนกับโคลสัน ซึ่งโคลสันบอกว่าเธอกำลังอยู่ระหว่างพักร้อนหลังจากเหตุการณ์พวกโทรลล์โจมตีเมืองบร็อกซ์ตันตั้งแต่หลายอาทิตย์ก่อน แต่ถ้าโอดินสันอยากจะติดต่อเธอ เขาโทรตามให้กฌได้ ก่อนที่เขาจะถามว่าโอดินสันคิดว่ารอซ โซโลมอนเป็น(เ)ธอร์หญิงอย่างนั้นเหรอ







ทางด้านดาริโอ แอคเกอร์ (Dario Agger) ก็กำลังฉลองกับมาเลคิธ (Malekith) สำหรับข้อตกลงแลกเปลี่ยนระหว่างการมอบกะโหลกของลอเฟย์ ราชาของเหล่ายักษ์น้ำแข็งให้กับมาเลคิธ และมาเลคิธจะยอมให้ร็อกซอนสามารถขุดเจาะแร่ธาตุทุกอย่างในดินของทุกอาณาจักรที่มาเลคิธยึดครองได้ตลอดไป (แต่พูดกันไปก็ข่มกันไปนะ ประมาณว่าถ้าอีกฝ่ายผิดสัญญาละก็ โดนแน่) แต่ระหว่างนั้นเองฝ่ายตรวจตราของร็อกซอนก็รายงานเข้ามาว่าพบผู้บุกรุก






หน่วยตรวจตรารายงานว่าพวกเขาไม่สามารถทราบได้ว่ามีผู้บุกรุกกี่คนกันแน่ และเขาก็ยังไม่เห็นตัวผู้บุกรุกเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะพายุฝนฟ้าคะนองที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นกะทันหันทำให้การทำงานของเครื่องตรวจจับมีปัญหา

Dario Agger : เดี๋ยวนะ... นายเพิ่งพูดว่าพายุฝนฟ้าคะนองเหรอ ?

Soldier : มองเห็นเป้าหมายแล้ว! เปิดฉากยิงได้






และก็เป็นไปตามคาด ผู้บุกรุกก็คือ(เ)ธอร์นั่นเอง ที่ยืนรับลูกกระสุนจากปืนของหน่วยตรวจตราโดยไม่สะทกสะท้านเลย

Thor : เฮ่อ จั๊กกะจี๋นิดๆแฮะ






แอสการ์เดีย

เฟรยา (Freyja) เข้าไปต่อว่าโอดินเรื่องที่ส่งเดสทรอยเยอร์ (Destroyer) ลงไปหา(เ)ธอร์และยังให้เคิล (Cul Borson) หรือ เดอะเซอร์เพนท์ (The Serpent) ที่เคยก่อความวุ่นวายมาแล้วในอีเวนต์ Fear Itself เป็นคนควบคุมเดสทรอยเยอร์อีก แต่โอดินก็ไม่ฟังและยังบอกว่าตอนนี้เคิลยังมีความจงรักภักดีต่อเขามากกว่าเฟรยาซะอีก






นั่นทำให้เฟรยาโกรธและตบหน้าสามีของเธอทันที แต่โอดินก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรและบอกว่าเขาก็ต้องได้มโยลเนียร์คืนมายังแอสการ์ดให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม






ทางด้าน(เ)ธอร์ก็จัดการทีมตรวจตราของร็อกซอนเรียบร้อยและเตรียมตัวจะเข้าไปจัดการกับดาริโอ แอคเกอร์

Thor : ดาริโอ แอคเกอร์! ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะคอยจับตามองเจ้า! บอกข้าหน่อยซิว่านั่นไม่ใช่กลิ่นเหม็นสาบของมาเลคิธผู้ต้องสาปที่ข้าได้กลิ่น!

Thor : ไม่ว่าจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดอันชั่วร้ายแบบไหนก็ตามที่พวกเจ้าทั้งสองหวังว่าจะได้ทำในวันนี้ เทพีแห่งสายฟ้าคนนี้ขอสาบานกับเจ้าเลยว่ามันจะไม่มีทางกลายเป็น...

แต่ยังไม่ทันที่(เ)ธอร์จะพูดจบ เธอก็ถูกโจมตีด้วยลำแสงพลังงานความร้อนซะก่อน




และนั่นก็คือการโจมตีตากอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของแอสการ์ด ชุดเกราะมีชีวิตที่โอดินส่งมาเพื่อจัดการกับเธอและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้ได้ มันคือ "เดสทรอยเยอร์"



โปรดติดตามตอนต่อไป


จบเล่ม 6.

กดแค่ 1 ครั้งแทนคำขอบใจ คลิ๊กที่นี่

ซื้อคอมมิคเล่มนี้แบบดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ คลิ๊กที่นี่

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------


คุยกันท้ายเล่ม
          สำหรับเล่มนี้ บอกตรงๆว่าลืมทำครับ ฮ่าๆๆ... ปกติถ้าเป็นซีรีย์นี้ออกมาไม่เกิน 3 วันผมจะทำสปอยล์ทันที แต่เล่มนี้ดันลืมซะงั้น จนปัจจุบันเล่ม 7 ออกมาเรียบร้อยแล้วนั่นแหละถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าลืมทำ >_<"

          มีอีกเรื่องนึงที่ผมอยากจะเล่า คือตลกมากที่ไปเห็เพจซึ่ง "ตั้งชื่อเพจด้วยชื่อตัวละครมาร์เวล" สองสามเพจครับ ที่เอางานสปอยล์ของผมไปโพสต์ลงเพจตัวเอง บางเพจนี่อัพเป็นอัลบั้มเลยครับ แล้วก็แน่นอนว่าไม่ได้ลงเครดิตว่าเป็นงานสปอยล์ของผม ถึงจะไม่ได้โพสต์บอกว่าเพจตัวเองทำสปอยล์ตรงๆเองแต่ก็ใช้คำพูดในเชิงที่ชวนให้เข้าใจว่าเพจทำสปอยล์ขึ้นมาเอง ซึ่งก็ตลกดีนะครับ ผมไม่รู้คนพวกนี้เอาความภูมิใจอะไรจากการเอาผลงานของคนอื่นมาแอบอ้างเป็นของตัวเอง คือถ้าอยากจะช่วยเผยแพร่งานสปอยล์ของผม ทำลิงค์มาที่หน้าเวบนี้ก็พอครับ แล้วที่ตลกที่สุดคือ ในเมื่อคุณทำเพจโดยใช้ชื่อซูเปอร์ฮีโร่นะ คุณน่าจะรู้ดีนะครับว่าฮีโร่ควรเป็นคนยังไง ฮีโร่เค้าไม่แอบอ้างผลงานของคุณอื่นกันหรอกครับ เลิกพฤติกรรมอย่างนี้ซะนะครับ

Musashi

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 เมษายน 2558 เวลา 20:49

    เดสทรอยเยอร์จะมาเป็นกระสอบทรายซะเปล่าล่ะมั้งเนี่ย...
    ส่วนเรื่องโดนก๊อปผลงาน เป็นกำลังใจให้ครับ เรายังติดตามในนี้เสมอ

    ตอบลบ
  2. ผมก็ว่าทำไมหายไปไหนเช่นกัน

    ตอบลบ
  3. โอ้ว ไม่ใช่เจน ฟอสเตอรรรรรรรรรรรรรรร แล้วเป็นใครกันแน่เนี้ย

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ27 เมษายน 2558 เวลา 11:11

    ตกลงฟิวรี่บอก Thor ว่าไรก็ยังเงียบ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ28 เมษายน 2558 เวลา 22:17

    ฟิวรี่บอก Thor ว่าอะไรเนี่ย.... =_=

    ตอบลบ
  6. ความลับมากมายจัง

    ตอบลบ