14 มีนาคม 2557

Loki: Agent of Asgard #2 (2014)

ภารกิจตามหาเทพีลอเรไล และการปล้นคาสิโนในมอนติคาร์โล
ไปจนถึงการออกเดทด่วนของโลกิในนิวยอร์ค
และหญิงสาวที่ไม่เคยมีใครโกหกเธอได้!!




Loki: Agent of Asgard #2 (2014)
Loki and Lorelei, Sitting in a Tree...
เรื่องโดย : Al Ewing | ภาพโดย : Lee Garbett
วางจำหน่าย : 5 มีนาคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

เริ่มเรื่องที่การจัดเดท ด่วน (Speed Dating) ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค
มีผู้ชายหลายคนที่ดูเหมือนว่าจะพยายามเข้ามาพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่กลับถูกเธอตอกหน้าหงายกลับไปเพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่ผู้ชายพวกนั้นพูดมามีแต่เรื่องโกหกทั้งนั้น

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



จนกระทั่งผู้ชายคนล่าสุดที่เข้ามาคุยกับเธอ นั่นก็คือ โลกิ!

หญิงสาว : โอเค ว้าว โทษทีนะ นี่เรา.. นี่เรากำลังแต่งคอสเพลย์กันรึไง
Loki : ไม่รู้สิ



Loki : แล้วใช่รึเปล่าล่ะ ?

ปรากฎว่าเธอคือสาวเปรี้ยวพร้อมรอยสักเต็มแขนยังกะส้ม-อมรา
และดูเหมือนว่าเธอจะมีความสามารถในการรับรู้ได้ว่าใครพูดโกหกกับเธอ

(อืม.. สาวมาดโหดแบบนี้ก็ยังมาออกเดทด่วน แถมมีหนุ่มเข้ามาคุยเยอะซะด้วยแฮะ)



Loki : สำหรับคำถามที่คุณถามผมว่าเรากำลังเล่นแต่งคอสเพลย์กันอยู่รึเปล่า
Loki : จริงๆแล้วผมคือโลกิ เทพแห่งความซุกซน ที่ตอนนี้อยู่ในภารกิจลับจากพระแม่ทั้งมวล
ผู้คุ้มกฎแห่งชาวแอสการ์ดเพื่อผลตอบแทนคือการลบล้างความผิดที่ผมเคยทำไว้
ออกจากบันทึกของเหล่าเทพเจ้า
Loki : ผมรู้ว่ามันฟังดูเหมือนการโกหกที่ไร้สาระสุดๆ
แต่คุณรู้ว่ามันไม่ใช่ใช่มั๊ยล่ะ
Verity : ก็ใช่นะ แล้ว... แล้วอะไรคือภารกิจของนายในล่ะ
Loki : ตามหาเทพีที่ชื่อ ลอเรไล (Lorelei) น่ะ
Verity : ฉัน... ฉันไม่เห็นรู้จักเลย ว่านั่นมันใครกัน
Loki : แหงอยู่แล้ว คุณไม่รู้จักหรอก



นี่คือลอเรไล
น้องสาวที่ไม่ค่อยถูกกันนักของอาโมร่า เดอะ เอ็นชานเทร็ซ (The Enchantress)
สถานะ : มีชีวิตปกติดีอยู่
หายไปตอนเหตุการณ์แร็คนาร็อคและฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง
มีความสามารถหลบเลี่ยงจากการสายตาของเฮมดัล (Heimdall) ได้
บางครั้งก็เป็นศัตรูกับแอสการ์ด เดอะดีเฟนเดอร์ (The Defenders) และพลูโต (Pluto) ด้วย
และยังเคยเป็นคนรักเก่าของธอร์มาก่อนจากการล่อลวงด้วยเวทมนต์ รวมไปถึงโลกิด้วย
ซึ่งอาโมร่าเชื่อว่านั่นก็เป็นเพราะเวทมนต์เหมือนกัน
ซึงภารกิจครั้งนี้ก็คือการพาตัวลอเรไลที่หนีมายังโลกกลับไปยังแอสการ์ด



และโลกิก็นึกย้อนไปถึง 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
ที่พระแม่ทั้งสามมาบอกภารกิจใหม่ โดยจำแลงกายเข้ามาผ่านทางน้ำพันช์!!?

Loki : พระแม่ จะให้ผมบอกเพื่อนบ้านคนใหม่ของผมที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่นาทีนี้ของผมว่ายังไงเนี่ย ?
Loki : เชิญๆ เข้ามาเติมความสดชื่นซะหน่อยด้วยน้ำที่มีหัวของแม่บุญธรรมของผมลอยอยู่งั้นเหรอ ?
Freeya : เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือไงว่าตอนนี้ลอเรไลอยู่ที่ไหน โลกิ
Freeya : ข้าเหมือนจะจำได้ว่า เจ้าสองคนครั้งนึงเคยเป็นอะไรที่.. ใกล้ชิด
Loki : อ่า.. ใช่ๆ เราเคย.. อะไรประมาณนั้น



โลกิยังคงเล่าเรื่องการตามหาลอเรไลให้หญิงสาวฟังต่อไป

"การหาตัวลอเรไลมันเป็นแค่เรื่องง่ายๆ"
"ญาติผู้น้องที่ถูกเกลียดเหมือนกัน แถมยังเป็นพวกเจ้าเล่ห์เหมือนกันอีก"
"แน่นอนอยู่แล้วว่าเราต้องคิดอะไรคล้ายๆกัน"

"และผมยังมีแหล่งข้อมูลที่ชาวแอสการ์ดทั้งหมดไม่เคยคิดที่จะใช้"
"เช่น หนังสือพิมพ์ กับ อินเทอร์เน็ต"
"การไล่อ่านมันไปเรื่อยๆ มันทำให้ผมเห็นรูปแบบที่เกิดขึ้นทุกๆ ปี"

และในที่สุดเขาก็ได้เบาะแสของลอเรไลจากข่าวที่อ่านในหนังสือพิมพ์



ซึ่งนั่นก็คือในบ่อนคาสิโนแห่งหนึ่ง ในมอนติคาโล (Monte Carlo)
ที่เก็บเงิน 1 พันล้านยูโรไว้ในที่ๆปลอดภัยที่สุดเท่าที่มนุษย์จะรู้จัก
และทุกๆ ปีลอเรไลจะปรากฎตัวพร้อมกับพรรคพวกของเธอ
เพื่อที่จะมาขโมยเงินก้อนนี้ที่ว่ากันว่าไม่มีทางขโมยได้ และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย



และลอเรไลก็ปรากฎตัวขึ้นมาจริงๆ พร้อมกับเพื่อนสาวสองคน

"ถ้าเป็นก่อนการปล้น เธอจะรู้แน่ว่าผมมาแล้ว
ถ้าหลังจากเธอปล้นเสร็จ เธอก็คงจะหายแว๊บไป
เพราะฉะนั้น ถ้าผมอยากจะจับเธอให้ได้ละก็"

"มันจะต้องเป็นระหว่างการปล้นนี่แหละ"

Heist แปลว่า การปล้น



ซึ่งแผนการของพวกเธอคือปรากฎตัวเพื่อดึงดูดความสนใจพวกการ์ดไว้
และหายตัวไปต่อหน้าต่อตา ทำให้แขกในคาสิโนคิดว่าเป็นการโชว์มายากลฆ่าเวลา
ส่วนพวกการ์ดก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

Lorelei : ภาพลวงตานั่นคงจะเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขาไม่ได้นานนักหรอก
รีบๆแฮคเจ้าประตูนิรภัยนั้นซะทีเถอะน่า ทริคซี่

"เรื่องนึงเกี่ยวกับมนต์บังตานะ พวกมันจะทำให้เกิดการรบกวนกันเอง
"เช่น ถ้าผมร่ายมนต์เพื่อ.. ปลอมตัวละกัน มันจะมีปฏิกิริยากับมนต์ของลอเรไลด้วย
ซึ่งมันจะกลายเป็นการเตือนให้เธอรู้ตัวไป"

Tipped Her Off มาจาก tip-off ที่แปลว่า "การเตือน"

"เพราะงั้นก็อย่างที่ชาวมิดการ์ดพูดกันละนะ"

"เมื่อกำลังออกเดท"



"จงเป็นตัวของตัวเอง"

และในขณะที่ลอเรไลกับพวกกำลังพยายามจะแฮคประตูนิรภัยอยู่นั้น
ก็มีชายคนนึงปรากฎตัวพร้อมเล็งปืนไปที่พวกเธอ

หญิงสาว : ว้าว! งั้นนั่นก็เป็นคุณสินะ
Loki : อะไรนะ ? ไม่! ทำไมผมถึงต้องใช้ปืนด้วยล่ะ

ในขณะที่ชายคนนั้นแสดงตัวว่าเป็นตำรวจสากล (Interpol)
พรรคพวกของลอเรไลที่ชื่อเดซี่ก็ทำท่าจะยิงต่อสู้
แต่ลอเรไลกลับบอกว่าเธอจัดการเองได้ และ..



ด้วยวิชามนต์เสน่ห์ที่เธอถนัดก็ส่งพ่อหนวดมาดเท่ลงไปนอนฝันหวานง่ายๆซะยังงั้น

และในขณะที่ทริคซี่บอกว่ากำลังจะแฮคประตูนิรภัยได้ในอีก 20 วินาที
ลอเรไลจึงส่งเครื่องรางล่องหน (อันเดียวกับที่ใช้หายตัวตอนแรก) ให้กับเดซี่
เพื่อให้ไปนำรถมารอรับพวกเธอได้เลย



แต่ปรากฎว่าพอเดซี่ใช้เครื่องรางเดินออกไป กลับถูกมองเห็นตัวและโดนล้อมจับเอาง่ายๆ

Daisy : เป็นไปได้ไงนี้ ไอ้เจ้านี่เพิ่งจะช่วยเราเดินผ่านคนพวกนี้ไปเมื่อกี้แหม่บๆ
Daisy : เอ๊ะ?!

ทันทีที่ก้มลงมองเครื่องรางในมือ เดซี่ถึงได้เห็นว่ามันกลายเป็นของปลอมไปซะแล้ว
(แถมตีตรา Made In Taiwan ซะด้วย)
แน่นอนว่าของจริงมาอยู่ในมือโลกิแล้ว ถูกเปลี่ยนไปตอนไหนกันละเนี่ย ?



ทางด้านทริคซี่ก็สามารถปลดล็อคประตูได้แล้ว
แต่เมื่อเข้าไปในห้องประตูกลับปิดและขังพวกเธอไว้ข้างใน

Trixie : งั้นเราก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะคุยกันซักหน่อยแล้วสิ
Lorelei : ...
Lorelei : ทริคซี่ นักเจาะระบบ
Lorelei : เธอไม่ใช่คนที่เธอบอกว่าเธอเป็นนี่นา
Trixie : โอ้! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ

แล้วทันใดนั้นทริคซี่ก็กลายร่างเป็นโลกิ

Loki : เพราะว่าบางคนก็เรียกผมว่าจอมเจ้าเลห์เหมือนกัน

Some Would Say I'm As Tricksy As They Come.
ตรงนี้ในภาษาอังกฤษจะเล่นคำระหว่างชื่อ Trixie กับคำว่า Tricksy ที่เป็นคำคุณศัพท์แปลว่าเจ้าเล่ห์
นั่นคือโลกิจะเล่นมุกบอกว่าเขาก็คือทริคซี่นั่นเอง



หญิงสาว : เดี๋ยวนะ.. นั่นเป็นนายหรอ ?
Loki : สวัสดี! สายลับพันหน้า ไง
หญิงสาว : แต่.. นายบอกว่า
Loki : ก็ใช่ไง นั่นแหละการเป็นตัวของตัวเองของผม

ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Shapeshifter ซึ่งแปลตรงตัวว่า "จำแลง"
หรือใช้พูดถึงอสุรกายที่แปลงร่างได้ เช่น มนุษย์หมาป่า หรือแวมไพร์ที่แปลงร่างเป็นค้างคาวได้
ในมาร์เวลเองก็มักจะใช้คำนี้หมายความถึงพวกสครัล (Skrull)
ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวเผ่าหนึ่งที่แปลงร่างได้ มีบทบาทสำคัญมากในอีเวนต์ Secret Invasion
แต่ผมคิดว่าในกรณีนี้ใช้คำว่าสายลับพันหน้าน่าจะเข้ากับบริบทของภาษาไทยเราได้มากกว่า




Lorelei : น่าสนใจมาก
นี่ชั้นใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ ทำงานร่วมกับทริคซี่มานะ
โลกิที่ชั้นรู้จักไม่มีทางทนแปลงร่างอยู่อย่าางนั้นได้นานขนาดนี้หรอก

(คือผู้หญิงที่ชื่อทริคซี่ ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้แต่แรกแล้ว
แต่เป็นโลกิที่จำแลงตัวเป็นเธอขึ้นมา และค่อยไปทำความรู้จักกับลอเรไลก่อนการปล้นครั้งนี้
ทำให้มนต์บังตาของโลกิไม่เกิดปฏิกริยากับมนต์บังตาที่ลอเรไลใช้ตอนปรากฎตัวในบ่อนคาสิโน)

Loki : บางทีผมอาจจะไม่ใช่โลกิที่คุณรู้จักแล้วก็ได้

Lorelei : นี่ไม่ฉลาดเอาซะเลย
Lorelei :  แต่ว่านะ ชั้นได้ยินว่านายกลายเป็นลูกหมาน้อยของพระแม่ทั้งมวลไปแล้วนี่นา
Lorelei :  พวกเธอคงให้นายมาตามชั้นกลับไปละสิ
Lorelei :  บอกชั้นมาหน่อยสิ ว่านายคิดจริงๆนะหรอว่าชั้นจะเข้าห้องนี้มา
โดยมีทางออกไว้แค่ทางเดียว ?
Lorelei :  หรือว่าชั้นจะไม่เผื่อช่องทางเอาไว้ขนเงินพันล้านยูโรออกไปเลยกันล่ะ

Loki : ลอเรไล เดี๋ยวก่อน!! ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อ..

Lorelei :  น่าอายจริงๆเลย โลกิ เจ้าหมาน้อย
Lorelei :  คราวหน้าถ้าเราเจอกัน นายคงมีปลอกคอใส่มาด้วยแหงๆ

ว่าแล้วลอเรไลก็เปิดกระเป๋าที่เธอถือมาด้วยออก แล้วหายเข้าไปในนั้น
ส่วนโลกิที่ทำงานพลาดไปแล้วก็คิดว่า ไหนๆก็มาถึงมอนติคาโลทั้งทีแล้ว..
ก็เลยกวาดเงินในห้องใส่กระเป่าซะเลย



หญิงสาว : ว้าว! แล้วเป็นไงต่อล่ะ ?

Loki : เป็นไงต่อนะหรอ ? ลอเรไลก็คงต้องรีบหาเงินก้อนใหม่ให้เร็วที่สุดละมั๊ง
Loki : หมายถึงกลับไปใช้วิธียอดนิยมแบบโบราณๆน่ะ
Loki : คือเธอคงต้องหาเหยื่อที่จะต้องมนต์เธอได้ง่ายๆหน่อย
Loki : พวกหนุ่มโสด หนุ่มอกหัก ที่ๆมีพวกนี้มากๆ ยิ่งดี

The More The Merrier ในประโยคนี้เป็นสำนวนหมายถึง ยิ่งมาก ยิ่งสนุก

Loki : เพราะงั้นก็ สวัสดี! เดทด่วน
Loki : แต่มีประเด็นอยู่หน่อยนะ
Loki : คือทุกคนที่นี่จะเห็นผมเป็นพ่อม่ายอายุ 40 ชื่อ เคน
Loki : ทุกคนๆเลย ยกเว้นคุณ ตลกดีมั๊ยล่ะ

หญิงสาว : เดี๋ยวสิ คุณคงไม่คิดว่าฉันเป็น..

Loki : อะไรนะ ? ไม่หรอก
Loki : ลอเรไลยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่านี่คือผม
Loki : แล้วผมก็แอบเอาเครื่องติดตามใส่ลงไปในกระเป๋าตังค์ของเธอเอาไว้
Loki : เอาจริงๆ แล้ว ตอนนี้เธออยู่โต๊ะข้างๆเรานี่เอง
Loki : แม่สาวย้อมผมบลอนด์ เสื้อแจ็คเก็ตสีม่วง
Loki : อย่าหันไปมองล่ะ

None The Wiser เป็นสำนวนหมายถึงไม่รู้ตัวเลย เช่น
A : "Let's not tell our classmate that we copied his study notes"
B : "Yeah, we'll pass the test and our classmate will be none the wiser"


ซึ่งลอเรไลก็กำลังใช้มนต์สะกดให้หนุ่มที่เธอกำลังคุยด้วยยกกระเป๋าสตางค์ให้เธอดื้อๆเลย

Loki : ยังไงก็ตามนะ คุณเป็นคนเดียวเลยที่เห็นตัวจริงของผมได้
ผมชักสงสัยแล้วสิว่าทำไม



หญิงสาวจึงบอกว่าเธอชื่อเวอริตี้ วิลลิส (Verity Willis)
เป็นคนที่ไม่เคยมีใครโกหกเธอเลย เพราะไม่มีใครสามารถทำได้
เนื่องจากเธอมีพลังพิเศษที่จะทำให้รู้ความจริงอยู่เสมอ
เธอจึงเป็นเด็กที่ไม่เคยเชื่อเรื่องซานตาครอส หรือแม้แต่ดูหนังเธอก็ยังดูไม่ได้
เพราะอึดอัดกับบทบาทการแสดงที่เธอดูก็รู้ว่ามันแกล้งทำ
เธอเลยหันมาสนใจด้านคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ การเขียนโปรแกรม และหลักฟิสิกส์แทน
เพราะเธอรู้ว่านั่นคือความจริงแท้

"และชั้นก็พยายามจะแสดงว่าแค่นั้นก็พอแล้ว...
เพื่อที่จะหลอกตัวเองไปวันๆ"



Loki : เข้มแข็งไว้นะ เวอริตี้
Loki : มันต้องมีใครซักคนในโลกนี้ที่จะไม่มีวันโกหกคุณอยู่
Loki : ไม่ใช่ผมหรอก แหงอยู่แล้ว แต่ใครคนนั้นมีอยู่แน่ๆ
Loki : เชื่อผมเถอะ

ลอเรไลก็ลุกออกไปพอดี โลกิจึงบอกว่าด้วยภารกิจของเขา เพราะงั้นเขาต้องตามเธอไปแล้ว
แม้ว่าเวอริตี้จะถามว่าเธอจะได้เจอกับเขาอีกมั๊ย โลกิก็ตอบว่าไม่แน่



แต่แทนที่จะออกมาตามจับตัวลอเรไลตามที่โลกิเล่าให้เวอริตี้ฟัง
ปรากฎว่าโลกิกลับออกมายืนคุยกับลอเรไลหน้าตาเฉยซะงั้น

Lorelei : โลกิ เจ้าหมาน้อย
Lorelei : ยกเว้นแต่ว่าโลกิโกหกอยู่ตลอด ใช่มั๊ยล่ะ ?
Lorelei : นี่นายทำงานให้กับพระแม่ทั้งมวลอยู่จริงอ่ะ

Loki : โอ้! แน่นอนที่สุด
Loki : แล้วผมก็เพิ่งจะทำภารกิจสำคัญมากๆล้มเหลวไปซะด้วย
Loki : ภารกิจในการพาตัวเธอกลับไปยังแอสการ์ดไง

Lorelei : ต้องงี้สิถึงจะเป็นจอมเจ้าเล่ห์ที่ชั้นจำได้
Lorelei : ไหนบอกมาสิทำไมตอนนั้นถึงปล่อยให้ชั้นหนีมา
Lorelei : และไม่จับชั้นขังไว้ที่นั่นซะล่ะ

Loki : เพราะว่าผมกำลังต้องการพรรคพวกนะสิ
สำหรับการก่ออาชญากรรม (Caper) ที่จะทำให้การปล้นคาสิโนของคุณกลายเป็น..
Loki : เอ้อ.. คืนเดทด่วนห่วยๆ ไปเลยล่ะ

Lorelei : พ่อสาริกาลิ้นทองโลกิไม่ชอบเดทด่วนงั้นหรอเนี่ย
Lorelei : จากที่ชั้นเห็น นายไปได้สวยเลยนะ

Silver Tounge หมายถึงคนที่มีความสามารถในการพูดโน้มน้าวเก่ง
ถ้าเทียบกับคำภาษาไทยก็คือ สาริกาลิ้นทอง นั่นเอง


Loki : เธอไม่ได้เห็นชั้นพังไม่เป็นท่าตอนปีใหม่นะสิ
Loki : แย่หน่อยที่ลิ้นชั้นมันไม่ได้ดึงดูดขนาดนั้นแล้ว

Lorelei : นายดูไปได้ดีกับแม่สาวเดินดินคนนั้นนะ

Loki : แค่อยากรู้อยากเห็นเฉยๆน่ะ
Loki : ไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว
Loki : ชั้นลบเธอออกไปจากความทรงจำเรียบร้อยล่ะ

แต่โลกิกลับไม่รู้ตัวเลยว่าเวอริตี้แอบตามมา และได้ยินที่โลกิพูดทุกคำ

Verity : เฮ้! ไอ้คนโกหก

(คิดว่าเวอริตี้สนใจในตัวโลกิที่ไม่พยายามโกหกเธอเหมือนคนอื่น และเล่าเรื่องภารกิจให้เธอฟัง
ทั้งๆที่ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะจริงเลยซักนิด แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
และก็เชื่อว่าโลกิจะตามจับตัวลอเรไลจริงๆ อย่างที่เขาบอก เพราะไม่มีใครโกหกเธอได้
แต่พอตามออกมาดู กลับเห็นโลกิไม่จับลอเรไลเหมือนที่บอกกับเธอ
เลยกลายเป็นว่าโลกิเป็นคนแรกที่โกหกเธอได้)


จบเล่ม 2.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
         
เล่มนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ นอกจากจะเน้นให้เห็นเอกลักษณ์ความเป็นจอมเจ่าเล่ห์ของโลกิ ที่สามารถโกหกได้แม้แต่คนที่ไม่เคยมีใครโกหกได้อย่างเวอริตี้ รวมถึงน่าจะเป็นการปูพื้นไปถึงเหตุการณ์ใหญ่ของซีรีย์ ที่ไม่รู้ว่าโลกิวางแผนจะก่ออาชญากรรมอะไรกันแน่ และทำไมโลกิถึงไม่ยอมทำภารกิจตามตัวลอเรไลกลับแอสการ์ดตามที่พระแม่ทั้งมวลสั่งให้ทำ.. หรือว่าโลกินี่มันจะเชื่อถือไม่ได้ซะเลยจริงๆ ?

14 ความคิดเห็น:

  1. โลกิก็ต้องเป็นโลกิแหละนะ ต้องแบบนี้ถึงจะเป็นโลกิ
    อ่านแล้วอารมณ์เหมือนเรียนภาษาจากคอมมิคเลย 55555
    ขอบคุณมากๆค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นความตั้งใจที่จะสอดแทรกความรู้ภาษาอังกฤษเล็กๆน้อยๆเข้าไปอยู่แล้วครับ.. ตัวคนสปอยล์เองก็ไม่ได้เก่งอังกฤษอะไรหรอก คุยกับฝรั่งยังไม่ได้เลย แต่ก็อาศัยความตั้งใจและอยากแบ่งปันอ่ะนะ.. อย่างน้อยๆ ถ้ามีน้องๆเยาวชนเข้ามาอ่านบล็อกนี้ ก็จะได้อะไรกลับไปบ้าง นอกจากความบันเทิงอย่างเดียว.. ขอบคุณที่แวะเข้ามานะครับ ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะ มีข้อผิดพลาดด้านภาษาตรงไหน ก็แนะนำกันเข้ามานะครับ ^^

      ลบ
  2. โลกิต้องเป็นแบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นเขา 55 ขอบคุณครัชที่แปลมาให้อ่านจะติดตามต่อไปเรื่อยๆนะครัช

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ จะจัดให้เรื่อบๆครับ ^^

      ลบ
  3. เนื้อเรื่องตื่นเต้นดีฮะ โลกิ ชอบ 555+

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ18 มีนาคม 2557 เวลา 21:26

    ขอบคุณครับชอบหัวนี้มากเลยสนุกดีครับ มีสอนภาษาด้วยชอบๆ ^^

    ตอบลบ
  5. ลอเรไล เพิงออกมาตอนล่าสุดของ Agent of shield ไปเอง แต่เป็นSIFทีมาตามตัวกลับไป

    ตอบลบ
  6. Alien ที่บุกโลกตอน Secret Invasion คือพวก Skrull นะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จ๊ากกก! ผมเบลอไปหน่อย จะพิมพ์ว่า Skrull ดันไปใส่ Kree เฉยเลย แถมทำลิงค์ไปหาข้อมูลของ Kree อีกตะหาก.. ขอบคุณมากครับ ไปแก้แป๊บ ^^

      ลบ
  7. สนุกจัง แปลดีด้วย ขอบคุณมาก ชอบโลกิแบบนี้ดูเจ้าเล่ห์ แต่ก็น่ารัก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากครับ มีกำลังใจสปอยล์ต่อเลย ^^

      ลบ
  8. แปลสนุกมากฮะ เหมือนได้เรียนภาษาไปด้วยดีจริงๆ><

    ตอบลบ
  9. ได้เกร็ดภาษาไปด้วย ขอบคุณค่ะ
    แหม.. โลกิมันโกหกแม้กระทั่งคนที่ไม่มีใครโกหกได้ โห... พ่อคุณ

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2557 เวลา 18:14

    แปลสนุกมาก ขอบคุณค่า แถมได้ความรู้ด้วย (Y)

    ตอบลบ