8 มีนาคม 2557

The Punisher #2 (2014)

เมื่อแฟรงค์ แคสเซิลต้องเผชิญกับกองกำลังของนักค้ายาเสพย์ติด ดอส โซเลส
พร้อม "อาวุธ" ร้ายแรงชนิดใหม่ที่พวกนั้นได้รับมาจาก A.I.M.
และยังมีหน่วยฮาวด์ลิ่งคอมมานโดที่กำลังเข้าประชิดถึงตัวเขามากขึ้นทุกทีแล้ว



The Punisher #2 (2014)
Coyote
เรื่องโดย : Nathan Edmondson | ภาพโดย : Mitch Gerads
วางจำหน่าย : 19 กุมภาพันธ์ 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

5 เดือนที่แล้ว เม็กซิโก
พันนิชเชอร์หรือป๋าแฟรงค์ของเราที่ออกจากนิวยอร์คมา
เพื่อตามรอยแกงค์อาชญากรรมแกงค์หนึ่งข้ามประเทศมาจนถึงเม็กซิโก
ได้พบเป้าหมายของเขาแล้วในถึงเมืองเล็กๆแห่งนี้
และเขากำลังจะให้พวกมันได้ชดใช้กับความชั่วร้ายที่พวกมันก่อ
นอกซะจาก..

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



มีใครชิงจัดการพวกมันไปก่อนเขาซะแล้ว



ซึ่งป๋าแฟรงค์คิดว่าน่าจะเป็นการแย่งชิงกันทางธุรกิจของพวกแกงค์
และจะต้องเป็นพวกที่มีมีอาวุธร้ายแรงอยู่ซะด้วย



วันนี้ ด้านนอกของลอสแอนเจลิส
ป๋าแฟรงค์กำลังซุ่มโป่งดูการซื้อขายอาวุธระหว่างแกงค์ของดอส โซเลส
กับใครซักคน ที่ดูแล้วอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของ A.I.M.
ซึ่งจัดว่าเป็นองค์กรลูกของ Hydra ที่รวบรวมไปด้วยเหล่านักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
โดยมีหน้าที่ผลิตอาวุธให้แก่กองกำลังของ Hydra


แต่เมื่อเปิดประตูหลังรถที่น่าจะขนสินค้าออกมาก็เกิดแสงมาแยงตาป๋าแฟรงค์เข้า
จนทำให้มือปัดไปโดนกล้องส่องทางไกลกระทบพื้น



และเจ้าโซเลสก็ดันหูดีซะเหลือเกิน เลยสั่งให้ลูกน้อง 2 คนไปตรวจสอบดู
ส่วนตัวเองบอกว่าจะพาเอเยนต์ของ A.I.M. ไปที่รังของมันในแอลเอ



พอเจ้าลูกน้องสองหน่อของโซเลสเดินมาดูที่ๆป๋าแฟรงค์อยู่
ก็กลับพบหมาโคโยตี้ที่บังเอิญอยู่แถวๆนั้นพอดีกระโจนเข้าใส่
พวกมันเลยคิดจะยิงหมาทิ้ง ป๋าแฟรงค์เลยออกมาจากที่ซ่อนหลังก้อนหิน
แล้วเป่ากบาลลิ่วล้อทั้งสองซะเลย

"Easy, Killer. No One's Going To Hurt You Now."
"ใจเย็นๆ พ่อนักฆ่า ไม่มีใครจะทำร้ายแกได้อีกแล้วตอนนี้"

คำว่า Easy นอกจากจะแปลว่า "ง่าย" แล้ว ในสถานการณ์บางอย่าง ยังหมายถึง "ใจเย็นๆ"
ได้อีกด้วย เช่น "Take It Easy" หมายถึง ทำใจเย็นๆ เป็นต้น



มีแค่นายกับชั้นเท่านั้นแหละ
แล้วก็อาวุธที่มุ่งหน้าไปลอสแอนเจลิสแล้ว



เช้าวันต่อมา ในร้านกาแฟของลู
ป๋าแฟรงค์ก็นั่งนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่คุณกับเจ้าหน้าที่แซมไปด้วย

"There Is a Strata of Villians Too Dangerous for The Cops
but Not Big Enough for The Super Heroes."
"มันมีระดับของพวกวายร้ายที่อันตรายเกินไปสำหรับพวกตำรวจ
แต่ก็ไม่ใหญ่พอสำหรับพวกซูเปอร์ฮีโร่"

ที่ชั้นทิ้งนิวยอร์คบ้านเกิดออกมาเพราะเห็นว่ายังมีที่อื่นอีกที่มีการดูแลน้อยกว่านิวยอร์ค
และสำหรับชั้นแล้วบ้านไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าสนามล่าเนื้อ
..และตอนนี้ชั้นเปลี่ยนสนามแล้ว

ตอนนี้พวกดอส โซเลสมีอาวุธที่มีพลังอำนาจยิ่งกว่าอาวุธของตำรวจแอลเอพีดี
และยังมีผู้หนุนหลังที่ร้ายกาจยิ่งกว่า
เพราะฉะนั้น แม้ว่าชั้นจะไม่รู้ว่าชั้นกำลังเจออยู่กับอะไร..



เพื่อนทหารที่น่าจะชื่อ Tuggs (ตั๊ก ? ไม่มั๊ง น่าจะอ่านว่า ทักส์) ก็เข้ามาเรียกให้เค้าออกไปคุยข้างนอก
ป๋าแฟรงค์ก็เล่าให้ฟังว่าพวกดอส โซเลสได้อาวุธใหม่มา
แม้ว่าเค้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่ใช่อาวุธเคมีแบบที่พวกมันเคยใช้ในเม็กซิโก
ทักส์ : บางทีนายควรจะเรียกตำรวจมาจัดการนะ
Punisher : ชั้นต้องปกป้องพวกตำรวจน่ะ ทักส์ส์
(คือป๋าคิดว่าถ้าให้พวกตำรวจจัดการ พวกตำรวจนี่แหละจะเป็นอันตรายซะเอง
เพราะงั้นให้ป๋าจัดการเองดีกว่า ถือเป็นการปกป้องพวกตำรวจไปด้วยในตัว)
แล้วทักส์เห็นป๋าแฟรงค์ถือถุงอาหารมาด้วย เลยบอกว่าขอกินมั่งดิ กำลังหิวเลย
ป๋าแฟรงค์บอกว่าไม่ได้ นี่มันไม่ใช่ของชั้น
ทักส์ : เดี๋ยวนะ.. นายพาสาวไปที่ห้องหรอไง
Punisher : ไม่ใช่ แต่ชั้นอยากให้นายดูแลใครบางคนแทนชั้นที



ซึ่งนั่นก็คือหมาโคโยตี้ที่ป๋าแฟรงค์ช่วยมานั่นเอง
แม้ว่าทักส์จะบอกปฏิเสธว่าเค้าเอาสัตว์ป่าเข้าไปเลี้ยงในบ้านไม่ได้
แต่ป๋าแฟรงค์ก็ไม่สนใจและบอกว่ามันกำลังบาดเจ็บอยู่
และเค้าตั้งชื่อให้มันว่า ลูท (Loot = ของที่ขโมยมา)
แล้วก็บอกว่าจะไปตามรอยอาวุธพวกนั้นต่อ แล้วก็แวนซ์ออกไปทันที

ทักส์ : ลูทหรอ ? แกเอ่อ.. กัดรึเปล่าเนี่ย ?



ย่านเอลเซกุนโด
ตำรวจแอลเอ 3 คนรวมถึงเจ้าหน้าที่แซมกำลังยิงต่อสู้อยู่กับกลุ่มโจร แต่ดูท่าทีแล้วจะสู้ไม่ไหว
เจ้าหน้าที่ชาย 2 คนจึงบอกให้เจ้าหน้าที่แซมยิงคุ้มกันให้ด้วยส่วนพวกเค้าจะบุกฝ่าเข้าไป



แต่ยังไม่ทันไรก็มีแสงที่ดูเหมือนจะเป็นกระแสไฟฟ้าช็อตใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายทันที



ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชายทั้ง 2 โดนช็อตนอนอยู่ เจ้าหน้าที่แซมก็ยังทำใจดีสู้เสือ

"วะ-วะ-วางอาวุธลง พวกนายมีสิทธิ์ที่จะ มะ-มะ-ไม่พูด"

แต่ดูเหมือนเจ้ากุ๊ยทั้งสองจะไม่ได้กลัวเลย แถมยังเล็งปืนมาที่เธออีก
แล้วป๋าแฟรงค์ พระเอกของเราก็มา
ประเดิมด้วยการโยนระเบิดควันเข้าไปก่อน แล้วกราดยิงทันที



ป๋าแฟรงค์เป่ากบาลดับไป 1
แซม : ถอยออกมา.. พวกมัน.. ถอยออกมา.. พวกมันมีอาวุธประหลาดอยู่
Punisher : นอนลงไปเถอะ ชั้นจัดการต่อเอง
ว่าแล้วก็เป่ากบาลดับไปอีก 1



ระหว่างนั้นก็มีรถบรรทุกคันนึงขับหนีออกไป
ป๋าแฟรงค์เลยบอกว่าดูท่าพวกมันกำลังมุ่งลงใต้ไปทางสนามบิน
และบอกให้แซมอยู่ที่นี่ แล้วก็แวนซ์ตามไปทันที



แล้วก็มีรถอีกคนนึงขับตามป๋าแฟรงค์มาอีกที
ซึ่งดูเหมือนป๋าโหดเราจะไม่ได้ใส่ใจ เลยแจกน้อยหน่าลูกเล็กๆให้ไปเป็นของขวัญซะ

"The Only Crime in War ... Is To Lose"

"อาชญากรรมเดียวในสงคราม ...คือการพ่ายแพ้"



"อันตรายเกินไปสำหรับพวกตำรวจ
แต่ก็ไม่ใหญ่พอสำหรับพวกซูเปอร์ฮีโร่
นั่นแหละการต่อสู้ที่เหมาะสมกับชั้น"

แต่เก๊กได้ไม่ทันไร ป๋าแฟรงค์ก็โดนเล่นงานด้วยลำแสงเป็นชนิดเดียวกับที่เล่นงานตำรวจทั้ง 2 นาย
จนมอเตอร์ไซค์คว่ำลงไปนอนคลุกฝุ่น



ส่วนเจ้าหน้าที่แซมก็กำลังให้การกับฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกดอส โซเลสมีอาวุธชนิดใหม่"
"พวกเราไม่มีโอกาสสู้ได้เลย จนกระทั่งเขา (Punisher) ปรากฎตัวขึ้นมา"



แต่จากมุมหนึ่ง มีชายสองคนที่มองมาทางสถานที่เกิดเหตุจากในรถยนต์
พวกเขาก็คือฮาวด์ลิ่ง คอมมานโด ซึ่งแม้พวกเขาจะพลาดจากการติดตามตัวป๋าแฟรงค์ไป
แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาจะหาป๋าแฟรงค์เจอได้ในอีกไม่นาน
ส่วนตอนนี้ก็ปล่อยให้พวกดอส โซเลสจัดกาแทนไปก่อน



ถนนไฮเวย์เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิค
ตอนเหนือของซานตา โมนิก้า

ป๋าแฟรงค์ที่ไม่รู้ไปเอารถใครมาขับกำลังคุยโทรศัพท์รายงานสถานการณ์กับทักส์อยู่
Punisher : ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นอาวุธอะไรนะ ทักส์
คลื่นไมโครเวฟ ? หรืออาจจะเป็นคลื่นพลังงานอะไรซักอย่าง ชั้นก็บอกไม่ได้
ไม่เคยเห็นอะไรคล้ายแบบนี้มาก่อน

ทักส์ : ฟังยังกะว่ามันเป็นอาวุธของสตาร์ค (Iron Man) ยังงั้นแหละ
แต่ชั้นนึกไม่ออกเลยว่ามันจะลงเอยแบบนั้นไปได้ยังไง หมายถึงถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆอ่ะนะ

และในตอนที่ป๋าแฟรงค์กำลังถามถึงลูทว่าเป็นยังไงบ้าง
สายฟ้าสลาตันเจ้าเก่าก็มาถล่มใส่รถของป๋าแฟรงค์อีกรอบ



ทักส์ : แฟรงค์ ? แฟรงค์ ? นายยังอยู่รึเปล่า ?
เฮ้อ.. สัญญาณโทรศัพท์แอลเอก็เงี๊ย

ในขณะนั้นก็มีใครคนหนึ่งส่องกล้องมองดูเค้าอยู่ พร้อมทั้งติดต่อหาใครอีกคน
"สัญญาณหายไปแล้ว แต่ชั้นตามรอยได้แล้ว"
"กำลังส่งสถานที่ไปให้นะ ไซด์วินเดอร์ (Sidewinder)"
"รับทราบ"



"แล้วจะให้ชั้นทำยังไงกับเป้าหมายนี้"
"เขาเป็นคนสำคัญนะ รูบี้ เรด (Ruby Red)
จับตาดูเค้าไว้ก่อนแล้วเค้าจะพาเราไปหาตัวแคสเซิลเอง"

และก็มีสัญญาณของใครอีกคนแทรกเข้ามา
"ท่านครับ นี่ไมเออร์ (Myers)
ผมกำลังฟังรายงานของพวกตำรวจอยู่
มัน.. ท่านต้องมาฟังเอง
มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นที่ถนนไฮเวย์เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิค



ตัดฉากกลับมาที่รถของป่าแฟรงค์ที่โดนเล่นงานจนพลิกคว่ำ

"When The Law Doesn't Work, Work The Law"
"ถ้ากฎหมายมันไม่ทำงาน เราก็จงทำงานแทนกฎหมายซะ"

มันเคยมีเวลาในนิวยอร์คตอนที่ชั้นอ่านหนังสือเป็นตั้งๆ เพื่อที่จะพยายามพิสูจน์ถึงสิ่งที่ชั้นกำลังทำอยู่
มีแต่คำคม แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย



พวกตำรวจมีแค่ตรากับปืน .40 ธรรมดา แต่พวกดอส โซเลสมีอาวุธอีกชนิดหนึ่ง
อะไรซักอย่างที่ใหม่ ?

ในขณะที่ป๋าแฟรงค์กำลังมุดออกมาจากรถที่คว่ำอยู่นั้น
สิ่งที่เค้าเห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือ..



"หรือไม่ก็ศัตรูเก่า"

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าป๋าแฟรงค์ก็คือ
อิเล็คโตร (Electro) 1 ในวายร้ายระดับบิ๊กของจักรวาลมาร์เวล
อดีตสมาชิกของกลุ่มซินิสเตอร์ ซิก (Sinister Six) ดั้งเดิม
และเป็น 1 ศัตรูตัวสำคัญของสไปเดอร์แมน (Spider-Man) ด้วย!



จบเล่ม 2.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          เล่มนี้ทิ้งท้ายเอาไว้ได้น่าสนใจมากๆ เพราะจากตอนแรกที่เห็นอาวุธของพวกแกงค์ว่าออกแนวเป็นกระแสไฟฟ้า ใจผมก็คิดถึงอิเล็คโตรขึ้นมา แต่ก็คิดว่าคงไม่ใช่หรอก เพราะนั่นมันตัวร้ายระดับบิ๊กเลย จะให้คนธรรมดาอย่างป๋าแฟรงค์ไปสู้ไหวได้ไง แล้วป๋าแฟรงค์ก็พูดมาตลอดว่ามันเป็น "อาวุธ" ไม่ใช่ "คน" นี่นา อีกอย่างอิเล็คโตรมันก็เป็นตัวร้ายหลักของสไปเดอร์แมนไม่ใช่เราะ ? แถมใน The Amazine Spider-Man 2 ที่กำลังจะเข้าฉายนี้ก็มีอิเล็คโตรเป็นตัวร้ายหลัก ในชื่อภาคว่า Rise of Electro ซะด้วย แต่มาร์เวลก็ดัดหลังผมซะอยู่หมัดด้วยการเอาอิเล็คโตรมาโผล่ใน Punisher หน้าตาเฉย และนี่ก็เลยเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเลือก The Punisher นี้มาสปอยล์เป็นเรื่องแรกนั่นเอง

1 ความคิดเห็น: