18 กันยายน 2557

Teen Titans #1 (2014)

ทีมซุปเปอร์ฮีโร่วัยรุ่นที่โด่งดังที่สุดใน DC กลับมาแล้ว
ในทีนไททั่นส์ฉบับวางแผงใหม่ กับหัวหน้าทีมคนใหม่ เร้ดโรบิน
และสมาชิกเดิม บีสต์บอย เรเวน วอนเดอร์เกิร์ล (และบังเกอร์)


Teen Titans #1 (2014)
ชื่อตอน
เรื่องโดย : Will Pfeifer
ภาพโดย : Kenneth Rocafort, Dan Brown and Matt Yackey
วางจำหน่าย : 16 กรกฎาคม 2014
สำนักพิมพ์ : DC
ผู้สปอยล์ : Red Hood's Outlaw

มหานครนิวยอร์ก (New York City)
ใจกลางย่านไทม์สแควร์ (Times Square)

Cassie : ...เห็นมั้ย นั่นล่ะประเด็น ฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับหล่อน ไม่ ไม่มี ว่างเปล่า เป็นศูนย์


Cassie Sandsmark. Better known as Wonder Girl

แคสซี่ แซนด์สมาร์ก เป็นที่รู้จักมากกว่าในนาม วอนเดอร์เกิร์ล

ขณะนี้วอนเดอร์เกิร์ลคนปัจจุบัน แคสซี่ของเรากำลังเดินคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่กลางไทม์สแควร์ ป้ายบิลบอร์ดด้านหลังแสดงให้เห็นว่าซุปเปอร์แมนกำลังกู้โลกอยู่


Cassie : ก็นะ นั่นเป็นปฏิกิริยาตอบรับในแบบที่เธอควรจะคาดหวังเวลาจู่ๆแม่ของเธอก็ลุกขึ้นแล้วออก-- ฮัลโหล? ฮัลโหล? อย่าบอกนะว่าหาสัญญาณไม่เจอกลางถนน-- อะไรกัน?


จู่ๆหน้าจอสมาร์ทโฟนของแคสซี่ก็ดับวูบไป แต่ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ปัญหาที่โทรศัพท์ของเธอ ในเมื่อมีหน้าใครบางคนปรากฏขึ้นมาแทน เป็นคนใส่ฮู้ด ใส่แว่นเบ้อเร่อปิดหน้ามิดชิด


ร่างในฮู้ด : สวัสดี แมนฮัตตัน (Manhattan) บางทีคุณอาจต้องการเรื่องตื่นเต้นเล็กๆซักหน่อยนะ



ไม่เพียงแต่ในหน้าจอโทรศัพท์ของชาวแมนฮัตตัน แต่คลิปที่ว่ายังฉายอยู่บนจอต่างๆข้างตึกอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าแมนฮัตตันกำลังเจอกับการแทรกแซงการสื่อสารของพวกเหล่าร้าย

ร่างในฮู้ด : ขณะนี้มีรถบัสคันนึงกำลังเคลื่อนที่ไปทางบรอดเวย์ (Broadway) รถโรงเรียนคันนี้กำลังจะมุ่งไปยังไทม์สแควร์ในอีกสิบห้าวินาที ฉันอยู่บนรถคันนั้น เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมเชื้อชาติของฉันอีกห้าคน ทักทายโลกกันหน่อยเร้วสหาย

แก๊งชายใส่แว่นฟ้า : สวัสดีชาวโลก!
ร่างในฮู้ด : ทีนี้ขออนุญาตฉันแนะนำตัวเหล่าสาวๆจากโรงเรียนเตรียมเซนต์เซบาสเตียนแห่งเมืองวิลมิงตัน เดอลาแวร์ (St.Sebastian Preparatory School of Wilmington, Delaware) ให้รู้จักกันหน่อย พวกเขาเข้าเมืองกันมาวันนี้เพื่อทัศนศึกษาชมแอปเปิ้ลใหญ่* (The Big Apple) ลูกนี้น่ะนะ... และฉันก็จะมาช่วยพวกเขาสร้างความทรงจำดีๆ

*หมายเหตุ : The Big Apple เป็นชื่อเล่นของเมืองนิวยอร์กค่ะ


ทางด้านแคสซี่ก็รู้หน้าที่ แอบมุมเปลี่ยนชุดอย่างไม่รอช้า


(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)


ตัดมาที่บนดาดฟ้าตึกๆหนึ่ง เร้ดโรบิน (Red Robin) หรือทิม เดรค (Tim Drake) หัวหน้าทีมทีนไททั่นส์ (Teen Titans) ก็กำลังพิมพ์ยุกยิกอยู่ในแล็ปท็อปบนตัก เขากำลังติดต่อแคสซี่อยู่

Tim : แคสซี่...

รูปหน้าทิมฉายขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ แคสซี่กดรับสาย

Tim : ...เธอเห็นเรื่องนี้มั้ย?
Cassie : แหงสิ ใครๆก็เห็นกันหมด นายอยู่ไหนเนี่ย? ไม่ใช่ว่าเร้ดโรบินควรจะมาอยู่ตรงศูนย์กลางความยุ่งเหยิงงั้นเหรอ?
Tim : เขาก็อาจจะควรนั่นล่ะ แต่เธออยู่ตรงนั้นนี่ ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องจัดการรถบัสนั่น
Cassie : ชัดเลย
Tim : ตำรวจกำลังเคลียร์เส้นทางอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และไฟจราจรก็ดูเหมือนจะร่วมมือ*กับวิถีการเคลื่อนที่อย่างประหลาด-- แต่มันกำลังมา อย่างเร็วและตรงไปหาเธอเลยล่ะ

in sync แปลว่า ทำงานร่วมกันได้ดี

แคสซี่หนีบโทรศัพท์ไว้กับหู คุยไปด้วยเปลี่ยนชุดไปด้วย กำไลและเกราะแขนของเธอค่อยๆปรากฏขึ้น จนกระทั่งเธออยู่ในชุดสีแดงสดพร้องบ่วงบาศก์สีชมพูที่สะโพก

Cassie : ไม่ต้องห่วงเร้ด ฉันรับมือเอง


Cassie : และ... ฉันอยู่เหนือมันเลยล่ะ

I'm on it แปลว่า จัดการ/รับมืออยู่ ในที่นี้แคสซี่เล่นคำคือ on it ที่หมายถึงอยู่ด้านบนของบางสิ่งได้ด้วย

รถคันที่ว่าจอดนิ่งอยู่ข้างถนน มะกันมุงพากันรุมถ่ายรูป

Blinded by The Light: Part 1
ตาบอดจากแสง (?) ตอน 1



กลางเมืองนิวยอร์ก (Downtown NYC)

Tim Drake a.k.a. Red Robin
ทิม เดรค สมญานามเร้ดโรบิน

ทิม เดรค โรบินคนที่สามที่ผันตัวมาเป็นฮีโร่เดี่ยว ก่อนจะจับพลัดจับผลูมาเป็นหัวหน้าทีนไททั่นส์ ขณะนี้เขากำลังนั่งพร้อมอุปกรณ์ข้างตัว ต่อสายกับแล็ปท็อป และคุยกับแคสซี่ไปด้วย

Cassie : ทำไงต่อ? ตบเกรียนตัวตลกพวกนี้เหรอ?
Tim : ยังก่อน เจ้าพวกนี้มีแผนการใหญ่บางอย่าง ใหญ่กว่าเรื่องไฮแจ็ครถบัสนี่ ฉันอยากจะรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ จับตามองรอบตัวไว้นะแคสซี่ แล้วก็อย่าให้ใครบาดเจ็บ แค่ไม่-- เดี๋ยวนะ

เหนือตึกระฟ้าสูงสองพันฟุต

Tim : ฉันคิดว่าในที่สุดหล่อนก็จัดการกับอุดมการณ์แบบเดิมได้แล้วล่ะ*

*หมายเหตุ : ตรงนี้ผู้สปอยล์เข้าใจว่า แคสซี่เป็นคนใจร้อน ไม่ค่อยฟังใครค่ะ ตามที่เคยอ่านมาใน Teen Titans Vol.1 (ซีรีส์ New52 ก่อนจะออกหัวเล่มนี้)


Cassie : เยี่ยมเลย ฉันจะรอ
เสียงในรถ : กว่าหลายทศวรรษ สตาร์แล็บส์ (S.T.A.R. Labs) ได้สร้างปาฏิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า-- เปลี่ยนแปลงโลกเวชกรรม หุ่นยนต์ การขนส่ง และการกลาโหม ในช่วงเวลานั้น พวกเขาได้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อที่จะกลายมาเป็นส่วนที่เติบโตอยู่เสมอและสำคัญของทุกๆหัวข้อในชีวิตประจำวันของพวกเรา

วอนเดอร์เกิร์ลกำลังอยู่เหนือรถบัส เธอจะจัดการกับแก๊งลักพาตัวพวกนี้ยังไงกันแน่

ร่างในฮู้ด : เหมือนกับไวรัส เหมือนกับมะเร็ง แล้วก็เหมือนกับเนื้อร้ายแหละนะ หนึ่งในโครงการเปลี่ยนโลกที่สรรค์สร้างขึ้นจากในอ้อมอกของสตาร์แล็บส์กำลังจะหลุดไปไกลจากการควบคุมของพวกมัน มันกำลังจะแพร่ระบาด

กลับมาที่เร้ดโรบินที่กำลังติดตามสถานการณ์อยู่อีกฝั่งของเมือง

ร่างในฮู้ด : อธิบายว่าพวกเขากำลังทำอะไร-- และทำไมพวกเราถึงทำในสิ่งที่เราทำอยู่-- คงจำเป็นต้องใช้การเดินทางไปสู่วิทยาศาสตร์ลี้ลับบางอย่างแล้วล่ะ แต่ฉันว่า เมื่อเราเสร็จเรียบร้อย พวกแกจะรู้สึกว่ามันเป็นทริปที่คุ้มค่า
Tim : การ์ (Gar) มิเกล (Miguel) ฉันต้องการตำแหน่งปัจจุบันของพวกนาย
เสียงจากในสาย : ลาฟาแย็ตต์แอนด์เอท (Lafayette and Eighth) เลยบอส ที่แอสทอร์เพลซ (Astor Place) คุณอยากให้บีสต์บอย (Beast Boy) กับบังเกอร์ (Bunker) เข้าไปหารถบัสนี่เหรอหัวหน้า? ช่วยเด็กๆ หยุดเหล่าร้าย ช่วยโลกน่ะ?


Miguel Jose Barragan a.k.a. Bunker and Gar Logan a.k.a. Beast Boy (obviously)
มิเกล โจเซ่ บาร์ราแกน หรือบังเกอร์ และการ์ โลแกน หรือว่าบีสต์บอย (เห็นชัดเลย)

มิเกลกับการ์ สองคู่หูที่ไม่รู้สนิทกันตอนไหน กำลังเดินเที่ยวชิลๆกันอยู่ข้างถนน

Tim : บีสต์บอยใช่ แต่บังเกอร์น่ะไม่ มิเกล ฉันมีที่อื่นให้นายไปจัดการแทน
Miguel : แล้วที่แห่งนั้นจะเป็นที่ไหนไปได้ล่ะผู้นำผู้กล้า? (ตาคนนี้แกพูดจาตลกจริงๆค่ะ 55555)
Tim : ฉันอยากให้นายเข้าดาวน์ทาวน์ มิเกล ไกลเลยล่ะ ไปอยู่ด้านหน้าสตาร์แล็บส์

ด้านหน้าสตาร์แล็บส์

สภาพตอนนี้สตาร์แล็บส์คงกำลังได้รับการคุ้มครองจากพวกทหารอยู่ แต่จะรับมือไหวมั้ยนั่นอีกเรื่อง


ด้านในสตาร์แล็บส์

บนจอของภายในแล็บเองก็กำลังติดตามสถานการณ์ชายกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด

ร่างในฮู้ด : พวกแกคุ้นเคยกับคอนเซ็ปต์ของความเป็นเอกภาพมั้ย? มันได้ชื่อของมันมาจากส่วนขอบของหลุมดำน่ะ
เจ้าหน้าที่สตาร์แล็บส์ : ชมิดท์! (Schmidt) หลุมดำ! ที่นี่แผนกการแบ่งแยกพลังงาน! พวกคุณกำลังทำงานเรื่องเครื่องเพาะเกี่ยวกับดวงดาวอะไรอยู่ไม่ใช่เหรอ?
เจ้าหน้าที่อีกคน : ใช่ครับท่าน แต่ผมไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอ--
ร่างในฮู้ด : ...เพราะว่าเหนือไปจากจุดนั้น ไม่มีใครจะรู้ได้--ไม่มีทางรู้เลยว่า--จะมีอะไรเกิดขึ้นในนั้นกันแน่ ความเป็นเอกภาพนี้เทียบเท่ากับเทคโนโลยี--เมื่อไหร่ที่สติปัญญาเทียมล้ำหน้าเกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์... แล้วโลกทั้งใบก็จะเปลี่ยนในชั่ววินาที!

ดูเหมือนชั่วโมงนี้จะไม่มีใครฮอตไปมากกว่าพี่ฮู้ดคนนี้อีกแล้ว คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ดูท่าทางมีอิทธิพลเองก็กำลังมองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นเดียวกัน

ชายผมขาว : เจนเซ่น! (Jensen) นายได้เงินมาเพื่อมาคุม A.I.* นะ ที่เขาพูดอยู่มันถูกต้องแค่ไหนกัน?

*หมายเหตุ : A.I. (Artificial Intelligence) คือระบบสมองกลอัจฉริยะ เหมือนที่เราเห็นกันในหนังโลกอนาคตค่ะ เช่นพวกหุ่นยนต์อาซิโม (Asimo) ของญี่ปุ่น ในภาษาไทยเรียกกันว่า "ปัญญาประดิษฐ์" (ก็ชื่อไทยไป๊)

ชายผิวสี : ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับท่าน เรากำลังจัดการระบบ A.I. อยู่ แต่เราก็ยังห่างอยู่อีกหลายปีจากการบรรลุถึงการค้นพบที่แท้จริง วิทยาศาสตร์ที่เข้ามาข้องเกี่ยวมัน--
ชายผมขาว : ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมัน ฉันไม่สนเรื่องเอะอะของพวกคนบ้า ที่ฉันสนคือความปลอดภัยของที่แห่งนี้ พาวเวอร์! (Power) การประเมินค่าของนายเป็นยังไง มีอะไรที่ฉันต้องกังวลมั้ย?
ชายผิวสีใส่แว่น : อันที่จริง ท่านครับ การหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้คือเหตุผลที่ขณะนี้เรากำลังมีการรวบรวมองค์กรต่างๆของเราอยู่บนเกาะกอเวิร์นเนอร์ส* (Governors Island)

*หมายเหตุ : Governors Island เป็นเกาะเล็กๆ (มาก) เกาะหนึ่งบนอ่าวนิวยอร์กค่ะ อยากรู้ว่าเล็กแค่ไหนลองไปเสิร์ชดู 55555

ชายผิวสีใส่แว่น : เป็นโครงการที่ผมเชื่อว่าเราควรเร่งกระตุ้น--ทันทีหลังจากวิกฤติในตอนนี้ผ่านพ้นไปแล้วแน่ล่ะครับ และดังที่ผมได้กล่าวไป พวกเราปลอดภัยยิ่งกว่าปลอดภัยเสียอีก จากใจจริงนะครับ ผมไม่รู้เลยว่าเธอกำลังพยายามทำอะไรอยู่


ชายผิวสีใส่แว่น : นอกเสียจากว่าพวกเขากำลังตุนระเบิดขนานหนักเอาไว้โดยที่เครื่องสแกนของพวกเรายังมองไม่เห็นล่ะก็ ไม่ว่าเธอจะถล่มมาแรงขนาดไหน เธอก็เข้ามาไม่ได้แน่

แต่ดูเหมือนไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับนายคนนี้ 

ชายผมแดง (หรือม่วงหว่า) : ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่คิดว่าหล่อนจะมาถล่มอะไรเราหรอก ฉันไม่คิดว่าหล่อนจะมีโอกาสน่ะนะ
ชายผมขาว : แบล็ค (Black)? แผนกแนวคิดล้ำสมัยของนายมันเกี่ยวอะไรกับรถบัสนี่กันล่ะ?
ชายผมแดง : ไม่สักนิดเลยท่าน แต่ยัยวอนเดอร์เกิร์ลนี่น่ะนะ? พวกไททั่นส์ที่เธออยู่ด้วย? ผมว่ายังไงพวกเขาก็ต้อง "ช่วยโลก" ได้แน่นอนอยู่ดี


กลับมาที่วอนเดอร์เกิร์ลที่ว่า ตอนนี้กำลังยืนจังก้าอยู่บนหลังคารถโรงเรียน ซึ่งดูเหมือนแก๊งก่อการร้ายจะรู้ตัวซะแล้วว่ามีสาวสวยโบกรถมาด้วย 

ร่างในฮู้ด : เห็นได้ชัดเลยว่าระหว่างการเดินทางของเราผ่านไปยังไทม์สแควร์ เราก็ได้รับผู้โดยสารรายทางมาด้วยคนนึง การเข้ามายุ่มย่ามในลักษณะนี้เนี่ย มันทำให้ฉันคิดจริงๆเลยว่าคุณไม่เห็นเราเป็นจริงเป็นจังซักเท่าไหร่ บางทีเราอาจยังทำให้คุณเชื่อได้ไม่พอสินะ


ร่างในฮู้ด : เอาล่ะ.. นิค (Nick)

ตาลูกกะจ๊อกที่ชื่อนิคคว้าตัวเด็กหญิงสวมเสื้อม่วงออกมา ในมือถืออาวุธ ทำเอาเธอเริ่มร้องไห้

เด็กหญิง : ไม่--อย่านะ--ได้โปรด!

Nick : ชื่ออะไรล่ะเราเนี่ย?
Nancy : นะ-แนนซี่ หนูชื่อแนนซี่
Nick : ฉันจะแนะนำเธอให้ทุกคนรู้จักละนะ และที่ฉันบอกว่าทุกคนเนี่ย ฉันหมายถึงทุกคนบนโลก เพราะว่านั่นคือคนทั้งหมดที่กำลังดูอยู่น่ะ ..ฉันจะให้ทุกๆคนดูเราฆ่าเธอไงล่ะ

แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีมือสีทองโผล่ทะลุหน้าต่างเข้ามาจากด้านข้าง

Cassie : ไหนแกว่าอีกทีซิ


วอนเดอร์เกิร์ลในชุดแดงแรงฤทธิ์พร้อมบ่วงบาศก์คว้าคอนิคตัวลอย ทำเอาหายใจไม่ออกเลยทีเดียว 

Cassie : ให้ฉันฟังอีกทีซิ ใครกันที่แกจะฆ่า?
Nick : ฉัน--ฉัน--
Cassie : ฉันก็ว่าแกพูดงั้นแหละ

แคสซี่ไม่รอฟังคำตอบ จับอีกฝ่ายเหวี่ยงลงจากหลังคารถซะเลย


นิคหัวทิ่มเข้ากับเสาตึก ซึ่งตรงนั้นเองที่นกอินทรีสีเขียวกำลังบินเข้ามาพอดี แน่นอนว่าเขาคือบีสต์บอย

Tim : นั่นเสียงอะไรน่ะการ์?
Gar : อย่าห่วงเลยบอส ก็แค่ผู้ก่อการร้ายคนนึงน่ะ แคสซี่จับทุ่มลงมาโหม่งเสาตึกพอดี (พูดเบาๆ)โยนได้น่าประทับใจจัง  คงต้องดูกันอีกทีแต่ฉันว่าน่าจะยังไม่ตายมั้ง
Tim : ปล่อยไป ฉันจำเป็นต้องให้นายอยู่บนรถบัส เดี๋ยวนี้เลย
Gar : ในที่สุด เจ้านายอยากให้ลงไม้ลงมือกันเลยใช่ป่ะ แบบจัดการเจ้าตัวตลกพวกนั้นซักสองสามคน กรงเล็บฉันฝากแผลโหดได้เจ็บเชียวนา...
Tim : ยัง พวกมันกำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้ จากการคำนวนของฉันน่ะนะ มันไม่มีระเบิดอยู่ใกล้เคียงคำว่าพอสำหรับที่จะเข้าสตาร์แล๊บส์ได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะไประเบิดที่นั่นเลย ฉันอยากให้นายซุ่มอยู่ไว้นะการ์ นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
Gar : ไม่มีปัญหา พวกมันจะไม่เห็นฉันด้วยซ้ำ!


ทางฝั่งมิเกลที่โดนสั่งให้มายังสตาร์แล๊บส์ ตอนนี้กำลังแอบอยู่ในพุ่มไม้ (ทั้งๆที่ชุดสีม่วง)

Tim : ฝั่งนายล่ะเป็นไง มิเกล? อยู่ด้านนอกสตาร์แล๊บส์รึยัง?
Miguel : (กระซิบ)อยู่แล้ว แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเนี่ย
Tim : ยังหรอก แต่เดี๋ยวมีแน่ เร็วๆนี้ซะด้วย
Gar : แล้วนายล่ะเร้ด? แล้วเรเวน (Raven) ล่ะ?
Tim : ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราการ์ เรากำลังจะไป

ว่าแล้วเร้ดโรบินก็จัดการร่อนลงมาจากตึกด้วยปีกสีแดงประจำตัว เห็นแล้วนึกถึงแบทแมนผู้เป็นอาจารย์เลยทีเดียว


กลับมาที่ฝั่งแคสซี่ ดูเหมือนโยนสมาชิกแก๊งลงจากรถไปคนนึงจะไม่ทำให้คนที่เหลือเดือดร้อนซักเท่าไหร่


หนึ่งในกลุ่มก่อการร้าย : ไม่ว่าแกจะเป็นใครอยู่บนนั้นที่คิดว่าทำแบบนั้นกับนิคเพื่อนฉันและฉันจะยอมนั่งเฉยๆล่ะก็--ฉันจะทำให้แกเข้าใจซะใหม่! มานี่ซิยัยหนู 

ชายผิวสีหัวเกรียนจับแขนเด็กเสื้อม่วงคนเดิมมาอีกแล้ว คราวนี้เขาจับเด็กมายืนที่ประตูท้ายรถ


ชายผิวสี : หยุดดิ้นได้แล้วยัยเด็กนี่...

ก่อนจะโยนเธอลงไป!

ชายผิวสี : ...มันจะเจ็บแค่แว๊บเดียวเท่านั้นล่ะ!


ทันใดนั้นเองทิมก็บินโฉบลงมาคว้าตัวเด็กหญิงเอาไว้ได้ทัน!

Tim : ได้ตัวละ!

ทิมแลนดิ้งลงกับพื้นพร้อมเด็กหญิงอยู่ในอ้อมอก ก่อนจะหันไปมองตามรถบัสที่แล่นบึ่งต่อไปอย่างรวดเร็ว

Tim : ไม่เป็นไรนะ ฉันจับไว้แล้ว


ทางด้านแก๊งแว่นฟ้าตอนนี้เริ่มเครียด จนต้องมีการประชุม (?) กันระหว่างหัวหน้ากับพวกลูกน้อง

ชายผิวสี : นายเห็นนั่นมั้ย? มันโผล่มาอีกตัวแล้ว! มันอยู่เหนือรถ บนรถ แล้วก็ด้านหลังรถ! มันอยู่ทั่วไปหมดเลย!
ร่างในฮู้ด : เย็นไว้น่าโจเซฟ (Joseph) เราอยู่กลางแมนฮัตตันนะ เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องโผล่มาในที่สุด ไม่มีอะไรที่ฉันไม่เตรียมแผนไว้แล้ว
Joseph : แหม ฉันไม่ได้เตรียมแผนมาเจอนี่ก็ละกัน ไอ้นิคก็ด้วย! เราก็แค่อยากได้ค่าจ้างวันนี้ตามที่ทำไป!

สองคนนี้ไม่ได้รู้ตัวซะเลยว่ามีใครกำลังแอบฟังอยู่ข้างๆนี่เอง นกไนติงแกลสีเขียวขนาดนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบีสต์บอย ซึ่งพอได้ยินบทสนทนาแล้วอดเล่นมุกไม่ได้อีกแน่ะ

Gar : ก็ไม่รู้สินะโจเซฟ
Joseph : เฮ้ยอะไรวะ--
Gar : ถ้าถามฉัน ฉันว่าแกควรได้ขึ้นเงินเดือนแล้วล่ะ

ชั่วแวบเดียวเท่านั้น จากนกตัวเล็กก็กลายร่างเป็นเสือเบงกอลหน้าโหดเลยทีเดียว ทำเอาเหล่าร้ายถึงกับหลุดกรี๊ด

Gar : ใช่ แน่อยู่แล้ว ขึ้นเงินเดือนครั้งใหญ่เลย

การ์ในร่างเสือตะปบทีเดียวโจเซฟถึงกับร่วงลงมาจากรถไปซะอีกคน แคสซี่มองจากบนหลังคาแถมยังแอบยิ้มซะด้วย

Cassie : รวบไปแล้วสอง


ถึงแม้จะดูเป็นการเปิดตัวที่ดี แต่นี่ไม่ใช่แบบที่หัวหน้าทีมกำชับไว้ซะหน่อย

Tim : นั่นคือแนวคิดของนายเรื่องการซุ่มเงียบเรอะ
Gar : ฟ้องร้องฉันเลยสิ นายบอก "นานเท่าที่ทำได้" นี่นา อีกอย่าง ข่าวดีก็คือเรามีผู้ก่อการร้ายให้กังวลน้อยลงอีกคนแล้วล่ะ
Tim : แล้วข่าวร้ายล่ะ?
Gar : ดูท่าทางแล้วเสือเบงกอลพูดได้จะทำให้ทุกคนผวาน่ะ ไม่ใช่แค่ผู้ก่อการร้าย ฉันน่าจะเลือกเปลี่ยนเป็นอะไรที่ตัวเล็กและน่ากอดกว่านี้สินะเนี่ย

บีสต์บอยถูกล้อมเอาไว้ด้วยกระบอกปืน ดูท่าทางจะหาเรื่องใส่ตัวเข้าซะแล้ว

Gar : ถึงเวลาแล้ว เรเวน ที่เธอจะออกมาช่วยกันสู้ ไม่ว่าจะเธอจะอยู่ตรงไหนอ่ะนะ... เรเวน?


Raven : หลังนายนี่ไง บีสต์บอย

สาวหน้าคมใต้ผ้าคลุมสีน้ำเงิน มือข้างหนึ่งและใบหน้าครึ่งขวาเป็นกรงเล็บสมฉายา เหล่าคนบนรถอุทานอย่างงงวยว่าอะไรวะ


Raven : ขอร้อง ช่วยสงบสติอารมณ์ การเดินทางไปยังอาณาจักรแห่งฝันร้ายได้ให้ทัศนคติใหม่กับเขาพวกนี้*

*หมายเหตุ : ตรงนี้ผู้สปอยล์เองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเรเวนพูดถึงอะไร แต่จากสีหน้าของสองคนในกรอบและพลังของเรเวนที่ออกมารอบๆ เลยคิดว่าเธอน่าจะปล่อยพลังทางจิตบางอย่างใส่ค่ะ

ร่างในฮู้ด : ไม่ มันยังไม่จบ ยังหรอก

ทันใดนั้นก็มีแสงสีส้มๆแวบๆขึ้นมาจากบนแถบที่เสื้อเกราะของพวกลูกน้อง เป็นสัญญาณไม่ดีซะแล้ว แถมยังมีเสียงปี๊ปๆอีก


แว่นฟ้า 1 : อะไรวะ--!? พระเจ้า!
Gar : ฉันกำลังจะพยายามหยุด--หรืออย่างน้อยก็คุมรถคันนี้ให้ได้ เรเวน มีอะไรที่เธอพอทำได้เกี่ยวกับระเบิดบนหน้าอกผู้ชายพวกนั้นมั้ย? เป็นฉันจะรีบเลย!
Raven : กลไกจุดระเบิดมัน... เวทย์มนตร์น้อยกว่าที่ฉันคุ้นเคยกับการรับมือนะการ์...
Gar : หัวหน้าล่ะ? มีไอเดียอะไรเจ๋งๆบ้างมั้ย? อีกแปดวิพวกเรากำลังจะกลายเป็นเนื้อแฮมเบอร์เกอร์แล้ว


เห็นได้ชัดว่าตอนนี้จากเวลานับถอยหลัง แม้แต่เร้ดโรบินก็ไม่มีไอเดียอะไรทั้งนั้น ทั้งทิมและแคสซี่บินเหนือหลังคารถ

Tim : แคสซี่-- เธอมีเวลาไม่กี่วิที่จะเอาตัวผู้ก่อการร้ายสามคนที่ตัวเต็มไปด้วยระเบิดออกมาจากรถ
Cassie : รับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีใครเจ็บ!
Tim : ทำในสิ่งที่ต้องทำเถอะ

แคสซี่โหนตัวเองจากทางหน้ารถเข้าไปก่อนจะรวบตัวพวกแก๊งแว่นฟ้าออกมาด้วยพละกำลังของเธอ

Cassie : ขอทีเถอะน่า


เวลานับเคาท์ดาวน์ 3 2 1... ก่อนระเบิดจะทำงาน ส่งควันโขมงพร้อมแรงระเบิดทำให้รถลอย


แคสซี่โผล่ออกมาท่ามกลางซากปรักหักพัง ก่อนจะรีบรายงานสถานะกับทิม

Cassie : สบายดี ฉันโอเค
Tim : ดีมาก...

กลับมาที่ฝั่งบีสต์บอยกับเรเวนยังคงอยู่บนรถบัส ซึ่งกำลังจะชนเข้ากับบังเกอร์ที่สตาร์แล็บส์กั้นเอาไว้ ทั้งที่ยังมีเด็กๆอยู่เต็มรถ คนที่รออยู่ที่ปลายทางก็คือมิเกล หรือบังเกอร์ หนุ่มเจ้าของพลังอิฐจากพลังจิตนั่นเอง

Tim : เพราะคนอื่นไม่...
Gar : ควบคุมไม่ได้เลย--เบรคไม่มี น้ำมันถูกบล็อคไว้ พวงมาลัยก็หมุนด้วยตัวมันเอง! มะ-มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
Raven : มันไม่ใช้พลังเวทย์ นั่นล่ะที่ฉันบอกได้-- ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันมันคืออะไร!

ทันใดนั้นเองบีสต์บอยก็เกิดความคิดที่บรรเจิด

Gar : เดี๋ยวนะ! บางทีดึงกุญแจออกอาจจะทำให้-- 


แต่ดูเหมือนรถบัสคันนี้จะถูกตั้งกลไกเอาไว้ไม่ให้หยุดจริงๆ

Gar : ไม่เลย! เรเวน มันคงไม่มีวิธีที่จะแวบทุกคนออกไปจากรถคันนี้ทันเวลาใช่มั้ย?
Raven : เกรงว่าไม่... จำนวนคนมัน...

ทางด้านฝั่งกลุ่มของชายผมขาวกำลังหน้าดำคร่ำเครียดไปกับสถานการณ์นี้

ชายผมขาว : มันกำลังจะชน เรารอมานานเกินไปแล้ว ดึงตัวทีมแพทย์มา!
ชายผมแดง : ไม่ ดูสิ... เจ้าบ้าพวกนั้น พวกนั้นกำลังคุมสถานการณ์ได้!
Tim : มิเกล... มิเกล... บอกฉันทีว่านายรับมือได้


รถบัสพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มิเกลใช้พลังของเขาต้านเอาไว้ แต่ถ้าหากต้านไม่ไหวล่ะก็คงเป็นหายนะแน่ๆ สังเกตได้จากสีหน้าของบีสต์บอย

Miguel : สบายมาก


ต่อมา...

ภาพตัดมาที่สถานการณ์หลังจากพวกทีนไททั่นส์จัดการพวกแก๊งแว่นฟ้าเรียบร้อยแล้ว ด้านหน้าสตาร์แล็บส์เต็มไปด้วยผู้คน มีรถตำรวจอยู่ด้วย ส่วนบีสต์บอยกับบังเกอร์ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

Tim : ...แต่หัวหน้าของพวกก่อการร้าย-- คนที่พูดเรื่อง "ความเป็นเอกภาพ" อะไรนั่นน่ะ-- เกิดอะไรขึ้นกับ 'หล่อน'? แคสซี่ เธอแน่ใจเหรอว่าหล่อนไม่ได้อยู่ในพวกคนที่เธอคว้าตัวไว้ และก็... เธอก็รู้...
Cassie : คนที่ระเบิด? ไม่ มันมีแค่สาม และหล่อนก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้น
Tim : แปลกชะมัด เธอก็ไม่ได้อยู่บนรถบัสเหมือนกัน...

ทางฝั่งบีสต์บอย ระหว่างที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์ผู้ปกครองของเด็กบนรถบัส การ์กับมิเกลก็กำลังถกปัญหาอยู่ข้างๆ

Gar : แล้วไหงรถบัสมันไม่ถล่มใส่กำแพงอิฐของนายแบบว่า เหมือนอิฐทั่วๆไปล่ะ?
Miguel : ยิ่งฉันทำขนาดเล็กมันยิ่งนุ่มน่ะสิ ฉันก็เลยทำให้มันเล็กมากๆ
ผู้ปกครอง : วันระทึกเลยนะไมค์ (Mike)
Mike : ช่าย ช่าย เรื่องนี้สำหรับลงหนังสือแน่ล่ะ 


Mike : อย่างเดียวที่ฉันอยากจะบ่นคือ มีฮีโร่ทั้งหมดนั่นอยู่ในนิวยอร์ก แต่โชคของฉันดันมาตกอยู่กับสองคนที่ดูท่าทางอย่างกับพวก--

ไม่ทันจะจบประโยค กำแพงอิฐของบังเกอร์ก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าของชายคนนั้นจนทิ่มผนังทันที!*

*หมายเหตุ : มิเกลเป็นเกย์นะคะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชายคนนั้นกำลังจะยกมาพูดเหยียดหยามในประโยคบน

Miguel : ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะคิดให้ดีๆก่อนที่จะจบประโยคนั้น


Gar : (กระซิบ)เอ่อ บังเกอร์ นายทำอะไรฟะเนี่ย
Miguel : ฉันกำลังจะอธิบายข้อเท็จจริงของชีวิตให้ชายคนนี้ฟังน่ะสิ อย่างเช่นว่าบนโลกนี้ คนบางพวก คนแบบพวกเรา... เราใส่หน้ากาก และภายใต้หน้ากากของพวกเรา เราอาจดีหรือชั่ว ผิวขาวหรือผิวดำ ชายหรือหญิง--รักต่างเพศหรือรักร่วมเพศ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณวางใจได้ สิ่งหนึ่งที่คุณจะมั่นใจได้แน่ก็คือ ภายใต้หน้ากากพวกนี้-- พวกเราน่ะอันตรายมาก

ชายคนเดิมซึ่งแว่นเบี้ยวไปครึ่งหน้าทำสีหน้าหวาดผวาเลยทีเดียว

Miguel : แล้วเขาก็ตั้งใจฟังด้วย จริงมั้ยคุณ?
ชายใส่แว่น : ฉันฟังอยู่!
Miguel : เห็นมั้ย? เขาฟังอยู่


Gar : ฉันรู้ ฉันรู้ แต่คือว่านะบังเกอร์ มันไม่ใช่แค่นั้น... ไม่ใช่แค่เขาน่ะสิที่ฟังอยู่

รอบๆตัวบังเกอร์และบีสต์บอยเต็มไปด้วยกล้องถ่ายรูป พร้อมกับกลุ่มคนที่กำลังมุง ดูท่าทางเรื่องนี้จะออนไลน์แน่นอน


สตาร์แล็บส์ เฝส 2 ตอนปลายด้านเหนือของเกาะกอเวิร์นเนอร์ส
ครึ่งไมล์จากแมนฮัตตัน
ฝ่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย
อยู่ภายใต้การก่อสร้าง

state of the art/cutting edge แปลว่า ล้ำสมัยที่สุด หรือมีลักษณะที่ใหม่ล่าสุด

ยามคนหนึ่งในชุดเกราะดูทันสมัยกำลังเดินทำหน้าที่ตามปกติ


ทว่ากลับมีใครบางคนโผล่มาข้างหลัง เดาได้ไม่ยากเลยว่าพวกไหน

ยาม : อะไรน่ะ--
หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย : ไม่

หัวหน้าแก๊ง ซึ่งแท้จริงเป็นผู้หญิงนั้นเอาบางอย่างที่เหมือนดาบ.... แต่กลับเป็นมือของเธอเองแทงคอยามผู้โชคร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว!


หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย : มันยังไม่จบ

เธออารัมภบทกับตัวเองก่อนจะเดินออกไปชมวิวอ่าวแมนฮัตตัน

หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย : ยังหรอก

(ติดตามตอนต่อไป)


จบเล่ม 1


***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***


------------------------------------------------------------------------------------------


คุยกันท้ายเล่ม เล่มแรกของทีนไททั่นส์ (relaunch) ตามคำเรียกร้องจากในเพจนะคะ จริงๆแล้วเร้ดฮู้ดเริ่มแปลเล่มนี้มาตั้งแต่ที่ออกวันแรกเลย แต่ว่าหาไฟล์รูปไม่ได้ แล้วก็ชนกับช่วงเปิดเทอมพอดีด้วย เลยดองมาถึงตอนนี้... ยังไงก็ขอโทษทั้งผู้อ่านแล้วก็แอดมินคนอื่นๆด้วยนะคะ 55555 สำหรับเล่มนี้ใครที่ไม่เคยรู้จักตัวละครบางตัวอย่างบังเกอร์หรือว่าแคสซี่ (วอนเดอร์เกิร์ล) มาก่อนก็ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะว่าบังเกอร์เป็นตัวละครใหม่ในจักรวาล New 52 นี่เอง ส่วนแคสซี่เองก็เป็นสมาชิกทีนไททั่นส์เฉพาะในคอมิค เลยไม่ได้เห็นเธอในแบบอนิเมชั่น สำหรับเล่มนี้ก็เกริ่นมาเรื่องแก๊งแว่นฟ้า (ผู้สปอยล์ก็จะยังเรียกแก๊งนี้ด้วยชื่อนี้ต่อไป) จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอย่าลืมติดตามค่ะ
          

5 ความคิดเห็น:

  1. ชอบภาพมากครับสวยสุดๆ ขอบคุณสำหรับสปอยล์ครับ ^_^

    ตอบลบ
  2. ชอบมากๆครับ เป็นกำลังใจให้

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ21 กันยายน 2557 เวลา 19:24

    ภาพสวยมากครับบ ขอบคุณครับผมม

    ตอบลบ
  4. สนุกมากเลย ขอบคุณครับ

    ตอบลบ