เมื่อผลจากเหตุการณ์ที่เจโนชาส่งผลต่อทั้งเหล่าฮีโร่และวายร้าย
ทำให้ แซม วิลสัน หรือกัปตันอเมริกาคนใหม่เริ่มเปิดเผยด้านมืดในจิตใจออกมา
และคิดที่จะกำจัดเพื่อนร่วมทีมไมท์ตี้อะเวนเจอร์ของเขาเอง
Captain America & the Mighty Avengers #1 (2014)
We Take Care of Our Own
เรื่องโดย : Al Ewing | ภาพโดย : Luke Ross, Rachelle Rosenberg
วางจำหน่าย : 12 พฤศจิกายน 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
ทำให้ แซม วิลสัน หรือกัปตันอเมริกาคนใหม่เริ่มเปิดเผยด้านมืดในจิตใจออกมา
และคิดที่จะกำจัดเพื่อนร่วมทีมไมท์ตี้อะเวนเจอร์ของเขาเอง
Captain America & the Mighty Avengers #1 (2014)
We Take Care of Our Own
เรื่องโดย : Al Ewing | ภาพโดย : Luke Ross, Rachelle Rosenberg
วางจำหน่าย : 12 พฤศจิกายน 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi
แด่ มวลมหาประชาชน
ย้อนกลับไปไม่นาน ตัวผม ลุค เคจ ร่วมกับเพื่อนฮีโร่บางคน เช่น ฟัลคอน (ที่รู้จักกันในนาม แซม วิลสัน ชายผู้ซึ่งเพิ่งกลายเป็นกัปตันอเมริกาคนใหม ยินดีด้วยกับงานใหม่นะ แซม!) พาวเวอร์แมน, ไวท์ไทเกอร์, ชีฮัลค์, บลูมาร์เวล, เสปคตรัม และ สไปเดอร์แมน (จนกระทั่งเราตะเพิดหมอนี่ออกไปตั้งแต่เขาทำตัวเหมือนพวกโรคจิต ยังดีที่รู้ทีหลังว่าจิตของเขาถูกครอบครองโดยดอกเตอร์ออคโทปุส--เรื่องมันยาวไม่ต้องถามนะ) เพื่อเข้าถึงพวกคุณ พี่น้องประชาชนทั้งหลาย เพื่อช่วยเหลือพวกเราทุกคนในพันธกิจที่พวกเราต้องช่วยเหลือกันและกัน ด้วยเหตุนี้ อะเวนเจอร์ผู้ทรงพลังทีมใหม่จึงได้ถือกำเนิดขึ้น!
ในขณะที่พวกเรายังคงอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมของเรา เหตุการณ์ล่าสุดนั้น--คือการรับมือกับคลื่นความเกลียดชังของเรดสคัล--เป็นเหตุให้พวกเราต้องตรวจสอบพันธกิจของพวกเราอีกครั้ง พวกเรายังคงเชื่อในพลังของมวลมหาประชาชน แต่เราแค่ต้องการปรับทัศนคติวิธีการของพวกเราใหม่ ขอให้
จากใจ
ลุค เคจ
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
เปิดเรื่องมาด้วยภาพข่าวการสัมภาษณ์ประชาชนเกี่ยวกับกัปตันอเมริกาคนใหม่ แซม วิลสัน หรือ ฟัลคอน (Falcon) ซึ่งก็มีทั้งคนที่รู้เรื่องและไม่รู้เรื่อง เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
มีความเปลี่ยนแปลงล่องลอยอยู่ในอากาศ
แซม วิลสัน
กัปตันอเมริกาคนใหม่
หลังจากเหตุการณ์สงครามโลกแห่งความเกลียดชังของเรดสคัลที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลก --หลังจากที่พวกเราจัดการหมอนั่นลงได้ที่เจโนชา-- ทุกอย่างก็รู้สึก... แตกต่างไป
เหมือนหลังพายุสงบ สิ่งต่างๆก็มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เติมเต็มด้วยเป้าหมายใหม่ๆอีกครั้ง
ชื่อของชั้นคือ แซม วิลสัน
ชั้นคือกัปตันอเมริกา
และชั้นจะปกป้องประเทศนี้จากทุกอริราชศัตรูทั้งภายนอกและภายใน ณ แห่งใดก็ตามที่ต้องการชั้น
ณ แห่งใดก็ตามที่ธงผืนนี้โบกสะบัด
และพวกมันก็ไม่ได้ยากที่จะตามหาเลย
ในเวลาว่างของชั้น ชั้นคือราชาแห่งเหล่าสกุณา ชั้นสามารถพูดคุยกับพวกมัน มองผ่านสายตาของพวกมัน
นั่นคือเครือข่ายการตรวจตราเมืองของชั้น ไม่มีคำว่า "ส่วนบุคคล"สำหรับเหล่านกพิราบ
แต่ถ้าพวกคุณไม่ได้มีอะไรต้องหลบซ่อน พวกคุณก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
แซมมองเห็นพวกโจรสองคนกำลังขับรถเปิดประทุนหลบหนีและยิงปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
เจ้าสองคนนี้ก็เหมือนกัน
เจ้าสองคนนี้น่าจะต้องเรียนรู้เรื่องความกลัวนิดหน่อย
และก็ตามนั้น
เขาเขวี้ยงโล่ออกไปจากกลางอากาศทันที
แน่นอนว่าชั้นไม่เก่งเรื่องใช้โล่เหมือนกับสตีฟ โรเจอร์
แต่ว่าก็ว่าเถอะ...
โล่ที่แซมขว้างไปพุ่งเข้ากระแทกหน้าของโจรกระจอกทั้งสองอย่างจังจนทำให้รถเสียการควบคุมพุ่งเข้าชนกำแพงตึกอย่างแรงจนทั้งสองคนนั้นกระเด็นออกมานอกรถทันที
...ชั้นก็มีช่วงเวลาของชั้นอยู่
เหนืออื่นใด โล่นี้คือตัวแทนของประเทศ
บางที ทั้งหมดที่ต้องใช้เพื่อควบคุมเธอนั้น...
...ก็คือมือที่จับอย่างมั่นคง
แซมเหาะไปรับโล่ที่กระเด้งกลับมาหลักจากกระแทกหน้าเจ้าโจรกระจอกทั้งคู่ได้อย่างง่ายดายก่อนจะเหิรบินต่อไป
NYPD จะจัดการต่อจากนี้เอง
พวกนั้นสามารถลากเจ้าสองตัวนั้นออกจากถนนเข้าไปอยู่โรงพยาบาลในเรือนจำได้เอง เพื่อให้ความผิดของพวกมันถูกจัดการให้ดีกว่านี้...
...และปล่อยให้พวกทนายโลกสวยนั่งนับไปว่าสิทธิมนุษยชนอันล้ำค่ากี่ข้อที่ชั้นเพิ่งละเมิดไป
ตำรวจ 1 : เพื่อนเอ๊ย แคปคนใหม่นี่ไม่จับตัวนักโทษเลยนะ ชั้นไม่รู้ว่าไอ้กุ๊ยพวกนี้จะมีโอกาสเดินได้อีกมั๊ย ยังไงซะ ก็ยังดีที่เห็นเขาอยู่ข้างเดียวกับเราใช่มั๊ยล่ะ ?
ตำรวจ 2 : อะ-เออ ข้างเดียวกับเรา
พระเจ้าช่วยปกป้องเราจากสิทธิมนุษยชนที
NYPD ย่อมากจาก New York City Police Department หรือหน่วยงานตำรวจนิวยอร์คนั่นเองครับ
Bleeding Heart จริงๆแล้วแปลประมาณว่าพวกคนหัวอ่อนมากๆ หรือพวกลิเบอรัลคือพวกคนที่ยึดติดกับความเสรีนิยมมากจนมากเกินไป คือ คิดถึงแต่เรื่องสิทธิเสรีภาพอยู่ตลอด ซึ่งในตอนนี้ผมเลยขอใช้คำว่า "พวกโลกสวย" แทนในความหมายประมาณนี้นะครับ
และพระเจ้าช่วยปกป้องเราจากพวกโลกสวยด้วย
โรงภาพยนต์เจ็ม
บ้านของเหล่าอะเวนเจอร์ผู้ทรงพลัง
เดฟ กริฟฟิท กำลังแนะนำหลักการทำงานของเหล่าไมท์ตี้อะเวนเจอร์ให้กับโซรยา โคราซานี (Soraya Khorasani) สมาชิกสาวคนใหม่ของทีม แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจฟังเท่าไหร่ ก่อนที่เธอจะหันไปเห็นใครบางคนเข้า
Soraya : อุ๊ย! ลุค เคจ!
ลุค เคจ
กำลังยุ่งกับเรื่องธุรกิจ
Dave : ... โอ้ ใช่ๆ นั่นแหละ ลุค ดูเหมือนว่าเขาจะวันที่ใส่สูทอยู่เหมือนกันนะ
Soraya : ชั้นขอโทษนะ แต่ชั้นเป็นพวกเห่อดารานิดหน่อยหนะ ชั้นว่า
Dave :ไม่เป็นไรหรอก มันโอเค เกิดขึ้นได้กับทุกคนแหละ เรื่องมันก็... คุณเป็นไมท์ตี้อะเวนเจอร์คนนึงแล้วนะ พวกเราทั้งหมดคือฮีโร่ ถ้าพวกเราอยากจะเป็นละก็
Dave :ก่อนที่เดฟจะได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง
??? : เฮ้ย พรรคพวก
Dave : ... ยกเว้นหมอนั่น
Luke Cage : ไม่ แกอย่าอยู่ดีๆก็เดินเข้ามาในบ้านของชั้น--
Spider-Man : เด๋วเซ่! เด๋ว เด๋ว เด๋ว เด๋ว! ฟังนะ ชั้นรู้ว่าเราไม่เคยมีเวลาที่จะได้คุยกันจริงๆจังๆตอนเรื่องของผู้เฝ้ามอง (The Watcher)* เลย แต่... ครั้งล่าสุดใช่ม่ะ ? ที่โจมตีพวกนายด้วยหุ่นยนต์ยักษ์แล้วก็อะไรต่อมิอะไรนี่ใช่ม่ะ ?** นั่นมันไม่ใช่ชั้นเลยจริงๆนะ***
สไปเดอร์แมน
มหัศจรรย์-ขอโทษขอโพย-เงอะๆงะๆ
*อยู่ใน Original Sin
** อยู่ใน Mighty Avengers #5
***อยู่ใน Superior Spider-Man
หลังจากนั้นสไปดี้เราก็แพร่มยาวยืดขอโทษขอโพยลุคเคจเป็นการใหญ่ว่าเรื่องสมัยก่อนที่เคยไปเกรียนใส่นั้นไม่ใช่เขา แต่เป็นฝีมือของดอกเตอร์ออคโทปุสที่อยู่ในร่างเขา
Spider-Man : เพราะงั้น! ชั้นอยากจะบอกนายตัวๆว่า--มันเป็นฝีมือออตโต้ทั้งหมดเลย ตลอดเวลา บ่องตง
Spider-Man : ...โอ้ เราดีกันแล้วใช่มั๊ย ?
Spider-Man : ลุค ? คู่หู ? อย่าเงียบสิพี่ใจคอไม่ดีเลย ?
Luke Cage : ออกไป เดี๋ยวนี้
Spider-Man : ไม่ ฟังก่อน-- ลุค ชั้นอธิบายไปแล้วไง-- มันเป็นออต--
Luke Cage : นายคิดว่าชั้นไม่รู้เรื่องนั้นหรอไง ? นายคิดว่าไม่มีใครสังเกตุมันเลยตลอดเวลาที่นายมาพูดอยู่ต่อหน้าชั้นเรื่องนี้ ? บางทีคนที่เล็งปืนมาที่ลูกสาวชั้นอาจจะไม่ใช่นาย แต่นายเป็นคนพาเรื่องมาถึงหน้าประตูบ้านชั้น นายปล่อยให้หมอนั่นทำยังงั้น ชั้นเคยเชื่อใจนายและนายก็ทำให้ชั้นผิดหวัง และนั่นไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับชั้น
Spider-Man : ลุค ได้โปรด! พวกเรา-- พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ-- ชั้นเสียใจ
Luke Cage : ใช่สิ นายเสียใจ นายขอโทษ ตอนนี้ก็ออกไปจากที่นี้ได้แล้ว
Luke Cage : ชั้นมีธุรกิจที่ต้องไปดูแล
ณ ตึกของกลุ่มบริษัทคอร์เท็กซ์ ซึ่งมีชายชื่อ เจสัน ควอนเทรลล์ (Jason Quantrell) เป็นซีอีโอ และพวกเขากำลังอยู่ระหว่างการประชุมบอร์ดบริหารนั้นเอง
ก็เกิดเหตุวายร้ายที่ชื่อ พาร์นิวัล พลันเดอร์ (Parnival Plunder) หรือ พลันเดอเรอร์ (Plunderer) และพรรคพวกพังกระจกเข้ามา
Plunderer : อย่าขยับ ท่านสุภาพสตรีที่แสนดี! อะฮ๊า ท่านสุภาพบุรุษที่แสนสง่าด้วย! ผมขอสั่งพวกคุณ-- ยืนขึ้นแล้วส่งของมีค่ามา! ห้องประชุมของพวกคุณตอนนี้ได้ถูกยึดแล้ว-- โดยเด็กๆของเดอะพลันเดอเรอร์!
พลันเดอเรอร์ นี่เป็นพี่น้องกับคาซ่า (Ka-zar) เจ้าป่าแห่งซาเวจแลนด์ (Savage Land) ด้วยนะครับ
Plunderer : ถ้าพวกคุณยังต้องการเก็บศรีษะเอาไว้บนบ่าละก็ พวกคุณต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดของพวกคุณไปที่บัญชีที่ตามรอยไม่ได้ของธนาคารสวิสของผม...
Plunderer : ...เพื่อที่ผมจะได้มอบมันให้แก่... เด็กกำพร้าผู้หิวโหย!
ลูกน้อง : เดี๋ยว อะไรนะ ? บ้าอะไรเนี่ย ?
แม้แต่คนสปอยล์ก็ยัง งง ไปด้วย อะไรของเอ็งหว่า... ?
Plunderer : อย่ามาทำให้เสียลุคสิ เทอรี่
Terry : ชั้นทำให้เสียลุค ? ตามเพิ่งบอกไปว่าจะเอาส่วนแบ่งของพวกเราไปให้เด็กกำพร้า!
Brett : เด็กกำพร้าผู้หิวโหยต่างหากล่ะ พวก
Terry : เงียบไปเลยน่า เบรท!
Plunderer : ชั้นจะเก็บส่วนนึงเอาไว้เป็นเงินเดือนแล้วก็ค่าจ่างน่า อย่ากังวล--
Terry : เงินเดือน ? พวกเราไม่ใช่พนักงานออฟฟิศนะ พาร์นิวัล
Terry : พวกเราเป็น-- พวกเราเป็นโจรสลัดแห่งเมืองกรุง! เหล่านักเลงบนถนนอันไร้ซึ่งปลายทาง วายร้ายน่ะ!
Plunderer : เทอรี่... พวกนายทุกคนเลย... พวกนายยังจำการต่อสู้อันยิ่งใหญี่ที่เจโนชากับเรดสคัลและแมกนีโต้และทุกๆคนได้อยู่มั๊ย ? ที่ร็อด คิงส์ลีย์ (Hobgoblin) พูดเตือนเราเกี่ยวกับเรื่องนั้น ?
Terry : แน่นอน-- ทุกคนมัวแต่ยุ่งกันอยู่จนไม่มีใครสังเกตุเห็นพวกเรา พวกเราเลยปล้นอะไรดีๆได้สำเร็จไง
Plunderer : โอ้ การปล้นอันยิ่งใหญ่ แต่ว่านะ... คือ...
Plunderer : พวกนายไม่รู้สึกแตกต่างไปจากเดิมตั้งแต่ตอนนั้นบ้างรึไง ? เหมือนว่าพวกเราควรจะ... ชั้นไม่รู้สิ ให้มากกว่ารับซะบ้างละมั๊ง ? แบบว่าเราน่าจะปล้นเพื่อคนอื่นบ้างละมั๊ง ?
Terry : นั่นสิ... พอตอนนี้นายพูดแบบนั้นแล้ว ใช่ ชั้นก็ว่าชั้นคิดงั้นเหมือนกันแฮะ
Plunderer : เพราะงั้นพวกนายจะว่าไงละ เหล่าลูกสมุนผู้เปี่ยมไปด้วยน้ำใจของชั้น เพื่อเหล่าเด็กกำพร้าใช่มั๊ย ?
Terry : นั่นสิ... แน่นอน โทษทีนะพาน ที่พูดไปเมื่อกี้มันมาจากไหน--
Terry : --ก็ไม่รู้ แอ๊ก--
แต่ยังไม่ทันที่เทอรี่ผู้เปี่ยมไปด้วยน้ำใจจะพูดจบประโยคดี โล่แห่งอเมริกาก็ลอยมากระแทกหัวเขาทันที
แน่นอนว่าผู้มาไม่ใช่ใครที่ไหน กัปตันอเมริกาคนใหม่ของเรานี่เอง
Sam Wilson : พวกนกบนหลังคาเห็นพวกแก นั่นหมายถึงว่าชั้นเห็นพวกแกด้วย ตอนนั้นชั้นขอพูดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด... แต่นั่นชั้นคงจะโกหกแล้ว เพราะอาชญากรสวะไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น ไม่ใช่ในห้องนี้ ไม่ใช่ในประเทศของชั้น
Sam Wilson : ก็นะ... อาจจะพอมีสิทธิ์ที่จะเลือดตกยางออกบ้างก็ได้
Plunderer : โอ้ หยุดเลยนะ นายคือกัปตันอเมริกา เห็นแก่เทพธิดาเถอะ-- กิจวัตรประจำวันของพวกตำรวจเลวนี่ไม่ใช่การเที่ยวหลอกใครไปทั่วนะ
ลูกน้อง #3 : เอ่อ... บอส
Plunderer : ไม่มีการโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น ลูกน้อง #3 จัดการหมอนี่ซะ!
แต่แล้วลูกน้องเบอร์ 3 หรือเบรทท์ก็โดนตีนของกัปตันอเมริกาคนใหม่เข้าไปเต็มๆ
Sam Wilson : ไม่ใช่การเที่ยวหลอกใครไปทั่วเร๊อะ ?
ลูกน้อง : เบรทท์ บ๊าเอ๊ย--
Sam Wilson : ตอนนี้พวกแกโดนหลอกรึยังล่ะ ?
ลูกน้อง : เดี๋ยว! หยุด! ชั้นยอมแพ้แล้ว! ชั้นยอม--
แต่ดูเหมือนแซมจะไม่สนใจคำว่ายอมแพ้เลย เขาใช้โล่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกกระแทกหน้าวายร้ายดวงซวยทันที
ในขณะที่เจสัน ควอนเทรลล์กลับยืนยิ้มอยู่อย่างถูกอกถูกใจ
Jason : ชั้นรู้ ถูกมั๊ยละ ? ใครบางคนก้าวลงจากเตียงผิดฝั่งแหงๆ ชั้นชักสงสัยว่าทำไมกันนะ ?
Jason : อู๊ปส์ ขอหนึ่งวินะ โทรศัพท์เข้าน่ะ
Jason : เจสัน ควอนเทลล์พูด โอ้เฮ้! ขอบใจที่โทรกลับมานะ
Jason : ฟังนะ ชั้นได้คิดทบทวนดูแล้วเกี่ยวกับข้อเสนอของนาย และชั้นคิดว่าพวกเราสองคนคงจะคุยกันได้-- อะไรนะ ? อ๋อ เสียงปึงปังแถวนี้นะหรอ ? ตลกดีที่นายถามนะ
เพราะระหว่างที่เจสันคุยโทรศัพท์อยู่นั้น กัปตันอเมริกาคนใหม่ของเราก็อัดพวกลูกกระจ๊อกของพลันเดอเรอร์ร่วงไปเกือบหมดแล้ว
Jason : หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของนายแวะมานะสิ-- ชั้นแค่กำลังมองดูเขาทำงานนะ มันช่าง.. สร้างแรงบันดาลใจจริงๆ
Terry : พลันเดอเรอร์ เราต้องหนีออกไปจากที่นี่--
Plunderer : เรายังทำเรื่องนี้ไหวน่า เทอรี่--
Terry : พาร์นิวัล-- อย่า--
Plunderer : เพื่อเหล่าเด็กกำพร้า!
แต่กระสุนปืนที่พลันเดอเรอร์ยิงออกไปก็ถูกกัปตันอเมริกาคนใหม่ของเราใช้โล่ป้องกันเอาไว้ได้ และไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือบังเอิญกันแน่ที่วิถีกระสุนที่สะท้อนจากโล่ของเขาพุ่งเข้าไปเจาะหัวของเทอรี่ผู้โชคร้ายทันที
Plunderer : เทอรี่! ไม่!
Plunderer : ผม-- ผมไม่ได้ตั้งใจ-- ใครก็ได้-- เรียกรถพยาบาลที! ได้โปรด! เขามีครอบครัวนะ! พวกคุณต้องช่วยเขา--
แต่ดูเหมือนว่าคำพูดเหล่านี้ไม่ได้เข้าหูกัปตันอเมริกาคนใหม่ของเราเลย เขาเดินเข้าไปถีบพลันเดอเรอ์ที่กำลังกอดร่างของเทอรี่อยู่จนหน้าคว่ำ
Sam Wilson : ไม่
Sam Wilson : ชั้นไม่จำเป็นต้องช่วยใครทั้งนั้น
โหดแสร่ดดด!! ตอนนี้ผมสงสารพลันเดอเรอร์ขึ้นมาจับใจเลย
Sam Wilson : โดยเฉพาะกับพวกตัวประกอบค่าแรงต่ำซึ่งโดนอย่างที่พวกมันสมควรได้รับแล้ว
Sam Wilson : เจสัน ควอนเทลล์ ถูกต้องมั๊ย ? ชั้นจำได้ว่าเราขังบอดี้การ์ดของนายเอาไว้เมื่อไม่นานมากนัก*
Sam Wilson : ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แน่นอน ควิกไฟร์ (Quickfire) ทำงานทั้งหมดด้วยความตั้งใจของเธอเอง ถูกต้องมั๊ย ?
Sam Wilson : แล้วนั่นยิ้มหาอะไร ?
*อยู่ใน Mighty Avengers #4-5
Jason : โอ้ ชั้นแค่... มองไปไกลๆน่ะ มันมีเรื่องแย่ๆ อยู่ในความมืดข้างนอกนั้น ยิ่งกว่าพวกพลันเดอเรอร์นี่ซะอีก
Sam Wilson : เถียงไม่ออกเรื่องนี้ ฟังนะ-- นายอาจจะต้องพาเจ้าพวกโจรกระจอกพวกนี้ไปหาหมอซะหน่อย
Sam Wilson : แต่คิดซะว่าทำเพื่อโลกแล้วกัน ปล่อยพวกมันไว้ยังงี้แหละ
แล้วกัปตันอเมริกาของเราก็บินจากไป
Jason : โหดสัสแฮะ เพราะงั้นตามที่นายอาจจะได้ยินแล้วนะ-- ชั้นมีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อยให้สะสาง จะว่าไงถ้าชั้นจะโทรกลับนายอีกที ? แน่นอนว่าในสายส่วนตัว
และคนในปลายสายของเจสันกลับเป็นบุคคลที่เราคิดไม่ถึง นั่นคือลุค เคจ!?
Luke Cage : แน่นอน ยินดีที่ได้ทำธุรกิจกับนาย เจสัน
มีความเปลี่ยนแปลงล่องลอยอยู่ในอากาศ
อะเวนเจอร์ ทาวเวอร์
เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
พวกคนที่อยู่บนเจโนชาในตอนที่ทุกอย่างกำลังแย่ลง... พวกเราคือกลุ่มเดียวที่รู้สึกถึงมันจริงๆ
กลุ่มเดียวที่ตื่นขึ้นมาจากความฝันที่เราอยู่และมองเข้าไปในความเป็นจริงที่สิ่งต่างๆควรจะเป็นไป
ชั้นรู้ว่าพวกเขาจะบอกว่าพวกเราผิด
บางทีพวกเขาอาจจะบอกว่าพวกเรามันเป็นปีศาจร้ายด้วยซ้ำ
Sam Wilson : โทษที ชั้นมาสาย
Tony Stark : ไม่ต้องกังวลหรอกน่า พ่อนักกีฬา--
โทนี่ สตาร์ค
ถ่ายทอดสดผ่านโฮโลแกรม
Tony Stark : --ชั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ว่าไงนายมีเรื่องอะไรอยากจะคุยล่ะ ?
Sam Wilson : เรื่องถนัดของนาย อนาคตไงล่ะ
Sam Wilson : อะเวนเจอร์คนอื่นๆ ไม่ได้เห็นอะไรแบบที่พวกเราเห็น นายก็รู้เรื่องนั้น พวกนั้นจะพยายามหยุดเราแน่ๆ
Tony Stark : น่าจะประมาณนั้น
Sam Wilson : นั่นหมายถึงเราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับแผนการกำจัดเสี้ยนหนามได้แล้ว และมีกลุ่มนึงโดยเฉพาะที่ชั้นอยากจะเริ่มลงมือเลย...
Tony Stark : ให้ชั้นเดานะ--กลุ่มที่ดูถูกเครื่องหมายการค้าของชั้นใช่มั๊ย ? บอกว่าไอ้โง่ที่ไหนก็เป็นอะเวนเจอร์ได้ใช่ป่ะ ?
Sam Wilson : นายเดาถูก เจ้าพวกโลกสวยนั่นแหละ
เพราะว่าพวกโลกสวยมักจะเอาแต่พูดอยู่ตลอด
แต่นั่นแหละคือทั้งหมดที่พวกนั้นจะทำได้
ดีแต่พูด
รูปที่ปรากฎขึ้นมาจากโฮโลแกรมก็คือเหล่าไมท์ตี้อะเวนเจอร์ เพื่อนร่วมทีมของฟัลคอน หรือ แซม วิลสัน กัปตันอเมริกาคนใหม่นั่นเอง
ชั้นคือกัปตันอเมริกา
ชั้นลงมือทำ
Tony Stark : เอาล่ะ พ่อนักกีฬา มาเริ่มทำลายอะเวนเจอร์ผู้ทรงพลังกันเถอะ
***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***
------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มนี้เปิดตัวมาก็ทำให้คนเกลียดขี้หน้าเลย ไม่รู้ทำไมมาร์เวลถึงใจร้ายกับฟัลคอนขนาดนี้ เพิ่งมารับบทกัปตันอเมริกาคนใหม่ได้ไม่ทันไรก็ต้องกลายเป็นตัวร้ายให้คนเกลียดขี้หน้าซะแล้ว ฮ่าๆๆ... เนื้อเรื่องในตอนนี้จะอยู่หลังจากเหตุการณ์ใน AXIS #3 แต่ในขณะที่เนื้อเรื่องใน All-New Captain America #1 น่าจะเกิดก่อนเหตุการณ์ AXIS ครับเพราะในเล่มนั้นแซมยังดูเป็นคนดี ไม่เกรียนอยู่ ในขณะที่เล่มนี้นี่เกรียนสุดๆ ถ้าอ่านทั้ง 2 หัวนี้คู่กันคงจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน มาร์เวลคงตั้งใจออกคอมมิค 2 หัวนี้มาพร้อมๆกันเพื่อให้เปรียบเทียบอย่างนี้แน่ๆ แต่ที่แอบสงสัยหน่อยนึงในหัวนี้ก็คือการที่แซมคิดจะจัดการกับลุค เคจด้วย เพราะจริงๆแล้วลุค เคจก็เป็นคนนึงในทีมไมท์ตี้อะเวนเจอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เจโนชาเหมือนกันซึ่งหมายความหว่าเค้าก็ได้รับผลของเวทนต์แบบเดียวกับแซมและน่าจะกลายเป็นเกรียนไปเหมือนๆกัน แต่ที่ดูจากลุค เคจแอบมีลับลมคมในกับเจสัน ควอนเทลล์นั้นแปลว่ามันอาจจะมีปมอะไรซ่อนอยู่อีก ก็รอติดตามกันต่อไปนะครับ
ส่วนพวกพลันเดอเรอร์ที่โผล่มาแล้วบอกว่าอยู่ที่เจโนชาในตอนนั้นด้วย ผมคิดว่าเดี๋ยวคงมีการพูดถึงตอนที่พวกนี้อยู่ที่เจโนชาในเล่มเดี่ยวของแมกนีโต้นะครับเพราะเห็นอ้างถึงชื่อแมกนีโต้ด้วย เพียงแต่เล่มนั้นมันยังไม่ออกมาเท่านั้นแหละ เลยงงๆนิดหน่อยตอนนี้ที่อยู่ดีๆหมอนี่ก็มาบอกว่าอยู่ที่เจโนชาด้วย
เล่มนี้เปิดตัวมาก็ทำให้คนเกลียดขี้หน้าเลย ไม่รู้ทำไมมาร์เวลถึงใจร้ายกับฟัลคอนขนาดนี้ เพิ่งมารับบทกัปตันอเมริกาคนใหม่ได้ไม่ทันไรก็ต้องกลายเป็นตัวร้ายให้คนเกลียดขี้หน้าซะแล้ว ฮ่าๆๆ... เนื้อเรื่องในตอนนี้จะอยู่หลังจากเหตุการณ์ใน AXIS #3 แต่ในขณะที่เนื้อเรื่องใน All-New Captain America #1 น่าจะเกิดก่อนเหตุการณ์ AXIS ครับเพราะในเล่มนั้นแซมยังดูเป็นคนดี ไม่เกรียนอยู่ ในขณะที่เล่มนี้นี่เกรียนสุดๆ ถ้าอ่านทั้ง 2 หัวนี้คู่กันคงจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน มาร์เวลคงตั้งใจออกคอมมิค 2 หัวนี้มาพร้อมๆกันเพื่อให้เปรียบเทียบอย่างนี้แน่ๆ แต่ที่แอบสงสัยหน่อยนึงในหัวนี้ก็คือการที่แซมคิดจะจัดการกับลุค เคจด้วย เพราะจริงๆแล้วลุค เคจก็เป็นคนนึงในทีมไมท์ตี้อะเวนเจอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เจโนชาเหมือนกันซึ่งหมายความหว่าเค้าก็ได้รับผลของเวทนต์แบบเดียวกับแซมและน่าจะกลายเป็นเกรียนไปเหมือนๆกัน แต่ที่ดูจากลุค เคจแอบมีลับลมคมในกับเจสัน ควอนเทลล์นั้นแปลว่ามันอาจจะมีปมอะไรซ่อนอยู่อีก ก็รอติดตามกันต่อไปนะครับ
ส่วนพวกพลันเดอเรอร์ที่โผล่มาแล้วบอกว่าอยู่ที่เจโนชาในตอนนั้นด้วย ผมคิดว่าเดี๋ยวคงมีการพูดถึงตอนที่พวกนี้อยู่ที่เจโนชาในเล่มเดี่ยวของแมกนีโต้นะครับเพราะเห็นอ้างถึงชื่อแมกนีโต้ด้วย เพียงแต่เล่มนั้นมันยังไม่ออกมาเท่านั้นแหละ เลยงงๆนิดหน่อยตอนนี้ที่อยู่ดีๆหมอนี่ก็มาบอกว่าอยู่ที่เจโนชาด้วย
Musashi
เริ่มเกลียดมา2เล่มติดและ = ="
ตอบลบเกรียนแตก แต่พอไปเล่มaxis5โดนซัดซะเละเลย
ตอบลบพลันเดอร์เลยกลายเป็นคนดีปล้นคนรวยช่วยเด็กกำพร้า ? เพราะอยู่ในเจโนชา ส่วนที่คิดจัดการลุคเคจไม่แปลก ทั้งที่ลุกเคจก็กลายเป็นเกรียน เพราะเกรียนอเวนเจอร์ที่อยู่บนเจโนชา ก็ไม่ได้ร่วมทีมกันเกรียน แต่แบ่งแยกทีมกันเกรียน (เล่นกันเอง) ต่างจากกลุ่มเกรียนเอ็กซ์เมนที่ร่วมกันเกรียน (มันตรงกันข้ามที่เมื่อก่อนเอ็กซ์เมนแยกกัน อเวนเจอร์รวมตัวกัน)
ตอบลบโอ้! จริงด้วยแฮะ ผมไม่ได้สังเกตุประเด็นแยกกันเกรียน กับรวมตัวกันเกรียน ของอะเวนเจอร์กับเอ็กซ์เม็นเลย พอพูดมายังงี้เลยทำให้เห็นอีกประเด็นนึงคือแซมไปร่วมมือกับโทนี่ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเหมือนๆว่าแซมจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าโทนี่เท่าไหร่ ตอนนี้กลายเป็นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย
ลบขอบคุณมากคร๊าบบ
ตอบลบ