16 พฤศจิกายน 2557

Death of Wolverine #4 (2014)

บทสรุปสุดท้ายในชีวิตของชายผู้ฆ่าไม่ตาย
เจมส์ ฮาวเล็ตต์ ฮัดสัน หรือ โลแกน วูลฟ์เวอรีนผู้เป็นตำนาน
หนึ่งในเอ็กซ์เม็นและอะเวนเจอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลได้จากไปแล้ว




 Death of Wolverine #4 (2014)
History
เรื่องโดย : Charles Soule
ภาพโดย : Steve McNiven, Jay Leisten, Justin Ponsor

วางจำหน่าย : 15 ตุลาคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Musashi

ประวัติศาสตร์

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)



วูลฟ์เวอรีน หรือ ป๋าโลแกนของเรากำลังขับรถจี๊ปของใครก็ไม่รู้บุกตะลุยอยู่ท่ามกลางทะเลทรายของพาราไดซ์วัลเลย์ในรัฐเนวาดา

วาระสุดท้าย
ของวูลฟ์เวอรีน
บทที่สี่




และจุดหมายปลายทางของเขาก็คือสถาบันวิจัยลับของดอกเตอร์อับราฮัม คอร์เนเลียส (Abraham Cornelius) และถึงแม้จะมีการ์ดคอยเฝ้าอยู่หน้าทางเข้าแต่โลแกนที่ไม่มีฮีลลิ่งแฟคเตอร์แล้วก็ยังสามารถจัดการกับการ์ดพวกนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยกรงเล็บที่เป็นแบบปลอกแขนซึ่งเขาใช้แทนที่กรงเล็บอะดาแมนเที่ยมของเขาซึ่งไม่สามารถใช้ได้ในเวลาที่เขาสูญเสียฮีลลิ่งแฟคเตอร์ไปแล้ว

การ์ดบอกว่าคอร์เนเลียสอยู่ด้านบน แต่เมื่อโลแกนใช้บัตรผ่านที่เขาได้มาจากพวกการ์ดคนใดคนหนึ่งเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เข้าพบอยู่ข้างในนั้นก็คือ...



ภาพของตัวเขาเองที่ถูกทำการทดลองอยู่ในหลอดแก้วของโครงการเวพอนเอ็กซ์นั่นเอง

Wolverine : ไม่



แต่สิ่งที่โลแกนเห็นนั้นเป็นเพียงภาพหลอนจากความทรงจำที่เลวร้ายในอดีตของเขาเท่านั้น สิ่งที่อยู่ในห้องนั้นคือร่างของชายสามคนที่นอนอยู่บนเตียงทดลอง โดยมีคอร์เนเลียสยืนอยู่ในห้องกระจกฝั่งตรงกันข้าม

Cornelius : ในที่สุด



Cornelius : โอกันบอกว่าแกจะมา ชั้นประทับใจมากๆ มันช่วยชั้นประหยัดเงินไปมหาศาลเลย

Wolverine : แกกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ คอร์เนเลียส

Wolverine : แกกำลังทำอะไร?!

Cornelius : ชั้นกำลังทำให้มันถูกต้องไงล่ะ โลแกน ชั้นกำลังใช้ทุกอย่างที่ชั้นได้เรียนรู้มาในชีวิต...

Cornelius : ...ทั้งหมดที่ชั้นทำผิดพลาด...

Cornelius : ...และชั้นกำลังจะทำให้มันถูกต้อง



Cornelius : ชั้นสมควรจะได้เป็นที่รู้จักในเรื่องอื่นมากกว่าการมีส่วนในการสร้างนักฆ่า...

Cornelius : ...ที่ฆ่าไม่ตายขึ้นมา

Wolverine : คนพวกนี้เป็นใคร ?

Cornelius : พวกเขาคือความหวังอันยิ่งใหญ่ของชั้นไงล่ะ ความหวังสุดท้ายอันยิ่งใหญ่ของชั้น ยอดเยี่ยมที่สุดที่ชั้นสามารถหาได้แล้ว

Cornelius : แกคงไม่เชื่อหรอกว่ามันยากขนาดไหนที่จะหาร่างทดลองที่เหมาะสมได้ นักกีฬา คนของกองทัพ... นายหน้าของชั้นนำคนพวกนี้มาให้จากทั่วโลก



Wolverine : กี่คนแล้วที่แก... ?

Cornelius : มากเท่าที่ชั้นต้องการนั่นแหละ คุณโลแกน มากเท่าที่ชั้นต้องใช้ หลายร้อยคนละมั๊ง มันก็หลายปีมาแล้วละนะ มันยังไม่พอหรอกเพราะว่าชั้นยังแก้ปัญหามันไม่ได้ แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรหรอก

Cornelius : เพราะนับทศวรรษแล้วที่จำนวนของผู้คนที่ใส่ใจว่าคนพวกนี้เคยมีชีวิตอยู่หรือเปล่ายังเป็นแค่ตัวเลขหลักเดียว



Cornelius : ตอนที่ชั้นสร้างแก--

Wolverine : แกไม่ได้สร้างชั้น

Cornelius : ชั้นให้กระดูกอะดาแมนเที่ยมกับแก ทำให้กรงเล็บของแกไม่มีวันแตกหัก ชั้นคอยตามดูอยู่เสมอว่าแกทำอะไรบ้าง คุณโลแกน-- แกคิดว่าแกจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ถ้าไม่มีชั้นงั้นเหรอ ? ชุดคอสตูมสีสดใส การสรรเสริญเยินยอ แกมันไม่เหมาะกับด้านสว่างหรอก

Cornelius : พวกเขาต่างหาก

Cornelius : เด็กๆ ของชั้น เด็กๆที่น่ารักและร้ายกาจของชั้น

Cornelius : พวกเขารับเงื่อนไข พวกเขาจะทำอะไรก็ตามที่พวกเขาถูกสั่งให้ทำ ไม่เหมือนแก ชั้นเข้าควบคุมทุกระบบ... ทั้งระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ กล้ามเนื้อ... พวกเขาสมบูรณ์แบบ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ...

Cornelius : ...คืออะดาแมนเทียม

Wolverine : นั่นคือทำไม... แกถึงต้องการโครงกระดูกของชั้น

Cornelius : ผิดแล้ว ชั้นมีเจ้าโลหะผสมพวกนั้นมากพอแล้ว ไม่ใช่ง่ายๆหรอกนะที่จะหามาได้เพราะมันแพงเอาเรื่องเลย แต่ชั้นก็รวบรวมมันมาได้จำนวนมากพอ แม้แต่กระบวนการที่จะหลอมเหลวมัน

Cornelius : แต่อย่างที่แกรู้ ขั้นตอนที่จะนำโลหะนี้เข้าไปในตัวคนมันเป็นเรื่องที่... อันตราย



Cornelius : ชั้นพยายามที่จะเลียนแบบความสามารถ... ของแก ที่จะทำให้ร่างทดลองของชั้นรอดชีวิตจากการรวมตัวกับอะดาแมนเที่ยมให้ได้ ชั้นจึงได้พัฒนาสูตรยาปฏิรูป (Regenerative Formula) ขึ้นมา-- มันมีประสิทธิภาพมาก แต่ยังไม่มากพอ

Regenerative Formula คือยาแบบเดียวกับที่โอกันในร่างคิตตี้ไพรด์ให้โลแกนใช้รักษาแผลที่ถูกเซเบอร์ทูธเล่นงานใน Death of Wolverine #3 ครับ

Cornelius : พวกเขาตายหมดและเพราะงั้นชั้นเลยต้องสกัดอะดาแมนเที่ยมออกมาจากศพเจ้าพวกนั้น วุ่นวาย เสียเวลา แต่ชั้นจะไม่ปล่อยให้อะไรเสียเปล่าอีกแล้วที่นี่

Cornelius : นั่นคือทำไมชั้นถึงดีใจที่แกมาหาชั้นไงล่ะ แกสามารถพลิกเรื่องนี้จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ แกคือเหตุผลที่ชั้นยอมทุ่มเงินไปมหาศาล ใช้ความพยายามไปมากมาย แกไม่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ดีกว่าเดิมบ้างหรือไง คุณโลแกน ? แกสามารถเป็นฮีโร่ได้อีก แกสามารถปกป้องชีวิตผู้คนได้ต่อไป แค่หยุดต่อต้านชั้น แล้วมาช่วยชั้นช่วยพวกเขา ทั้งหมดที่ชั้นต้องการมีแค่... พลังฮีลลิ่งแฟตเตอร์ที่แสนมหัศจรรย์ของแก



Wolverine : หึ

โลแกนกรีดมือตัวเองแล้วนำไปทาบที่กระจกให้คอร์เนเลียสเห็นชัดๆ ว่าแผลของเขาไม่สามารถหายเองได้อีกแล้ว ฮีลลิ่งแฟคเตอร์ของเขาไม่มีอีกแล้ว

Cornelius : ทำไมมันถึงไม่-- ?

Wolverine : โทษทีนะ พวก

Cornelius : ชั้นมักมีปัญหากับเรื่องแบบนี้จริงๆ

Cornelius : ฆ่ามันซะ

เห็นฉลาดไปหมดทุกเรื่อง แต่เรื่องโลแกนเสียฮีลลิ่งแฟคเตอร์ไปแล้วดันไม่รู้แฮะ แล้วโอกันที่รู้แล้วก็ไม่ยอมรายงานด้วยหรอเนี่ย น่าสงสารจริงๆ คอร์เนเลียส



??? : รับทราบ

ชายคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นข้างหลังโลแกนทันที

Wolverine : ชั้นไม่เคยมีปัญหากับแกนะ พวก

??? : นั่นไม่สำคัญหรอก ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้ว

Cornelius : นี่คือพันตรีชาร์ป โลแกน เขาคือผู้ตามหา เขากำลังมองหาอะไรบางอย่างและเพราะเหตุนั้นเขาจึงมาหาชั้น เขาคือข้อพิสูจน์ของแนวคิดชั้น ผู้หนุนหลังชั้นรักหมอนี่นะ ทุกเทคนิคอันน่าลุ่มหลงที่ชั้นพอจะคิดได้ มันอยู่ในหัวเขาแล้ว เขาต่อสู้อยู่ตลอด

Sharp : ตลอดเลย

ว่าแล้วชาร์ปก็ซัดโลแกนเข้าที่หน้า ในขณะที่คอร์เนเลียสก็กดปุ่มอะไรบางอย่างที่คอมพิวเตอร์ของเขา



นั่นก็คือการกดปุ่มให้เครื่องจักรเริ่มทำการทดลองกับร่างทดลองทั้งสามที่นอนอยู่ในห้องนั่นเอง

Cornelius : แกรู้ความผิดพลาดของชั้นมั๊ย ?

Cornelius : ชั้นครุ่นคิดถึงมันอยู่บ่อยๆ

Cornelius : ชั้นเคยใช้สัตว์ พวกแกคือสัตว์ตัวหนึ่ง

Cornelius : พวกนั้นเรียกแกว่าวูลฟ์เวอรีนสินะ ชั้นรู้ว่าพวกมันเรียกอย่างนั้น ชั้นคอยตามอยู่ตลอด แกรู้ชื่อวิทยาศาสตร์ของวูล์ฟเวอรีนมั๊ย ?


ทางด้านโลแกนก็ถูกชาร์ปใช้ฝ่ามือตัดกงเล็บเทียมที่อุตส่าห์ติดมาได้อย่างง่ายดายและตามด้วยยำใหญ่อีกหลายชุด

Cornelius : Gulo Gulo ไงละ เป็นภาษาลาตินของคำว่า Gluttonous (ตะกรุมตะกราม) พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอยากกระหายอย่างน่าขนลุกขนพอง

Cornelius : มันเป็นชื่อที่ดีสำหรับแกนะ

Cornelius : แต่ดูชาร์ปสิ ดูที่เขา ทำตามคำสั่งอย่างสมบูรณ์แบบ

Cornelius : ดียิ่งกว่า

Cornelius : ปืน AK-47 คือเรื่องราวของสิ่งประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ลองบอกชื่อของเครื่องกลไกอื่นๆ ที่ยังคงใช้งานกันอยู่มานานกว่า 70 ปี... โดยไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยดูสิ แกบอกไม่ได้หรอก มันสมบูรณ์แบบ

Cornelius : การสร้างบางสิ่งที่สมบูรณ์แบบ และแกก็เป็นอมตะ แกมันมีค่า

Cornelius : แต่ชั้นทำมันพลาดไป ครั้งแรกในบรรดาความผิดพลาดของชั้น

Cornelius : แก แกมันคือวูล์ฟเวอรีน เจ้าตัวอยากกระหายแก่ความตาย เจ้าตัวเชื้อร้ายที่คงอยู่บนโลกใบนี้

Cornelius : แต่ชั้นจะแก้ไขมันให้ได้

Cornelius : ...ไม่ต้องมีสติสัมปชัญญะ ไม่ต้องมีความต้องการ แค่ทำตามคำสั่ง

Cornelius : ชั้นจะเปลี่ยนโลกนี้ให้มันดีขึ้นก่อนที่ชั้นจะตาย ชั้นจะทำให้ได้

ปืนเอเค-47 (AK-47) เป็นปืนเล็กยาวจู่โจมขนาด 7.62 ม.ม.ที่ทำงานด้วยระบบแก๊สและเลือกการยิงได้ มันถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยมิคาอิล คาลาชนิคอฟของสหภาพโซเวียต ชื่อเอเค-47 ย่อมาจาก Kalashnikov automatic rifle, model of 1947 ดังนั้นมันจึงมักเรียกกันในชื่อย่อว่า Automat Kalashnikova 47 หรือ AK-47 ซึ่งหมายถึง ปืนเล็กยาวอัตโนมัติของคาลาชนิคอฟ ปี 1947 นั่นเอง โดยปืนชนิดนี้รุ่นดั้งเดิมเป็นหนึ่งในปืนเล็กยาวจู่โจมที่มีผู้นิยมใช้กันมากที่สุดในโลกครับ แม้ว่าจะถูกประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1947 แล้วก็ตาม แต่ด้วยความทนทาน ต้นทุนต่ำ และง่ายในการใช้งาน ทำให้มันกลายเป็นปืนเล็กยาวจู่โจมที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก แม้ว่าจะผ่านมานานถึงหกทศวรรษแล้วก็ตาม  ว่ากันว่าปืนตระกูลเอเคนั้นถูกผลิตขึ้นมามากกว่าปืนรุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นรวมกันเสียอีก

ในที่นี้คอร์เนเลียสยกย่องว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพราะว่ามันสมบูรณ์แบบในตัวเองแล้วแม้ว่าเวลาจะผ่านมากว่า 60 ปี ผู้คนก็ยังคงใช้งานมันอยู่โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมันเลย ซึ่งเปรียบเทียบกับโลแกนที่คอร์เนเลียสถือว่าสมบูรณ์แบบเพราะเขาเป็นอมตะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน โลแกนก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ภายหลังเขาถึงคิดว่าโลแกนเป็นของที่ผิดพลาดเพราะโลแกนไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งของเขานั่นเอง



Cornelius : แค่... จบมันซะ

Sharp : รับทราบ



ชาร์ปโถมเข้าต่อยโลแกนสุดตัว แต่ด้วยความโง่เง่าของชาร์ปหรือเพราะป๋าโลแกนเรายังพริ้วอยู่ก็ไม่รู้ หมัดตรงปิดบัญชีของชาร์ปถึงพลาดไปต่อยเข้าใส่กระจกที่คอร์เนเลียสยืนอยู่ด้านหลังเข้าเต็มๆจนกระจกแตกกระจาย

Sharp : ผมเสียใจ ดอกเตอร์คอร์เนเลียส ผม--

Cornelius : เจ้าโง่เอ๊ย เจ้า--

Cornelius : --ระวั--



ไม่ทันสิ้นเสียงเตือนของคอร์เนเลียส ระหว่างที่ชาร์ปมัวแต่ขอโทษขอโพยโดยไม่ทันระวังอยู่นั่นเอง ป๋าโลแกนของเราเลยทุบก้านคอเข้าให้จากข้างหลังตามแบบอย่างของฮีโร่ที่ดีจนชาร์ปหน้ากากหลุดล้มลงไปกองอย่างง่ายดาย (สรุปว่ามันคงโง่จริงๆสินะ สู้กันอยู่แต่ดันไม่ระวังแล้วหันหลังให้ศัตรู โดยเฉพาะศัตรูเป็นคนระดับวูลฟ์เวอรีนเนี่ย)

Wolverine : เครื่องจักรนั่น

Wolverine : ปิด มัน ซะ

ก่อนที่ป๋าโลแกนจะหยิบหน้ากากของชาร์ปมาบี้จนเละเป็นการขู่ขวัญคอร์เนเลียส

Cornelius : ไม่



คอร์เนเลียสที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ กดปุ่มดำเนินการฉีดอะดาแมนเทียมเหลวเข้าสู่ร่างทดลองทันที ก่อนที่จะหนีออกประตูอีกฟากไป

Wolverine : ไม่นะ



จนโลแกนต้องตัดสินใจใช้กงเล็บอะดาแมนเทียมอีกครั้ง ในสภาพร่างกายทีปราศจากฮีลลิ่งแฟคเตอร์มาคอยรักษาแผลที่เกิดจากกงเล็บทะลุมือออกมาอีกแล้ว



แต่ด้วยความโง่เง่าที่ไม่ด้อยไปกว่าชาร์ปเท่าไหร่นัก เขาวิ่งไปใช้กงเล็บอะดาแมนเทียมของเขาทำลายหลอดบรรจุอะดาแมนเทียมเหลวทันที จนอะดาแมนเทียมเหลวเหล่านั้นทะลักเข้าอาบร่างของเขา ทั้งๆที่เขาน่าจะใช้กงเล็บทำลายขาทั้งสามข้างของหลอดบรรจุอะดาแมนเที่ยมแล้วปล่อยให้หลอดบรรจุตกลงมากระแทกพื้นซะมากกว่า


ก็นะ... วูลฟ์เวอรีนเคยเป็นอะไรมามากมาย ทั้งซูเปอร์ฮีโร่ ยอดนักฆ่า ยอดนักรัก ยอดทหาร ยอดอาจารย์ ยอดซามูไร แต่ไม่เคยมีชื่อเสียงเรื่องเป็นคนยอดฉลาดแน่นอน ฮ่าๆๆ



แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าร่างจะอาบไปด้วยอะดาแมนเทียมเหลว โลแกนก็ยังฝืนไปหยิบหลอดยาปฏิรูปที่คอร์เนเลียสวางทิ้งไว้มาได้ และฉีดให้ร่างทดลองทั้งสามก่อนที่จะฝืนเดินตามคอร์เนเลียสไป



Cornelius : ไป! ไป! เราชักช้าไม่ได้แล้ว!

นักบิน : ผมจะบินขึ้นเลย... แต่ คุณ... เกิดบ้าอะไรขึ้น ดอกเตอร์ คุณกำลัง... เลือดออกนะ

Cornelius : ชั้น... ชั้นเลือดออก

ปรากฎว่าคอร์เนเลียสถูกเศษกระจกที่แตกจากการต่อยพลาดของชาร์ปปักเข้าที่หน้าท้องจนเป็นแผลฉกรรจ์เลือดอาบไปทั้งตัวแต่เขากลับไม่รู้ตัวเลย

Cornelius : อ๊าาา--

นักบิน : ทำใจดีๆไว้ ด็อก

นักบิน : เกิดบ้าอะไรขึ้น-- ?

Cornelius : ไปเหอะน่า! เดี๋ยวนี้เลย!


แต่ยังไม่ทันจะไปไหน โลแกนก็ตามออกมาจนทัน ในสภาพที่อาบไปด้วยอะดาแมนเทียม ซึ่งน่าสยดสยองกว่าสภาพที่อาบไปด้วยเลือดซะอีก



นักบินเห็นตัวประหลาดตรงหน้าถึงกับสั่นจนชักปืนไม่ออกแล้วทิ้งคอร์เนเลียสวิ่งหนีไปทันที

Cornelius : มะ--ไม่!




คอร์เนเลียสที่รู้หว่าหนีไม่รอดแล้ว ตะโกนใส่โลแกนด้วยความโกรธเกรี้ยว


Cornelius : อย่างน้อยชั้นก็พยายามแล้ว! ชั้นพยายามจะสร้างอะไรซักอย่าง! ชั้นพยายามที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้!

Cornelius : แล้วแกเคยทำอะไรบ้างนอกจากฆ่าคน ? แกเคยทำอะไรบ้าง ?

Cornelius : แกเคยทำอะไร--

จวบจนนาทีสุดท้ายของชีวิต คอร์เนเลียสก็ยังคงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง



คำถามสุดท้ายของคอร์เนเลียสทำให้วูล์ฟเวอรีนหวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาต่างๆในชีวิตอันยาวนานของเขา (ใช่แล้ว อย่างที่ผมเพิ่งเขียนถึงไปเมื่อกี้นั่นแหละ วูล์ฟเวอรีนเคยเป็นอะไรมามากมาย ทั้งซูเปอร์ฮีโร่ ยอดนักฆ่า ยอดนักรัก ยอดทหาร ยอดอาจารย์ ยอดซามูไร) เขาฝืนเดินผ่านร่างของคอร์เนเลียสที่สิ้นใจไปแล้วจนสุดขอบดาดฟ้า เหม่อมองดูภาพพระอาทิตย์ตกดินเบื้องหน้า

"อา พอกันซะที"



หนึ่งในเอ็กซ์เม็นและอะเวนเจอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ชายผู้ยอดเยี่ยมที่สุดในสิ่งที่เขาทำ แต่สิ่งที่เขาทำไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก (The Best At What He Does, And What He Does Isn't Very Nice) เจมส์ ฮาวเล็ตต์ ฮัดสัน หรือ โลแกน วูลฟ์เวอรีนผู้เป็นตำนาน คุกเข่าลงท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงของพาราไดซ์วัลเลย์หรือหุบผาสวรรค์ สถานที่ซึ่งมีชื่อเรียกราวกับจะหยอกล้อกับความตายของชายผู้ฆ่าคนมานับไม่ถ้วนเช่นเขา สองมือที่แบออกไปข้างหน้าราวกับจะปลดเปลื้องทุกภาระที่เขาเคยแบกรับมาอย่างยาวนาน ก่อนที่อะดาแมนเที่ยมเหลวเหล่านั้นจะแข็งตัวและกักขังเขาไว้ในโลงศพที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนษยชาติ

ลาก่อนโลแกน.. จนกว่าจะพบกันใหม่




จบเล่ม 4.

ซื้อคอมมิคเล่มนี้แบบดิจิตอลถูกลิขสิทธิ์ คลิ๊กที่นี่

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          ก็มาถึงบทสุดท้ายแล้วของมินิซีรีย์ Death of Wolverine อันนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันช่างธรรมดาเอามากๆ สำหรับการตายของตัวละครระดับตำนานอย่างวูล์ฟเวอรีน (บ่นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย) เคยได้ยินมาว่าตอนที่กัปตันอเมริกาตายใน Civil War นั้น ถึงกับได้ลงข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพืที่อเมริกาเลยนะครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่วูล์ฟเวอรีนตายแบบเงียบๆแบบนี้ จะเกี่ยวกับกระแสที่ว่ามาร์เวลตั้งใจจะให้วูลฟ์เวอรีนตายเพื่อลดบทบาทขในคอมมิคลงจะได้ไม่ไปช่วยสนับสนุนหนัง X-Men ของ FOX เพื่อจะได้ทำให้หนังทำรายได้น้อยลงถ้าขาดการสนับสนุนจากแฟนคอมมิค FOX จะได้อยากคืนลิขสิทธิ์ให้มาร์เวลซักที เรื่องนี้จริงไม่จริงก็ไม่รู้เหมือนกันนะ

          ส่วนรูปด้านล่างนี้เป็นรูปรวมปกแบบอื่นๆ (Variant Cover) ของ Death of Wolverine เล่ม 1-4 มาให้ดูกันเป็นของแถม







          และถึงวูล์ฟเวอรีนจะตายไปแล้ว ก็ยังมีคอมมิคที่จะมีเนื้อหาต่อจากการตายของเขาออกมาอีกหลายเล่มด้วยกัน ซึ่งผมคงจะหยิบมาทำแค่บางเล่มที่น่าสนใจตามรายชื่อข้างล่างนะครับ


แต่จะได้ทำออกมาตอนไหนก็ติดตามกันต่อไปนะครับ อาจจะข้าหน่อย (ไม่หน่อยล่ะ คงช้ามาก) เรื่องเก่าๆที่ทำสปอยล์แล้วดองเอาไว้ก็ยังมีอีกเพียบเลย ฮ่าๆๆ..

Musashi

10 ความคิดเห็น:

  1. ตอนปีเตอร์ในจักรวาลอันติเมตตายยังเศร้ากว่าอีก ป่าวูฟตายนี้เฉยๆมาก

    ตอบลบ
  2. งวดนี้ไม่มีคำว่า มาร์เวลแถเหรอ เห็นมีทุกครั้งหนิ รออ่านอยู่แท้ๆ

    ตอบลบ
  3. ก็คงให้ตายเพื่อกดดันFOX นี่ถ้าไม่เกรงใจในชื่อเสียงที่ยาวนาน+ยอดขายของหัวX-men คงอยากจะตัดจบหัวX-menทุกหัวเพื่อกดดันFOXทุกทาง
    ไม่แน่นะ ถ้ากดดันหนักๆอาจปูเรื่องไปให้เผ่าX-menไปรวมกับInhuman ใช้ชื่อInhuman ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ยกเลิกหัวX-men กดดัน
    ตอนหลังถ้าได้คืนลิขสิทก็ทำ Eventผู้นำScottแยกตัวจากInhuman มาเป็นX-menเหมือนเดิม

    ตอบลบ
  4. รอบนี้ตายแบบไม่น่าจดจำเท่าไหร่แฮะ

    ตอบลบ
  5. ตอนเกิดเป็น Wolverine
    ตอนตายกลายเป็น Silver Surfer 555

    ตอบลบ
  6. บอกเลยตายแบบนี้ โอกาสฟื้นคือ 70% ได้เลยครับ
    ดูจากรูปการณ์ และเหตุผลการตายยังแถให้ฟื้นได้สบายๆ 5555

    ตอบลบ
  7. มาฟอร์มนี้ไม่ตายชัวร์ อาจจะเว้นวรรคซักพัก เดี๋ยวก็อ้างนู่นนี่กลับมาใหม่พร้อมพลังฮีลลิ่งเหมือนเดิม

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ28 มีนาคม 2558 เวลา 20:11

    ต่อให้มีพลังรักษาตัว เจออาบอดาเเมนเที่ยมซะเยินขนาดนี้ ดูท่าจะทรมานบรรลัยไม่ตายเเต่คงเน่าตายเป็นมัมมี่อยู่ในนั่นเเน่ๆ โถ๋ป๋าวูฟ ตายได้อนาทโคตรรร T_T

    ตอบลบ
  9. Fox คืนลิขสิทธิ์เมื่อไหร่ ป๋าวูฟคืนชีพแน่ๆละครับ 55555
    #คหสต

    ตอบลบ