30 พฤศจิกายน 2557

Superior Iron Man #2 (2014)

โทนี่ สตาร์คได้เปลี่ยนซานฟรานซิสโกให้เป็นสรวงสววรค์ตามความคิดของเขา
แต่แม็ตต์ เมอร์ด็อกกลับไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่โทนี่ได้ทำลงไป

แล้วแดร์เดวิลจะสามารถทำให้โทนี่กลับมาเป็นคนเดิมได้หรือไม่!?


Superior Iron Man #2 (2014)
Daredevil Vs. Iron Man
เรื่องโดย : Tom Taylor
 ภาพโดย : Yildiray Cindar, Guru Efx
วางจำหน่าย : 26 พฤศจิกายน 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ผู้สปอยล์ : Venom, Musashi

โทนี่ สตาร์ก คือผู้มีวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีที่เหนือใคร... เป็นนักประดิษฐ์ผู้มีชื่อเสียง มั่งคั่ง และไม่มีใครเทียบเคียง ด้วยชุดเกราะอันล้ำยุคและทรงพลังที่สุดในโลก สตาร์กได้ปกป้องผู้บริสุทธิ์อย่างกล้าหาญราวกับอัศวินแห่งแสงอันไร้เทียมทานในนามของไอร่อนแมน แต่ในมหาสงครามกับ เรด สกัล ผู้มีพลังจิตได้เปลี่ยนจิตใจของสตาร์คไป

ด้วยความหยิ่งยโสที่มากขึ้น และบุคคลิกเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏออกมา โทนี่สตาร์กใช้ ซาน ฟรานซิสโก เป็นที่ทดสอบของแอพเอ็กซ์ตรีมมิส 3.0 มันสามารถพัฒนาชีวิตของผู้คน ทำให้พวกเขานั้นมีเสน่ห์มากขึ้น ฉลาดมากขึ้น สุขภาพดีมากขึ้น... แต่มันก็มาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่ายซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่สามารถยอมรับมันได้ ประชากรถูกแบ่งออกเป็นสองพวก: มนุษย์เดินดิน และ ผู้ที่เป็นสุดยอด


แดร์เดวิลไม่ชอบอะไรที่มันกำลังทำกับเมืองของเขา

(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)


แดร์เดวิล (Daredevil) ยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง

"โทนี่ สตาร์กได้มอบแอป เอ็กซ์ตรีมมิส ใหม่ให้กับประชาชนของซานฟรานซิสโก ความสมบูรณ์แบบ--ที่ดาวน์โหลดได้ผ่านสมาร์ทโฟน"

"แต่มันไม่ใช่ของขวัญ มันก็แค่ของทดลองใช้"

"เขาแบ่งแยกเมือง สร้างมันเป็นสวรรค์ที่มาพร้อมกับราคาอันแสนสาหัส"

"คนผู้ซึ่งไม่สามารถซื้อมันไหวกลายเป็นคนที่สิ้นหวังในการได้มันกลับมา และผู้ที่สิ้นหวังนั้น---"

??? : อย่าร้อง



"ก็ทำในสิ่งที่มันสิ้นหวัง"

เด็กหนุ่ม : แค่ส่งกระเป๋าบ้านั่นมาให้ผม

หญิงสาว : ไม่ ชั้นต้องใช้มันนะ

"หัวใจของเด็กน้อยกำลังเต้นอย่างรุนแรงซึ่งชั้นรับรู้ได้โดยไม่ต้องมีประสาทสัมผัสนี่ เขากลัวยิ่งกว่าผู้หญิงที่เขากำลังปล้นซะอีก"

อย่างที่แดร์เดวิลพูดไว้เด็กชายที่ปล้นนั้นทั้งเหงื่อตก เสียงสั่น

เด็กหนุ่ม : ได้โปรด ผมไม่อยากจะทำร้ายคุณจริงๆนะ ผมแค่----

ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากกว่านั้นแดร์เดวิลก็เข้าโจมตีทันที

เด็กหนุ่ม : อ้าก!



แดร์เดวิลจัดการเด็กหนุ่มคนนั้นลงได้อย่างง่ายดาย

หญิงสาว : แดร์เดวิล!



แต่ทุกอย่างกลับไม่จบลงแค่นั้น เมื่อหญิงสาวที่ถูกปล้นหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปของเด็กหนุ่มคนนั้นไว้

หญิงสาว : แกเห็นนี่มั๊ย ? ชั้นนะเป็นคนดังบนอินเทอร์เน็ตและรูปนี่จะออนไลน์ในอีก 30 วินาทีนี่แหละ ไอ้ ****!

เด็กหนุ่ม : ไม่นะ ได้โปรดเถอะ

หญิงสาว : ชีวิตแกนะจบสิ้นแล้ว

แล้วเธอก็เดินจากไป เมื่อแดร์เดวิลเข้ามาเช็กปืนดูก็พบว่า

Daredevil : ไม่มีลูกกระสุน

เด็กหนุ่ม : พ่อของผมต้องฆ่าผมแน่

"อาชญากรรมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในเมืองนี้ ชีวิตกำลังถูกทำลาย"

"คงได้เวลาที่โทนี่ สตาร์กกับชั้นจะต้องคุยกันหน่อยเรื่อง "สรวงสวรรค์" ของเขานี่ซะแล้ว"



"สตาร์ค ไอร์แลนด์ ก่อนหน้านี้คืออัลคาทราซ*"

"ชั้นว่ามันก็เหมาะดีที่สตาร์คเลือกอดีตบ้านของเหล่าอาชญากรเป็นฐานปฏิบัติการใหม่ของเขา"

"เพราะตอนนี้หมอนั่นกำลังยึดครองค่าไถ่ของเมืองทั้งเมืองไว้อยู่"

*Alcatraz Island หรือ เกาะอัลคาทราซ เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางอ่าวซานฟรานซิสโก ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เกาะนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ และยังเป็นคุกทหารจนถึงปี 1963 หลังจากนั้น เกาะอัลคาทราซก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว



Daredevil : มีข่าวร้ายวะ สตาร์ค--

Daredevil : --ชั้นมาจัดการนาย




Tony : ชั้นจะไม่เอาเรื่องเล็กน้อยนี่มาถือเป็นอารมณ์กับนายหรอกนะ



Tony : นายก็รู้ว่านายเป็นที่ต้อนรับเสมอ แต่ถ้านายจะกลับมาอีก...

Tony : ...ปรับทัศนคติของนายซะก่อน

สตาร์คที่เทพขึ้นสามารถจับแดร์เดวิลโยนลงน้ำได้อย่างง่ายดาย

"นั่นไง ก็นะ--"

"--มันควรจะไปได้สวยกว่านี้สิ"

อ่านรายละเอียดการต่อสู้ของโทนี่ สตาร์ค และ แดร์เดวิลได้ใน AXIS #6 นะครับ



"ชั้นเกลียดทะเล มันคือหนึ่งในที่ๆเรดาห์ของชั้นใช้การไม่ได้"

"เสียงที่ไม่มีทิศทาง ไม่มีกลิ่น ไม่มีอะไรให้สัมผัส"

"ห้องขังทางประสาทสัมผัสของธรรมชาติ"

"และจากความสูงที่ชั้นเพิ่งตกลงมา ชั้นไม่รู้เลยว่าชั้นตกมาลึกแค่ไหน"

"ทางเดียวที่จะรู้ว่าเหนือน้ำอยู่ทางไหนคือวัดจากการลดลงของแรงดันในแก้วหูของชั้น"

"แต่ชั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย"

"ทักษะทั้งหมดของชั้นถูกแทนที่ด้วยการตะเกียกตะกาย ในขณะที่สมองของชั้นหวีดร้องว่า อย่าจม"



Daredevil : เฮ่ออออออ!

"ชั้นยังได้ยินเสียงงานปาร์ตี้ ได้ยินเสียงของความตื่นเต้น อะดรีนาลีน ทุกสิ่งได้เพิ่มขึ้นมา แขกของโทนี่ได้ถูกเติมเชื้อไฟจากการที่เขาเหวี่ยงชั้นออกมาจากที่นั่น"

"เผชิญหน้ากับเขาที่บ้านเป็นเรื่องที่โง่จริงๆ มันโจ่งแจ้งเกินไป กลายเป็นว่าชั้นเพิ่งทำให้หมอนั่นได้โชว์ออฟ"



"และโทนี่ สตาร์คก็ชอบให้มีผู้ชมอยู่ตลอด"

และก็เป็นไปตามคาดโทนี่กลับมาคุยเรื่องแดร์เดิวลกับคนอื่น

Tony : ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี นั่นเป็นความบันเทิงสำหรับค่ำคืนนี้ แดร์เดวิล ชายผู้ไร้ความกลัว

Tony : ถึงแม้ผมจะต้องบอกว่า สำหรับ "ชายผู้ไร้ความกลัวแล้ว" ตอนเขาถูกโยนลงไปนี่ทำหน้าแบบพวกวัยรุ่นขี้กังวลเลยอะ

Tony : เอาละ ตัวทำลายปาร์ตี้ของเราเข้าใจมันผิดที่ผิดทางไปหน่อย แต่เขาก็พยายามจะอธิบายว่ามันมีปัญหา และผมก็ไม่ได้น่าสงสารอะไร



Tony : และทีนี้ก็ถึงเวลาที่พวกคุณจะอยากหยิบกล้องออกมากันแน่

Tony : มันชัดเจนว่าราคาของเอ็กซ์ตรีมมิสนั้นสูงเกินไปสำหรับบางคน ผมก็เห็นใจจริงๆ

Tony : แต่มันเป็นสินค้าที่น่าอัศจรรย์ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเข้าถึงมันได้แบบฟรีๆ แต่ต้นทุนของการทำให้มันใช้งานได้เนี่ยก็มหาศาลเอามากๆ

Tony : ยังไงซะ ผมก็อยากจะมอบความหวังเล็กๆน้อยๆให้กับคนที่กำลังอยากได้มันจริงๆ พรุ่งนี้ผมจะไปยังถนนของซานฟรานซิสโก และเอ็กซ์ตรีมิสก็จะไปกับผมด้วย

Tony : แล้วผมจะมอบเอ็กซ์ตรีมิสให้ใช้ฟรีๆ 24 ชั่วโมง สำหรับสมาร์ทโฟนทุกเครื่องในรัศมีห้าสิบฟุตรอบตัวผม

 

Tony : ผมจะเป็นความหวังอันส่องประกายให้พวกคุณ

Tony : พรุ่งนี้ที่ถนนแคสโตร ตอนเที่ยง



วันต่อมาที่ถนนแคสโตร...

...หลังจากเลยเที่ยงไปสองชั่วโมงครึ่ง

Tony : มีกฎสองข้อ ผมรู้ว่านี่มันน่าตื่นเต้นมากๆ แต่ผมจะยินดีมากถ้าพวกคุณพยายามที่จะไม่เหยีบเท้าคนข้างๆคุณ

Tony : มันยากที่จะเป็นแสงแห่งความหวังตอนที่ผู้คนกำลังกรีดร้องนะ

Tony : แล้วก็-- กรีดร้องเนี่ย-- ไม่เอานะ


Tony : ผมมีปาร์ตี้ไปเมื่อคืนแบบที่แม้แต่เอ็กซ์ตรีมิสก็ยังไม่สามารถช่วยผมให้สร่างได้เลยล่ะ

แต่ก่อนจะได้พูดอะไรมากมาย ชายคนหนึ่งก็เดินเข้าตรงเข้ามาหาเขา

??? : ชั้นรู้ว่าแกกำลังจะทำอะไร

??? : ชั้นเห็นที่แกเดินไปตามท้องถนน ชั้นเห็นที่แกเปลี่ยนผู้คนเหล่านั้นให้กลายเป็นอะไร

Tony : เยี่ยม คุณนี่ช่างสังเกตนิ

??? : แกซื้อพวกเขาด้วยไอ้นี่ไม่ได้หรอก พวกเขาไม่ได้รักแก

แต่พอพูดจบก็มีเสียงคนตะโกนแทรกมาจากฝูงชนที่มาเฝ้ารอโทนี่

???2 : โทนี่ สตาร์ค ผมรักคุณนะ

Tony : เห็นไหม นายคนนั้นรักชั้นอะ

??? : ลูกชายของชั้น เขา... ชั้นที่ดื้นรนกับการติดยามาตลอดทั้งชีวิตของชั้น ในที่สุดเขาก็หนีไปจากคำสาปที่ชั้นก่อได้ แต่แล้วแก--

??? : แกก็เปลี่ยนเขาไปในชั่วข้ามคืน แกไม่ให้เขาเลยแม้แต่ทางเลือก

Tony : แน่นอนอยู่แล้วว่าชั้นน่ะให้ทางเลือก นี่ไม่มีใครอ่านข้อตกลงการใช้งานก่อนคลิ๊กยอมรับกันเลยรึไง ?


??? : แกมันไอ้ปีศาจ

ชายคนนั้นหยิบปืนสั้นออกมาจ่อที่หน้าของโทนี่ทันที

Tony : ขอเหอะ คุณกับผมทั้งคู่ก็รู้ว่าคุณจะไม่--



ปัง

แต่ปรากฎว่าชายคนนั้นกลับยิงใส่หน้าของโทนี่ที่ไม่ได้ใส่เกราะเต็มๆ



จนมีควันขึ้น (เดี๋ยวนะ ยิงยังไงให้หน้ามันควันขี้น) ทำให้ฝูงชนโดยรอบจะรุมกระทืบ แต่สตาร์คก็คว้ามือเขาเอาไว้


แล้วพาบินขึ้นมาบนฟ้า

??? : อะไรกัน... ?

Tony : ชั้นเรียกมันว่ากราฟีน (Graphene) แข็งแกร่งกว่าโลหะแทบทุกชนิด และโปร่งใส

Tony : ก็ชั้นปิดหน้าตลอดไม่ได้นิ จะให้ชั้นปฏิเสธโลกแบบนั้นได้ยังไง ?



Tony : เอาละ การยิงกบาลชั้นนะ ชั้นยกโทษให้ได้

Tony : แต่นายโจมตีสินค้าชั้นในที่สาธารณะด้วย และนั่นเป็นอะไรที่ชั้นยอมไม่ได้ว่ะ

Tony : พวกเราจะแก้ไขเรื่องนี้กัน

Tony : ชื่อของนายคือ...

Tony : เดวิด เบรย์

Tony : ชื่อของลูกชายนายคือ...



Tony : ...ซิมม่อน

Tony : อา ชั้นเห็นละว่าทำไมนายถึงกังวลนัก ไม่กี่วันก่อน เขาเอาปืนไปจี้ผู้หญิงคนนึงแล้วเธอก็โพสต์รูปเขาออนไลน์และมันก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทุกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค

Tony :ซิมมอนดูกลัวนะในรูปนี้ ชั้นพอจะมองออกว่าพ่อลูกเหมือนกันเลย

Tony : เอาละ ชั้นจะทำให้รูปนี้ไปพ้นๆให้ จะไม่มีการตามมันออนไลน์อีก ชั้นจะทำขนาดลบมันออกจากมือถือผู้หญิงที่ถ่ายรูปนี้ให้ด้วย แต่นายต้องทำบางอย่างให้ชั้น

David : อะไรล่ะ ?

Tony : นายต้องกลับลงไปข้างล่างนี่กับชั้น พวกเราจะบอกผู้คนว่านี่เป็นส่วนนึงของการแสดง และนายจะเงียบให้มากๆ แล้วยิ้มให้กว้างๆเข้าไว้

Tony : และนายก็จะดาวน์โหลดฟรีเอ็กซ์ตรีมิสของนายซะด้วย

David : ไม่... ได้โปรด ผมไม่ต้องการ--

Tony : เดวิด ฉลาดหน่อยสิ มันไม่มีทางออกอื่นจากเรื่องนี้หรอก

Tony : นายเพิ่งพยายามจะฆ่าชั้นต่อหน้าคนเป็นพันแล้วก็กล้องของพวกเขานะ แถมลูกชายนายกำลังมีปัญหา ชั้นสามารถทำให้เรื่องนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมสำหรับหมอนั่นก็ได้

Tony : แล้วก็--


Tony : --ไกลนะกว่าจะถึงพื้น

เมื่อไม่มีทางเลือกเดวิดจำใจรับข้อเสนอและโหลดเอ็กซ์ตรีมมิสมาใช้

David : แก ไอ้บัดซบ

Tony : มันมีอะไรยากกันละ ? รู้สึกยังไงบ้าง ?



David : เหลือเชื่อเลย

Tony : ใช่โคตรๆ ตอนนี้ก็ยิ้มได้แล้ว

เมื่อมาถึงข้างล่างพวกเขาก็ทำเหมือนมันเป็นแค่การแสดง แต่ท่ามกลางฝูงชน แดร์เดวิลก็แอบมาสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ

"ไม่มีใครได้ยินบทสนทนาของพวกเขา"

"แต่ชั้นได้ยินทุกคำ"


"--เขาจะต้องถูกหยุด"

แดร์เดวิลแอบย่องเข้ามาที่บ้านของสตาร์คอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับง่ายจนเขายังงง

"มันไม่ควรจะง่ายแบบนี่ที่จะกลับเข้ามาในบ้านของหมอนี่สิ มันควรจะมีระบบป้องกันสุดไฮเทคเต็มไปหมด"
"นี่ไม่ใช่สตาร์คแล้ว"
โทนี่ที่ลืมตาตื่นงัวเงียขึ้นมาก็เจอแดร์เดวิลเอาอย่าสลบให้ดมจนหลับไปอีกรอบ

"โทนี่ ไม่เคยประมาท"

ว่าแล้วก็อุ้มสตาร์คไป แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆก็ดันตื่นขึ้น

??? : นี่นายจะพาเขาไปไหนนะ

DD : อ๋อ มันก็แค่การรวมทีมนะ เราทำกันประจำ

??? : โอเค

แล้วเธอก็หลับต่อไปง่ายๆ


ที่ไหนซักแห่งหนึ่ง โทนี่ก็ถูกทำให้ตื่นขึ้นมาด้วยแสงจากอุปกรณ์พิเศษบางอย่างที่แดร์เดวิลใช้



Tony : แม็ท

Daredevil : นายถูกตัดขาดแล้ว

Daredevil : เครื่องอีเอ็มพีขนาดเล็ก

Daredevil : เราอยู่ใต้ดินลึกและมีเกราะป้องกัน ไม่มีสัญญาณอะไรจะเข้าหรือออกจากที่นี่ได้ ไม่มีอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง เกราะของนายจะไม่มาหานายหรอก

Tony : ทำไมกัน ? นายต้องการอะไร ?

Daredevil : ชั้นอยากจะรู้ว่ายังมีความเป็นายอยู่แค่ไหนในนั้น



Tony : มันก็คือชั้นทั้งหมดนั้นแหละ!

โทนี่พยายามจะกระโจนใส่ทางต้นเสียงแต่ก็โดนแดร์เดวิลชกสวนกลับมา

Daredevil : อย่าพยามยามทำแบบนั้นอีก


Daredevil : นายอยู่ในโลกของชั้นแล้วตอนนี้ โทนี่

Daredevil : และนายจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนกว่าเอ็กซ์ตรีมิสจะหมดรอบของมันไป จนกว่าการเสพติดของผู้คนทั้งเมืองจะหายไป จนกว่าการฟื้นฟูจะเริ่มต้น

Tony : นายรู้ได้ยังไง ว่าการดาวน์โหลดเอ็กซ์ตรีมิสจะไม่ดำเนินต่อไปถ้าไม่มีชั้น ?

Daredevil : เพราะว่านายนะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างนะสิ ชั้นไม่คิดว่านายจะปล่อยให้มันทำงานโดยอัตโนมัติหรอก นายต้องเป็นผู้ควบคุมอยู่เสมอ

Tony : นายนี่เข้าใจชั้นได้ลึกซึ่งจริงๆนะ

Tony : งั้นถามตัวเองสิ ว่าถ้าชั้นชอบที่จะควบคุมนัก แล้วทำไมชั้นถึงปล่อยให้นายพาตัวชั้นมาได้ง่ายขนาดนี้



แล้วอยู่ๆด้านนอกก็เกิดแสงสีน้ำเงินขึ้น

Tony : นายคิดว่าชั้นไม่ได้แสกนหานายท่ามกลางฝูงชนเมื่อวานเลยรึไง ?

Tony : นายคิดจริงๆ ว่าชั้นจะไม่รู้เลยหรอว่านายจะกลับมาหาชั้นอีก ?

Tony : การเป็นคนตาบอดเนี่ย อาจจะทำให้นายไม่เข้าใจว่าชั้นเห็นทุกๆอย่างนั่นแหละ

Tony : การเอาสัญญาณไฟฟ้าออกไป ตัดขาดชั้นจากสัญญาณต่างๆ นั่นเป็นอะไรที่ฉลาดมาก

Tony : แต่มันไม่ได้มีแค่สัญญาณไฟฟ้าอีกต่อไปแล้ว เทคโนโลยีนะต้องก้าวข้ามไปเสมอ

Tony : เทคโนโลยีชีวภาพซิมไบโอตไงละ มันมีส่วนเล็กๆของชั้นอยู่ในนั้น

Tony : มันมีชีวิตแม็ท ชั้นรู้สึกถึงมันได้



Tony : มันก็รู้สึกถึงชั้นได้

Tony : ก๊อก ก๊อก

ตูมมมมมมมมม

ประตูถูกทำลายกระเด็นเข้ามาจนแดร์เดวิลหลบเกือบไม่ทัน



Tony : นายเห็นรึยัง ชั้นต้องการให้นายมาหาชั้นเอง

Tony : เพราะชั้นมีบางอย่างจะให้นายไง

แล้วก็ช็อตแดร์เดวิลจนสลบไป


Tony : แม็ท

"ชั้นอยู่ที่เตียงของชั้น ชั้นได้กลิ่นมัน แต่..."

Tony : ไม่เอาน่า ชั้นไม่ได้เล่นงานนายหนักขนาดนั้นซักหน่อย

Tony : แล้วการมานั่งดูนายนอนนี่กำลังจะเริ่มทำให้ชั้นเริ่มขนลุกแล้วนะ

"แต่มีบางอย่างผิดปกติ"


Tony : แม็ท!

เมื่อได้ยินเสียงโทนี่เรียกแดร์เดวิลจึงตกใจลืมตาตื่น (เดี๋ยวๆ)

Tony : นั่นแหละ ลุกขึ้นมาส่องประกายซะ ชั้นบอกแล้วไงว่ามีของจะให้นาย

"พระเจ้า"



"ชั้นมองเห็น"


จบเล่ม 2.

***อ่านจบแล้วก็คอมเมนท์กันหน่อยสิเธอว์***

------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกันท้ายเล่ม
          สำหรับเล่มนี้ผมว่าเล่ห์เหลี่ยมของสตาร์คมีมากกว่าเล่มที่แล้วซะอีก เล่มที่แล้ววิธีการอาจจะโหดไปนิดแต่เล่มนี้นิร้ายกว่ามาก อย่างถ้าจัดการแดร์เดวิลให้เด็ดขาดก็ดึงมาเป็นพวกแทนโดยการให้ลองเอ็กซ์ตรีมมิสแล้วก็เล่มถัดไปที่จะออกเดือนหน้านั้นเป็นเดือนที่ผมสอบพอดี ดังนั้นของยกยอดดองไว้จนกว่าจะสอบเสร็จนะครับ 

Venom

          สำหรับเล่มนี้ผมมาช่วย Venom เรียบเรียงคำพูดและช่วยแปลเพิ่มเติมในบางจุดที่เขาไม่ได้แปลไว้ พร้อมกับตัดต่อรูปนิดหน่อย ต้องถือว่าเล่มนี้โทนี่ร้ายมาก เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจริงๆ ยิ่งการทำให้ตาของแดร์เดวิลมองเห็นได้ในตอนจบเล่มนี่ถือว่าแสบมาก แต่ไม่คิดว่าคนอย่างแดร์เดวิลจะยอมเห็นดีเห็นงามไปกับโทนี่แค่เพราะพี่แกทำให้เขามองเห็นหรอกนะ (แต่จริงๆในจักรวาลมาร์เวลตอนนี้ที่วิทยาการก้าวหน้าขนาดนี ไอ้เรื่องที่แดร์เดวิลตาบอด แฟลช ทอมป์สันขาขาด หรือโปรเฟสเซอร์ชาร์ล ซาเวียร์ขาพิการนี่ ผมว่ามันน่าจะแก้ไขได้ง่ายๆเลยนะ ฮ่าๆๆ) ส่วนเล่ม 3 ถ้าแอดมินเวน่อมติดสอบ ผมอาจจะทำให้แทนก็ได้ครับ ถ้ามีเวลาพอ 

Musashi

4 ความคิดเห็น:

  1. ไอ้เรื่องที่แดร์เดวิลตาบอด แฟลช ทอมป์สันขาขาด หรือโปรเฟสเซอร์ชาร์ล ซาเวียร์ขาพิการนี่ ผมว่ามันน่าจะแก้ไขได้ง่ายๆเลยนะ ฮ่าๆๆ

    ผมว่าคนที่ต้องโวยที่สุคคือนิค ฟิวรี่ครับ 555

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ1 ธันวาคม 2557 เวลา 00:29

    มาเหนือจริงแฮะ

    ตอบลบ
  3. ในอดีตมีเคยรักษาหายไหมละครับ

    ตอบลบ
  4. เทคโนโลยีของโทนี่ นี้ เอาเข้าจริงๆ มันขนาด cosmo เลย นะ

    ตอบลบ